1. คุณมีรายได้เท่าไหร่เหรอ?
คำถามที่ไม่รู้ว่าเราจะรู้ไปทำไมและไม่ควรอย่างยิ่งที่จะถาม เพราะตัวเลขเงินในบัญชีหรือรายได้
ของเขาในแต่ละเดือนไม่มีผลใด ๆ ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ การถามคำถามนี้ออกไปมีแต่จะทำให้หนุ่ม
ๆ งงว่าเราต้องการอะไรจากเขากันแน่ ? ถ้าเงินของเขามากหรือน้อยแล้วมันส่งผลอะไรกับความรู้สึก
ของเราต่อเขา? แต่ที่แน่ ๆ เขาจะต้องอึดอัดจนทำตัวไม่ถูกไปเลย
2.มีแฟนมาแล้วกี่คนล่ะ?
ถ้ารู้จักกันไปถึงระดับหนึ่งแล้วเขาอยากเล่าให้เราฟังและเราก็เต็มใจฟังคงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเจอกัน
ครั้งแรกแล้วถามคำถามนี้ออกไปอาจจะโป๊ะได้ เราเองก็คงไม่สบายใจไม่ว่าตัวเลขที่เขาตอบออกมา
จะคือเท่าไหร่ ส่วนเขาเองก็คงแอบหวาดหวั่นในใจว่าเราจะเป็นสาวขี้หึงที่ตามจับจ้องอดีตที่ผ่านไป
แล้วของเขาหรือเปล่า
3.คุณอยากเป็นแฟนเราไหม?
การตกลงคบใครในความสัมพันธ์มันไม่อาจตัดสินใจกันได้ในการพบหน้ากันครั้งแรก คำถามนี้จึงเป็น
คำถามที่ชวนให้หนุ่ม ๆ อึดอัดและไม่รู้ว่าควรต้องตอบคำถามนี้แบบไหนถึงจะออกมาโอเค ดังนั้นต่อ
ให้เราชอบเขาจนแทบอยากจะขอเป็นแฟนตอนนี้ เราก็บอกความรู้สึกดี ๆ ออกไปได้ แต่การคาดคั้น
และคาดหวังให้เขาตอบรับความสัมพันธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจออาจจะอึดอัดไปหน่อย
4.เลิกกับแฟนมานานหรือยัง?
หนุ่ม ๆ แอบกระซิบมาว่าคำถามนี้ช่างดูคาดคั้นและจาบจ้วงจนเขาไม่อยากไปต่อ พวกเขารู้สึกว่าถ้า
พวกเขาสบายใจหรือสะดวกใจระดับหนึ่งเขาจะเล่าเอง แต่การถูกถามแบบนี้พวกเขารู้สึกเหมือนโดน
จับผิดหรือไม่เชื่อใจ จนอาจจะไม่อยากเจอครั้งต่อไปเลยทีเดียว
5.เจอกันพรุ่งนี้เลยดีมั้ย?
มนุษย์ผู้ชาย (หรือจริง ๆ สาว ๆ อย่างเราเองก็ด้วย) ล้วนอยากมีอิสระในการคิดและตัดสินใจ การที่
เจอกันครั้งเดียวแล้วยังไม่ทันได้กลับไปคิดทบทวนหรือเว้นระยะให้คิดถึง แต่ถูกบีบให้ตอบวันเวลา
ครั้งต่อไปที่จะเจอกัน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะถูกครอบครองเป็นเจ้าของทั้ง ๆ ที่เจอกันแค่ครั้ง
เดียว ดีงนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะคะซิส ต่อให้เราจะอยากเจอเขาพรุ่งนี้ อย่างน้อยรอชวนพรุ่งนี้หรือ
ทบทวนตัวเองสักคืนก็ดีกว่าถามออกไปตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเลย
