ขั้นตอน จีบหนุ่มในโรงเรียน แบบเนียนๆ ให้ได้ผล

               จากประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาจากคนรอบข้างและตามทรรศนะของผู้เขียนเองซึ่งเป็นผู้ชาย เชื่อสิว่า

โดยปกติแล้ว เปอร์เซ็นต์ในเรื่องการที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายจีบผู้ชายก่อนนั้นจะมีโอกาสจีบติด มากกว่าผู้ชายเป็นฝ่ายจีบผู้

หญิงก่อน และยิ่งเป็นวัยมัธยมที่ยังเป็นความรักแบบ Puppy Love แล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าทุก

คนอยากทราบว่าต้องทำอย่างไร เรามีวิธีง่ายๆ มาฝาก

                           

a49f035d9

1. เปิดตัวอย่างเซียน แนบเนียนให้เป็นธรรมชาติ

ถ้ารู้สึกชอบใครสักคนมากๆ จนอยากจะจีบเขาคนนั้นมาเป็นแฟน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือ การเริ่ม

ทำความรู้จักซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอก ยิ่งเป็นฝ่ายหญิงเข้าไปจีบหนุ่มในโรงเรียนก่อนด้วยแล้ว เชื่อสิ

ว่าเขาคนนั้นคงไม่แสดงทีท่ารังเกียจหรือปฏิเสธตั้งแต่แรกหรอก เพียงแต่สาวๆ อาจจะต้องทำให้แนบเนียนสักนิด

แค่เดินเข้าไปหาเขาคนนั้น พูดคุยทักทายตามปกติ ถ้ามีเรื่องชวนคุยอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็คุยไป โดยให้มีความเป็น

ธรรมชาติที่สุด ไม่ต้องพยายามคุยแค่เรื่องที่เขาชอบอย่างเดียว หรือพูดแต่เรื่องที่เราชอบอย่างเดียว เพราะมันจะ

ทำให้บทสนทนาน่าเบื่อ และนำมาสู่การตัดบทได้

ซึ่งการคุยโต้ตอบกันเรื่องสัพเพเหระทั่วไปอย่างเป็นธรรมชาติ มีความจริงใจ รวมถึงอิริยาบถต่างๆ ประกอบการพูด

คุย เช่น รอยยิ้ม หรือเสียงหัวเราะ ยิ่งเป็นวัยมัธยมที่มีความสดใสตามวัยของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์น่า

เข้าหา และน่าดึงดูดใจด้วยตัวมันเอง โดยที่ไม่ต้องไปทำอะไรเวอร์วังอลังการมากมาย เรื่องง่ายๆ แค่นี้แหละ ก็

สามารถเป็นความประทับใจเมื่อแรกพบ หรือเฟิร์สอิมเพรสชั่น ที่ดีมากๆ เกินกว่าที่คาดไว้เสียอีก แต่ที่สำคัญคือ

อย่าพยายามทำตัวให้ดูเด่นจนเกินไป เพื่อดึงดูดความสนใจจากหนุ่มคนนั้น เพราะมันอาจทำให้เขาหนีห่างออกไป

แทน ดังนั้นแค่ทำอะไรที่ดูเรียบง่าย และเป็นธรรมชาติตามที่ตัวเองเป็นก็พอ

2. เพิ่มระดับความสนิทด้วยการใกล้ชิดเธอ

การเรียนย่อมมีบางวิชาที่ต้องทำงานกลุ่ม สาวๆ ควรใช้โอกาสนี้ในการอยู่กลุ่มเดียวกับหนุ่มที่ตัวเองชอบ เพื่อจะได้

ทำงานกลุ่มด้วยกัน อย่างน้อยก็จะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับเขามากกว่าเดิม จากนั้นถ้ามีการบ้านที่ต้องทำ ก็อาจจะ

ชวนเขาไปทำการบ้านด้วยกัน ถ้ามีติวหนังสือวิชาต่างๆ ก็ชวนเขามาติวด้วยกัน หรือถ้ามีเรียนพิเศษก็ชวนไปเรียน

ด้วยกันก็ได้ เพื่อที่จะได้เพิ่มระดับความใกล้ชิดระหว่างตัวเองกับเขาคนนั้น

เมื่อมีเรื่องให้สนิทสนมกันมากขึ้น ก็จะได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทุกอย่างทั้งหมดนี้ต้องทำด้วย

ความแนบเนียน อย่ากระโตกกระตาก เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ถูกมองในด้านลบด้วย ว่าเป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายมากจน

เกินงาม ซึ่งในวัยนี้การเข้าหาด้วยเรื่องเรียนอย่างเนียนๆ เป็นวิธีเพิ่มระดับความใกล้ชิดสนิทสนมอย่างดีที่สุด แต่ก็

ต้องอย่าลืมโฟกัสที่เรื่องเรียนกันด้วยเนาะ

3. เป็นห่วงเป็นใยพาหัวใจไหวหวั่น

เราชอบเขาอยู่แล้วจริงมั้ย? ดังนั้นการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยย่อมเป็นเรื่องที่ไม่แปลกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะ

ต้องแสดงความห่วงใยต่อเขามากขึ้นอีกระดับหนึ่ง ประมาณว่ามากกว่าขั้นเพื่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟน เพราะ

ตอนนี้เรายังเป็นแค่คนที่ชอบเขาเท่านั้น จึงเป็นการแสดงความห่วงใยที่สื่อให้เขาคนนั้นรับรู้ได้ว่า ?ผู้หญิงคน

เนี้ย กำลังชอบเรานะ? แต่ยังไม่ต้องยิงให้ตรงประเด็นโดยการบอกชอบเขาไปตรงๆ เลย เพราะมันจะดู

โผงผางเกินไป ซึ่งอาจทำให้เจ็บหนักกลับมาได้

แต่การแสดงออกถึงความห่วงใยในแบบที่กล่าวมาข้างต้น เช่น เวลาที่เขาไม่สบายลาป่วยอยู่บ้าน ก็คอยช่วยเหลือ

เขา โดยการบอกเขาว่าวันนี้เรียนอะไรบ้าง ถ้ามีการเลคเชอร์ระหว่างเรียน ก็ให้เขายืมเลคเชอร์ แต่ไม่ต้องถึงขั้นจด

เลคเชอร์แทนเขา อาจคอยช่วยเหลือเขาเวลาทำการบ้าน แต่ไม่ต้องทุ่มสุดตัวถึงขั้นทำการบ้านแทนเขา เป็นต้น

ต้องจำไว้ว่าทุกอย่างที่ทำนี้ต้องอยู่ในความพอดี อย่าให้เยอะเกินไป เพราะไม่งั้นเราอาจตกเป็นของตายตั้งแต่แรก

หรือเขาอาจตกลงคบกับเราเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวก็เป็นได้ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันก็เป็นเหมือนกับหลัก

การน้ำซึมบ่อทราย ค่อยๆ ซึมเข้าไปเรื่อยๆ จนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตเขา ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ต้อง

หวั่นไหวกันบ้างล่ะ

4. เช็คเรทติ้ง มาแบบนิ่งๆ แต่อ่านเกมขาด

หลังจากผ่านมาทุกขั้นตอนแล้วตอนนี้ก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เราต้องเช็คสัญญาณจากเขาคนนั้นกันบ้าง ง่ายก็คือๆ

ลองสังเกตพฤติกรรมและปฏิกิริยาที่เขาตอบโต้กลับมาว่าไปในทิศทางไหนอย่างนิ่งๆ เพื่อจะได้อ่านเกมให้ขาด

เพราะด้วยธรรมชาติของผู้ชายส่วนใหญ่แล้วจะมีความเป็นสุภาพบุรุษแฝงอยู้ในตัวไม่มากก็น้อย ดังนั้นเวลาที่เขารับ

รู้ว่ามีสาวมาชอบเขาและพยายามจีบเขาอยู่ แต่เขาไม่ได้รู้สึกชอบ และรู้สึกว่าเธอคนนั้นไม่ควรจะล้ำออกมา

จาก Friend Zone ล่ะก็ เขาจะแสดงออกทางการกระทำมากกว่าการพูดออกไปตรงๆ เพื่อไม่ให้ผู้หญิงเสียความ

รู้สึกมากเกินไป

ยกตัวอย่างเช่น เขาอาจจะปฏิเสธแบบอ้อมๆ ด้วยการอยู่เป็นกลุ่มกับเพื่อนตลอด ไม่ว่าจะติวหนังสือ ทำการบ้าน

รวมถึงการไปไหนมาไหนกันก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่แบบสองต่อสอง หรือพอเริ่มสนิทกันมากจนเขา

รู้สึกได้ว่ามันเริ่มเกินคำว่าเพื่อน แล้วเขาเริ่มมีการตีตัวออกห่างไปเรื่อยๆ นั่นแหละคือการ

บอกปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจของผู้ชาย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนย่อมมีสัญชาตญาณที่สามารถรับรู้และประเมินผล

ได้อยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีท่าทีไปในทางบวกหรือทางลบ พอสาวๆ รู้ว่าท่าทีของเขาเป็นไปในทิศทางไหน ก็

ค่อยปฏิบัติการขั้นสุดท้ายต่อไป

5. ถึงคราวปิดจ็อบ ถ้าไม่ฟอร์มท็อปก็แค่เท

หลังจากเช็คเรทติ้งจนพอที่จะประเมินสถานการณ์ได้แล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาในทิศทางไหน ก็มาถึงขั้นตอน

สุดท้ายที่ต้องปิดจ็อบกันสักที ในขั้นตอนนี้ขอบอกก่อนเลยว่ามันต้องใช้ การวัดใจ ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ยังไง

การได้พูดออกไป ก็ดีกว่าเก็บเงียบไว้ในใจตลอดกาล เพราะฉะนั้นสาวๆ ก็ลองพูดออกไปเลยว่า ?เราชอบเธอ

นะ คบกันมั้ย? ซึ่งผลที่ออกมาอาจสมใจอยาก หรือไม่เป็นไปตามที่ตัวเองหวังไว้ก็ได้ ดังนั้นคิดซะว่า ถ้าผลออก

มาดีเราก็ได้กำไร แต่ถ้าผลออกมาไม่ดีก็ถือว่าเสมอตัวไปแล้วกัน ส่วนใครที่คิดไตร่ตรองดูแล้ว ว่าไม่ควรพูดออก

ไปจะดีกว่า ก็ไม่ควรมาเสียใจทีหลังนะจ๊ะ เพราะว่าเธอได้เลือกทำไปแล้ว



SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา