เชื่อว่า อาจมีสาวๆ หรือ หนุ่มๆ หลายคนที่กำลังตกหลุมรักหนุ่มหน้าใส สาวหน้าหวาน ในที่
ทำงานเดียวกัน และคงไม่มีปัญหาถ้าคนสองคนเกิดจะรักกันขึ้นมา และไม่ผิดนโยบายของบริษัท แต่
ถ้าเขาหรือเธอคนนั้น กลับออกอาการไม่ปลื้มคุณ ระวังไว้เลยว่า บรรยากาศในการทำงานของคุณต้อง
เปลี่ยนไป!!
ดังนั้น มาดูกันหน่อยว่า ก่อนคิดจะบอกรักเพื่อนร่วมงาน ควรระวังอะไรบ้าง
คิดถึงผลที่ได้จากการบอกรัก ก่อนอื่นควรรู้เบื้องหลังของคนที่คุณแอบปลื้มซักหน่อย ว่า เขา
มีครอบครัว มีคนรัก หรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่หรือยัง ถ้าไม่มีก็ถือว่า พระเจ้าเปิดไฟเขียวให้คุณ
แล้วล่ะ!! หลังจากนั้นก็ถึงเวลาหยั่งเชิงความรู้สึกของเขาหรือเธอ และหากเขามีใจให้ ก็ถึงเวลาบอก
รัก อย่างมีศิลปะ แต่หากเขาหรือเธอไม่ปลื้มคุณขึ้นมา คุณจะเลือกวิธีตื้อ หรือรีบบอกลาก็ได้ไม่ว่า
กัน แต่อย่าลืมว่า คุณทั้งสองยังต้องทำงานร่วมกันอีกนาน
นึกถึงผลที่ได้จากการบอกเลิก ขอโทษนะคะเจ้านาย วันนี้ปวดท้องลุกไม่ขึ้นเลยค่ะ เจ้า
นายครับ วันนี้ผมป่วยขอลาหนึ่งวันนะครับ ประโยคเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นจากคู่รักที่ทะเลาะกันจนไม่
อยากไปทำงาน และยิ่งคุณทั้งคู่ทำงานที่เดียวกันแล้ว ต้องเป็นเรื่องแน่!!! ดังนั้น เมื่อตกลงปลงใจเป็น
แฟนกันแล้ว ก็ไม่ควรนำภาระหน้าที่การงาน ที่ต้องรับผิดชอบมาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว และเมื่อถึง
เวลาต้องเลิกกัน ก็อย่าให้ถึงกับต้องลาออกจากที่ทำงานเพื่อลืมเขา...
ไม่ควรตกหลุมรักเจ้านาย ไม่ว่าบอสซี่ของคุณจะหล่อ หรือสวยแค่ไหน แต่การตกหลุมรักเขา
หรือเธอคนนั้น จนถึงขั้นแอบติดต่อกัน และยังแอบออกเดตด้วยกันอีก ย่อมสร้างความสงสัยให้เพื่อน
ร่วมงานของต้องคอยจับผิด ยิ่งถ้าเป็นความสัมพันธ์แค่ชั่วคราว ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ยิ่งทำให้อายุการ
ทำงานของคุณสั้นลงตามไปด้วย
อย่าแสดงความรักจนเลี่ยนในที่ทำงาน เมื่อความรักผลิบานในที่ทำงาน ก็ไม่ควรแสดงออก
ให้เกินเลยจนเพื่อนร่วมงานข้างๆ อิจฉา หรือหมั่นไส้ พลอยทำให้ใครๆ ต่างไม่อยากคบ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง การทำงานที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน และหากคุณเป็นถึงเจ้านายคนที่ต้องคุมลูกน้องด้วย
แล้วล่ะก็ การต้องวางฟอร์มให้ดูเป็นโปรเฟสชั่นแนลอยู่ตลอดเวลา สำคัญอย่างยิ่ง
ข้อควรระวังเหล่านี้ เป็นเพียงบางประสบการณ์ ที่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ใช่ว่า คุณจะต้องปฏิเสธ
ความรักที่ก่อเกิดในที่ทำงานไปซะทุกครั้ง หากองค์กรของคุณเปิดไฟเขียวให้คุณรักกันได้...
