กลายเป็นเรื่องหนักใจทุกที เมื่อต้องกลายเป็น Guru ที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้เพื่อน บางทีก็ไม่รู้จะ
ปลอบยังไง เพราะถ้าออกตัวแรง ก็เสี่ยงต่อการ “เป็นหมา” ถ้าเงียบ เดี๋ยวเพื่อนจะหาว่าไม่สนใจ
หรือเปล่า? เอาเป็นว่าวันนี้เราจะมาเช็คกันว่าสาวๆ เป็นที่ปรึกษาสายไหน? แล้วคำปรึกษาแบบไหน
ที่เหมาะสม? หรือจริงๆ ควรนิ่งไปเลย ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ เราหาคำตอบมาให้แล้ว
ร้อยทั้งร้อย เราทุกคนย่อมเคยผ่านประสบการณ์เป็น Guru ความรัก หรือไปปรึกษาคนอื่นมาแล้วทั้ง
นั้น แน่นอนว่าการไปปรึกษาใครสักคน เกิดมาจากคนๆ นั้นกำลังมีเรื่องทุกข์ใจจนไม่รู้จะบอกใคร
และการที่มีคนมาขอคำปรึกษาจากเรา ก็ถือว่าคนนั้นให้ความสนิทความไว้วางใจในตัวเรา ยิ่งถ้าเป็น
เพื่อนสนิทซี้ปึกแล้ว ยังไงซะ! เวลาเขามีปัญหา ก็ต้องหันมาพึ่งเรานี่แหละ แต่เราเองในฐานะคนที่
ให้คำปรึกษากลับหนักใจ ไม่รู้จะต้องพูดแบบไหน หรือทำยังไงให้เพื่อนเราดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเชื่อ
ว่าทุกคนล้วนรักและหวังดีกับเพื่อนนั่นแหละ แต่คำปรึกษาแบบไหนที่เป็นประโยชน์และทำให้เพื่อน
เราดีขึ้นได้ พร้อมเช็คนิสัยตัวเองเวลาเพื่อนมาขอคำปรึกษา
Guru สายปลอบโยน
“ไม่เป็นไรนะ แกยังมีฉันอยู่ทั้งคน”
“เดี๋ยวมันจะต้องโอเค เชื่อสิ”
“อย่าคิดมากนะ”
แน่นอนในยามเพื่อนเศร้า ผิดหวัง หรือเสียใจ คำปลอมใจเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าหมดคำพูด ปลอบไป
เพื่อนไม่เห็นจะอารมณ์ดีหรือหยุดร้องไห้ คุณก็อย่าเพิ่งเสียใจหรือน้อยใจไปล่ะ! เพราะเชื่อสิว่าคนที่
จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ ไม่มีใครหรอก นอกจากตัวเองหรือคนที่ทำให้เขาเสียใจนั่นแหละ สำหรับ
เราเอง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาก็อยู่เป็นเพื่อน คอยรับฟัง เท่านี้ก็ทำหน้าที่เพื่อนได้ดีแล้ว สำหรับที่ปรึกษา
ปัญหาความรัก สายปลอบโยน ถือว่าผ่านเกณฑ์การเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว
สายซ้ำเติม
“ฉันบอกแกแล้ว ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้”
Hello! นี่เพื่อนเอง ถ้าใครชอบซ้ำเติมคนที่กำลังเศร้าเสียใจ อย่าเรียกว่าที่ปรึกษาเลยดีกว่า เรียกว่า
แผนกเหยียบย้ำคนอื่น เพราะถ้าได้เล่าปัญหาความรักให้คนที่ชอบซ้ำเติมฟัง คงได้แต่ดุด่า ซ้ำเติม
ความรู้สึกที่แย่อยู่แล้ว ก็ยิ่งดำดิ่งลงเหว แม้ว่าลึกๆ แล้วเราเองก็รักและเป็นห่วงเพื่อน แต่อาจจะ
แสดงออกมาด้วยการตำหนิคนที่ทำให้เพื่อนเราเป็นแบบนี้ก็ตาม จุดนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรร้ายแรง
หรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเราอาจจะพูดผิดเวลาไปหน่อย รอให้เขาเลิกรากันให้ขาดก่อน ค่อยทวงว่า “เออ
ตอนนั้นบอกแล้ว แกไม่เชื่อฉันเอง” แม้จะเป็นคำพูดเดียวกัน แต่คนฟังจะรู้สึกแตกต่าง เพราะเรื่อง
มันผ่านมาแล้ว ความเจ็บ ความเศร้าก็เบาบางลง
สายขี้ยุ
“แบบนี้ ต้องเลิก”
“เขานอกใจแกชัวร์”
จริงอยู่ว่าเพื่อนมาปรึกษาเรา เพื่อนก็คงอยากได้ความคิดเห็นจากเรา แต่เชื่อเถอะว่าลึกๆ แล้ว เพื่อน
น่ะ มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่แค่อยากลองเช็คเซ้นส์ตัวเองสักหน่อย ส่วนตัวเราเอง อาจจะไม่อยาก
ให้เพื่อนเสียใจไปมากกว่านี้ ก็เลยใช้วิธีการยุยงให้เพื่อนเลิกกับแฟนไปเถอะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
หรอกค่ะ แต่ความจริงคือมีตั้งหลายคู่ที่เขาต้องเจอกับเรื่องราว อุปสรรค ร้ายแรงแค่ไหนก็ยังคบกัน
ต่อได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคน ส่วนเราซึ่งเป็นคนนอก ไม่ต้องอินเนอร์จัด
เต็มเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง ไม่ต้องยุให้เขาเลิกกัน ทางที่ดีก็คือออกความเห็นตามความเป็น
จริงก็พอ สรุปง่ายๆ ว่าที่ปรึกษาสายขี้ยุ อาจต้องปรับปรุงตัวค่ะ
สายนางฟ้า พร้อมรับฟัง 24 ชั่วโมง
รู้หรือเปล่าว่าเวลาคนเราเศร้าจากเรื่องต่างๆ ขอแค่มีคนคอยอยู่ข้างๆ เขาก็รู้สึกดีมากๆ แล้ว อย่าไป
เบื่อ อย่าไปนอยด์เพื่อน เวลาเพื่อนมาบ่นเรื่องความรักเลย เพราะเขาไม่รู้จะไปบอกใครหรือเปล่า
เขาเลยมาบอกคุณ และสำหรับคนที่คอยรับฟัง คอยแสตนบายตลอด 24 ชั่วโมง คุณทำดีแล้วค่ะ!
เพราะอย่างน้อยๆ เพื่อนก็ยังรู้สึกว่ายังมีคนคอยรับฟังเสมอ สำหรับที่ปรึกษาสายนางฟ้า ไม่มีอะไร
มาก นอกจากเอารางวัลเพื่อนดีเด่นไปครองเลยจ้า
“เป็นหมา” อยู่เรื่อยไป
อาการ “เป็นหมา” พบได้บ่อยในคนที่มีพฤติกรรม ออกตัวแรงสม่ำเสมอ ใครมาปรึกษาอะไร มักจะจัด
เต็ม สาดความเห็นทุกสิ่งอย่างที่นึกออกมาได้ เรื่องไม่ได้เกิดกับตัวเอง แต่เกลียดไปเรียบร้อยแล้ว
จุดนี้ อาจจะต้องเรียกสติกลับคืนสู่ร่างค่ะ เก็ทฟิลอยู่หรอกนะคะว่ารักและเป็นห่วงเพื่อนเหลือเกิน แต่
เราจำเป็นต้องเหลือสเปซให้เพื่อนเขาคิดเองบ้าง บางครั้งสิ่งที่เพื่อนเล่า อาจจะเป็นเพียงความจริง
ด้านเดียว ทางที่ดีให้คำปรึกษาอย่างมีสติดีกว่า ไม่งั้นอาจจะหน้าแหกได้ ตอนเขากลับมารักกันน่ะ
มาถึงจุดนี้ เวลาเพื่อนมาปรึกษาเรื่องความรัก คุณเป็นสายไหนกัน? ที่จริงแล้วยังมีที่ปรึกษาอีกหลาย
ประเภทที่อยากจะเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็น “สายฟังไปงั้น” “สายรำคาญเพื่อน” บลาๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
สิ่งที่เราตั้งใจจะบอกทุกคนก็คือ เวลาที่เราเศร้า เราก็แค่อยากมีใครสักคนรับฟัง เพื่อนเราก็เช่นกัน
ลองคิดดูว่าถ้าเป็นตัวเอง เราอยากได้เพื่อนที่ปรึกษาสายไหน หวังว่าคงมีคำตอบในใจกันนะคะ ♥
