ไม่มีความสัมพันธ์ใดที่จะคงอยู่ไม่ตลอดกาล ไม่ว่าจะฉันท์คนรักหรือฉันท์เพื่อน แต่ว่าในช่วง
ชีวิตหนึ่งคุณอาจจะเคยตกหลุมรักใครสักคนและอยากที่จะเรียนรู้ทุกๆ อย่างเกี่ยวกับเขา รวมไปถึงให้
เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ แล้วแบบไหนกันล่ะที่คุณจะเรียกได้ว่าเขาเป็น คู่ชีวิตหรือเนื้อคู่
ของคุณ มาดู 4 ข้อเปรียบเทียบกันเลย
1.ช่วงเวลา
ความต้องการใครสักคนเข้ามาในชีวิตต่างกัน เนื้อคู่ของคุณจะเข้ามาในเวลาที่คุณต้องการเขาพอดิบ
พอดี และมีความพร้อมที่จะรักและดูแลกันในทุกๆ เวลาเพื่อที่จะก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน แต่พอ
หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป คุณอาจจะเลือกที่จะบอกลาเนื้อคู่ของคุณและไปตามเส้นทางของคุณเอง
โดยยังมีเขาอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดเวลา
ส่วนคู่ครองนั้น อาจจะเข้ามาในช่วงชีวิตที่คุณอาจจะไม่ได้ต้องการเขาจริงๆ แต่เขาสามารถดูแลชีวิต
คุณได้ ชี้นำเส้นทางหรือแนวคิด แม้ว่าคุณจะรักหรือไม่ได้รักเขามากมายก็ตาม แต่ความสมดุลทาง
ความคิดจะทำให้คุณและคู่ครองไปต่อด้วยกันได้
2.รู้ใจ
เนื้อคู่ของคุณมักจะรู้ใจคุณไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าคุณจะแค่มองตาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดเขาก็จะรู้
ว่าคุณคิดอะไร หรือประโยคอะไรต่อจากนี้ที่คุณจะพูดต่อ ความรู้สึกที่เปรียบเสมือนการเติมเต็มซึ่งกัน
และกันอย่างแน่นแฟ้น เพราะคุณทั้งคู่ย่อมเกิดมาเพื่อเข้าอกเข้าใจอย่างแท้จริง
ส่วนคู่ครองของคุณอาจจะไม่ได้รู้ใจคุณไปเสียหมดทุกเรื่อง แต่เขาก็สามารถปรับทัศนคิตกับคุณ ไถ่
ถามคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณคิดอยู่ รับได้ถึงข้อดีข้อเสียของคุณเพื่อประครองชีวิตคู่ให้เป็นไปอย่างมี
สมดุล คู่ครองอาจจะไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกรักของคุณมากนัก แต่เขาจะสามารถยืนข้างคุณได้
ยาวนานด้วยเพราะความมั่งคงในความสัมพันธ์แม้จะในวันที่ช่างสับสนวุ่นวายก็ตาม
3.เข้าอกเข้าใจ
เนื้อคู่ของคุณจะเข้าใจคุณได้ทุกเรื่องแม้ว่าตัวคุณจะอยู่ไกล และเชื่อมั่นในตัวคุณอยู่เสมอ โดยไม่
ต้องอธิบายว่าคุณอาจจะไปทำโน้นทำนี่มา เราจะไม่ผิดใจกันง่ายๆ และเข้าใจคุณผิดเป็นอันขาด
ส่วนคู่ครองนั้นคุณจำเป็นต้องเรียนรู้สึกกันและกัน ต้องคอยอธิบายว่าคุณทำอะไรอยู่ที่ไหน เพื่อ
ป้องกันการเข้าใจผิดเพราะคุณไม่อาจล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดของเขาได้อย่างลึกซึ้งนั่นจึงมีความจำเป็น
อย่างยิ่งว่าคุณต้องคอยพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติให้เข้าใจกัน เรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันมากกว่าการเรียนรู้ที่
จะรักกัน
4.ความสำคัญ
เนื้อคู่ของคุณจะพยายามให้เขาเป็นสิ่งสำคัญหลักในชีวิตของคุณในทุกๆ เรื่อง คุณจะต้องนึกถึงเขา
ก่อนเป็นอันดับแรก หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในชีวิตคุณ คุณจำเป็นต้องบอกเขาให้ล่วงรู้เป็นคนแรกๆ
และเขาจะเป็นคนที่คอยอยู่เบื้องหลังทุกเหตุการณ์ของคุณและเฝ้ามองคุณอยู่เสมออย่างภาคภูมิใจ
และยินดีที่ได้ยืนอยู่ในห้วงความคิดของคุณตลอดเวลา
คู่ครองของคุณอาจจะเป็นเหมือนผู้ช่วยของคุณเสียมากกว่า เขาไม่ได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้ต้อง
อยู่ทุกเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของคุณ เขาอยู่จะอยู่ข้าง แต่เขาจะเอื้อมมือเข้ามาช่วยเสมอเพียง
แค่คุณเอ่ยปาก เขาจะเป็นเพื่อนร่วมชีวิตที่ดีของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง หรือ เนื้อคู่ก็ต่างมีข้อดีกันไปคนละด้าน แล้วคนแบบไหนล่ะที่คุณกำลัง
มองหาอยู่ คุณอาจจะอยากได้เนื้อคู่เพื่อเติมเต็มความรู้สึกด้านความรักอย่างเต็มเปี่ยม หรืออาจจะ
อยากได้คู่คิดที่ทำให้คุณมั่นคงด้านความรู้สึกและความเป็นอยู่แบบไม่หวือหวา นั่นก็แล้วแต่คุณแล้ว
ว่าอยากให้ใครมายืนอยู่เคียงข้างคุณ
