การถูกหิ้วเข้าซังเตที่พิลึกสุดๆ ของ เอ็ดวิน ชาร์ล โทเบิร์กต้า

เอ็ดวิน ชาร์ล โทเบิร์กต้า ชายหนุ่มอายุ 35 ปี จากรัฐโอไฮโอ้ สหรัฐอเมริกา ถูกศาลสั่งจำคุกถึง 11 เดือนในข้อหาทำอนาจารในที่สาธารณะ โดยการมีเซ็กซ์กับตุ๊กตาเป่าลมรูปฟักทองที่สระว่ายน้ำของเพื่อนบ้าน ซึ่งถ้านี่เรียกว่าแปลกสุดๆ แล้ว ยังมีสิ่งที่พิลึกกว่านี้อีก เขาเคยถูกตำรวจจับกุมในข้อหาที่เปลีอยกายออกมานอกบ้านตอนกลางวันแสกๆ พร้อมกับมีเซ็กซ์กับตุ๊กตายางรูปสิงโตต่อหน้าเด็กๆ และผู้คนที่ผ่านไปมาอย่างไม่อายใครเลย1376988918052

lilo

ยังไม่พอ เขาถูกจับในช่วงสิงหาคมปี 2011 ด้วยข้อหาเดิมๆ คือมีเซ็กซ์กับแพยางเป่าลมสีชมพูที่บริเวณสระว่ายน้ำในบ้านของเพื่อนบ้าน (อีกแล้ว) และถ้าเราย้อนกลับไปปี 2002 นายคนนี้เขาก็โดนจับในข้อหาเดิมๆ คือ มีเซ็กซ์กับฟักทองเป่าลม ที่เป็นของประดับในวันฮาโลวีนของเพื่อนบ้านนั่นเอง

hjn072413tobergtaarraign-3ppmm

ซึ่งผู้พิพากษาได้ สั่งจำคุกเขา พร้อมบอกว่าการกระทำ ที่มีเซ็กซ์กับข้าวของคนอื่น และก่อการอนาจารของเขาเป็นอะไรที่ ลามก วิตถาร และ เป็นสิ่งที่สังคมจะไม่ยอมรับและจะไม่ทน โดยก่อนที่จะถูกจำคุกนาย เอ็ดวิน ชาร์ล โทเบิร์กต้า ได้กล่าวว่า “ผมต้องขอโทษทุกๆ สิ่งกับการกระทำของผม ผมขอโทษ ต่อไปนี้ผมพร้อมที่จะปรับปรุงตัวเอง และ เลิกที่จะทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้แล้ว”

tobe

 

Posted in Uncategorized

Panic! At The Disco วงป็อปอีโมร็อคจาก Lasvegas

panic-at-the-disco-oct-2015

Panic! At The Disco วงป็อปผสมอีโมร็อคจาก Lasvegas, Nevada ที่สร้างชื่อด้วยการติดอันดับ 6 ใน Billboard independent chart อันดับ 1 ใน Billboard heatseeker chart และอับดัน 1 ใน Myspace chart หรือที่ชาวอีโมร็อครู้จักกันดีอย่างเพลง I Write Sins Not Tragedies ซึ่งพวกเขากลับมากับเพลงซิงเกิ้ลที่สาม Death Of A Bachelor หลังเพลงฮิต Hallelujah และ Victorious จากอัลบั้มใหม่ชื่อเดียวกับซิงเกิ้ลนี้ที่อัลบั้มได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย  Death Of A Bachelor โดยเพลงนี้ยังคงสไตล์ความเป็น Alternative Pop Rock ที่ฟังสบายๆ รวมถึงมีกลิ่นอายความเป็นแจ๊สเล็กๆ ที่น่าจะโดนใจแฟนของวงนี้อย่างแน่นอน
panic-at-the-disco-death-of-a-bachelor-billboard-2015-650
ย้อนกลับไปในปี 2005 Panic! At The Disco เปล่งประกายโดดเด่นกว่าวงใด ด้วยการเปิดตัวเป็นผู้นำ “streampunk-emo” ในอัลบั้ม “A Fever You Can’t Sweat Out” กับความสำเร็จระดับ “ดับเบิ้ลแพลตินั่ม” จากเพลง “I Write Sins Not Tragedies” และฉลองเกียรติยศด้วยรางวัล  “Video of the Year” ซึ่งเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของเวที MTV Video Music Awards 2006
patd-017-e1440784180315
ต่อมาในปี 2008 พวกเค้ากลับมาด้วยเครื่องแต่งกายในสไตล์ฮิปปี้ที่สดใส เน้นลายดอกไม้ เพื่อให้เข้ากับคอนเสปต์อัลบั้มที่สอง “Pretty Odd” พร้อมระเบิดขึ้นอันดับ 2 Billboard 200 album chart ใน วันแรกที่เปิดขายเลยทีเดียว กับความสำเร็จนี้ ทำให้นักวิจารณ์ต่างพากันปรบมือให้ ทั้งนี้ NME ยังให้คำนิยามกับอัลบั้มนี้ว่า “เป็นชัยชนะของศิลปะที่สวยสดงดงาม ชนิดที่ศิลปินทุกคนต่างก็ฝันถึง”

หลังจากนั้น Panic! At The Disco ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในวง แต่ยังคงนักร้องนำเจ้าเสน่ห์อย่าง Brendon Urie และมือกลองมากพรสวรรค์อย่าง Spencer Smith เอาไว้ พร้อมเพิ่มแม่เหล็กดึงดูดด้วยสมาชิกคนใหม่ Dallon Weekes อดีตนักร้องนำจากวง The Brobecks ที่มาช่วยเสริมในส่วนของกีต้าร์และเสียงประสาน จนต่อมาในปี 2011 Panic! At The Disco มาพร้อมอัลบั้มที่สาม “Vices & Virtues” ที่เดบิวต์ขึ้นอันดับที่ 7 ชาร์ต Billboard 200 “Alternative Albums” และขึ้นไปถึงอันดับ 2 ได้ในที่สุด

Posted in Uncategorized

ROBOY ฮิวแมนนอยด์ที่ใกล้คำว่ามนุษย์มากที่สุด

Humanoid Robot ROBOY

ROBOY หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ได้รับการพัฒนาโดยมหาวิทยาลัย Zurich’s Artificial Intelligence Lab (AI-Lab) ROBOY คือสุดยอดต้นแบบหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงคำว่ามนุษย์ที่สุด โดยมีโครงสร้างของกระดูกและเส้นเอ็นสำหรับการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยการใช้เทคโนโลยี 3D printing นับวันอะไรที่เคยเป็นแค่จินตนาการในภาพยนตร์ชักจะเริ่มเป็นความจริงเข้าไปทุกที ไม่นานมันอาจจะมายึดโลกเราไปจริงๆ เลยก็ได้

21 Jun 2013, Zürich, Switzerland --- Portrait of ROBOY, a humanoid robot developed by the University of Zurich's Artificial Intelligence Lab (AI-Lab). ROBOY is the prototype of a next generation humanoid robot that uses tendons and a skeleton like structure for moving body parts. By using 3D-printing technology, it has been developed within only 9 months. *** Editorial use only *** --- Image by © Erik Tham/Corbis

roboy_torso

Vorstellung des Roboters Roboy, einer Neuentwicklung des Artificial- Intelligence- Lab der Universität Zürich. 27.Februar 2013. Bild: Adrian Baer

Posted in Uncategorized