การตัดสินใจรักใครสักคนคงไม่ยากเท่ากับการตัดใจเลิกกัน ยิ่งใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานาน
เท่าไรก็ยิ่งตัดใจยากมากเท่านั้น ยิ่งกรณีที่มีลูกน้อยด้วยกันก็คงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก แต่ในเมื่อทุก
อย่างมาถึงทางตันแล้ว การฝืนอยู่ด้วยกันแบบทุกข์ทนคงไม่ใช่เรื่องดี สู้แยกทางกันไปเริ่มต้นชีวิต
ใหม่ดีกว่า และวันนี้เราก็มีทิปส์ดี ๆ มาแนะนำกัน เพื่อให้คุณและคนรักเก่าจากกันด้วยความเข้าใจ
โดยไม่ใช้ความรุนแรง
1. เป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก
ในกรณีที่คุณมีลูกด้วยกันคงเป็นเรื่องยากที่จะตัดขาดหรือไม่ติดต่อสื่อสารกัน อย่างน้อย ๆ
ลูกของคุณเองควรได้เจอทั้งพ่อและแม่ของพวกเขาบ้าง ไหนจะเรื่องการส่งเสียเลี้ยงดูร่วมกันอีก ดัง
นั้นจำไว้ว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวของคุณทั้งคู่ที่มีแต่เรื่องร้าย ๆ มาพูดอีกจะดีกว่า สิ่งที่คุณควรโฟกัส
คือลูก ๆ ที่คุณทั้งสองคนต้องช่วยกันเลี้ยงดู ได้เวลาสวมบทซิงเกิลมัมแบบมืออาชีพแล้ว ท่องเอา
ไว้ว่าเพื่อลูก !
2. ทำข้อตกลง
เคยสังเกตไหมว่า คู่รักที่เลิกกันไปแม้จะผ่านเวลาเนิ่นนานแต่พอมาเจอกันก็มีเรื่องที่พวกเขา
ต้องทะเลาะหรือมีปากเสียงกันทุกที นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้ทำข้อตกลงบางอย่างหรือ
อีกฝ่ายที่ผิดข้อตกลง ดังนั้นคุณและอดีตคนรักจำเป็นต้องสร้างข้อตกลงร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการ
ทะเลาะ เช่น บอกไปเลยว่าอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์วุ่นวายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย หรือตกลงค่าเลี้ยงดูลูก
ร่วมกัน และเมื่อตกลงกันเสร็จคุณทั้งคู่ก็จำเป็นที่จะต้องทำตามข้อตกลงนั้น ๆ ด้วย ทั้งนี้จะได้ไม่เกิด
เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอีก เอาเวลาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า
3. ใจเย็น
เป็นเรื่องยากที่จะทำใจไม่ว่าจะเป็นการหย่าร้างหรือการแยกกันอยู่ และคุณยังไม่มีทางออก
และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ยิ่งคิดก็ยิ่งมืดแปดด้าน ดังนั้นคุณควรตั้งสติและใจเย็นลงก่อน อย่าเพิ่ง
คิดถึงผลกระทบร้าย ๆ แม้ว่าอดคิดไม่ได้ก็เถอะ รวมทั้งการหาเรื่องทะเลาะหรือทำลายข้าวของก็เช่น
กัน ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เชื่อสิว่าความใจเย็นและสงบนิ่งจะทำให้
คุณเจอทางออกดี ๆ เอง
4. เจอกันในที่สาธารณะ
ไม่ว่าจะนัดเพื่อเคลียร์ปัญหาหรือทำข้อตกลงด้วยกัน คุณควรนัดเจอกันในที่สาธารณะ เช่น
ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของคุณทั้งคู่ อีกทั้งเพื่อ
ลดความเสี่ยงที่จะมีเรื่องทะเลาะหรือโต้แย้งแบบรุนแรง ที่สำคัญบรรยากาศภายนอกคงไม่ร้อนระอุ
เท่ากับที่ที่คุณเคยอยู่ร่วมกันมานาน
5. ถนอมน้ำใจกัน
มันอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องทำดี เป็นมิตร หรือสุภาพอ่อนโยนต่อคนที่ทำให้คุณปวดร้าว
แต่อย่างน้อย ๆ เลยการถนอมน้ำใจหรือการประนีประนอมจะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายดีขึ้นได้
หยุดพูดถึงเรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมา แต่ให้พูดถึงสิ่งที่คุณจะพูดในวันนี้ นั่นก็คือ การทำข้อตกลงและการ
แยกทางกันเท่านั้น จำไว้ว่ายิ่งคุณพูดจาเลวร้ายใส่กันมากเท่าไรมันก็ยิ่งเป็นปัญหาที่ไม่จบสิ้น แถม
คุณเองยังไม่ได้เริ่มต้นใหม่เสียที
6. เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
บางครั้งการจากไปอย่างเงียบ ๆ ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดเช่นกัน โดยก่อนหน้าที่คุณอาจจะ
พยายามทำข้อตกลงร่วมกันหลายครั้งแต่มันไม่เป็นผล คุณเบื่อกับการจับผิดหรือต้องกลับบ้านมา
ทะเลาะกันทุกวัน การเลือกที่จะเดินออกไปอาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปคุณเองก็จะ
เข้มแข้งขึ้นและพร้อมเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งเพื่อสะสางบางอย่างทั้งเรื่องสินสมรสหรือการเลี้ยงดู
ลูกโดยปราศจากการทะเลาะ
7. ให้ตัวแทนเจรจาแทนคุณ
เป็นวิธีสุดท้ายที่เราแนะนำ หากแต่ปัญหาชีวิตคู่ของคุณมันยาวนานเกินแก้หรือพูดคุยกันก็
พาลทะเลาะกันทุกครั้งละก็ ลองให้คนกลางเป็นตัวช่วยดีกว่า ทั้งนี้ถ้าทุกอย่างมีแนวโน้มค่อนไปทาง
ความรุนแรง คุณควรจะเลือกปรึกษากับทนายความแล้วว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย แม้
มันจะเสียทั้งเงินและเวลาแต่ก็ทำให้ปัญหาจบสิ้นโดยที่คุณไม่ต้องมานั่งปวดหัวอยู่ทุกวัน
แม้จะเป็นเรื่องทำใจยอมรับยากไม่ว่าคุณจะจากกันด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่คุณ
ต้องทำหลังจากนี้ ก็คือ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ เก็บเรื่องร้าย ๆ ไว้เป็นบทเรียนเตือนใจของคุณ
เอง ที่สำคัญไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นอย่าใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำหรือการกระทำเด็ด
ขาด เพราะมันจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
