ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวจี๊ดของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกโรงยกย่องเพื่อนร่วมทีมอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โดยได้เปรียบเทียบหัวหอกเลือด “แซมบ้า” ว่าทำงานราวกับสัตว์ แถมยังช่วยให้ทีมเล่นง่ายขึ้นเยอะ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงหากเทียบกับตนและ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ปีกทีมชาติ เซเนกัล วัย 26 ปี ให้สัมภาษณ์กับ Bleacher Report ถึงเรื่องนี้ว่า “ใครหลายคนมักจะพูดถึงผมและซาลาห์ มันก็ดีที่ได้ยินอะไรแบบนั้น แต่ความแข็งแกร่งของ ลิเวอร์พูล คือความเป็นทีม”

“คุณไม่สามารถลืมชายที่อยู่ด้านหน้าอย่าง ฟีร์มิโน่ ที่ทำงานราวกับสัตว์เพื่อเรา และทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้นเยอะ”

“รวมไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง เราพยายามที่จะได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้นและช่วยให้ทีมก้าวไปข้างหน้า” มาเน่ ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ฤดูกาล 2018/19 ซาดิโอ มาเน่ จัดการพังตาข่ายให้กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้วถึง 4 ประตู จากการลงสนามทั้งหมด 4 นัด ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือเจ้าของตำแหน่ง ดาวซัลโวสูงสุดของลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันหลายคนต่างพูดถึงผลงานของ มาเน่ และซาลาห์ เป็นส่วนใหญ่

Daily Mail สื่อดังของ อังกฤษ ตีข่าว “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วางแผนเผด็จศึก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เข้ามาเสริมทัพแต่สุดท้ายต้องเดินคอตกซดแห้วกลับไปในที่สุด

โดยรายงานเปิดเผยว่า “เรือใบสีฟ้า” แสดงความสนใจ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2015 และหวังว่าจะคว้าตัวเข้ามาเสริมทัพแบบแพ็คคู่พร้อมกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่สุดท้ายได้แค่ สเตอร์ลิ่ง ไปครองเพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งหากย้อนไปในปี 2015 เป็นช่วงที่ เฮนเดอร์สัน ได้รับปลอกแขนกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในยุคการคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นั่นเอง

รายงานยังบอกด้วยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จับตาสถานการณ์ของ มิดฟิลด์ วัย 28 ปี มาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสัญญาของ “เฮนโด้” ใกล้เข้าสู่ปีสุดท้ายในถิ่น แอนฟิลด์ ก่อนที่ “หงส์แดง” จะรีบจัดการต่อสัญญาฉบับใหม่(ถึงปี 2023)เพื่อกันท่าไม่ให้ “เรือใบสีฟ้า” เข้ามาหมายปองลายเซ็นของ เฮนเดอร์สัน ได้อีก

อลิสซอน เบ็คเกอร์ มือกาวค่าตัวแพงของ ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดใจถึงจังหวะที่ทำให้ทีมเสียประตูในเกมที่ “หงส์แดง” บุกไปเฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหืดจับด้วยสกอร์ 2-1 โดยจังหวะดังกล่าวเจ้าตัวพยายามล็อคหลบ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แต่โดนฉกบอลไปจากเท้าจนเสียประตูแรกของฤดูกาลไปอย่างง่ายดาย

นายด่านทีมชาติ บราซิล วัย 25 ปี เปิดใจผ่าน ESPN Brasil หลังจบเกมว่า “ผมโมโหมากที่ตัวเองทำผิดพลาดจนทีมต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก”

“เมื่อใครคนหนึ่งทำพลาด มันส่งผลกระทบต่อทุกคน และทุกคนต้องสู้เพื่อตอบโต้กลับไปร่วมกัน เรายังคงต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ผลการแข่งขันสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดในตอนนี้”

“มันเป็นการตัดสินใจที่แย่มาก ผมอ่านการเล่นผิดพลาด บอลที่จ่ายมาให้ผมมันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เราพูดถึงมันในห้องแต่งตัว และผมได้คุยกับ เวอร์กิล มันไม่ใช่การส่งบอลกลับมาที่ดี แต่ผมก็ควรที่หวดบอลยาวออกไป”

“ผมต้องการที่จะเล่นและรักษาการครองบอลเอาไว้ ตอนนี้ทุกคนต่างวิเคราะห์กันถึงจังหวะนั้น แต่ผมจะไม่ดื้อรั้น และสร้างความผิดพลาดแบบเดิมอีก เราได้รับบทเรียนจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

“มันเป็นส่วนหนึ่งในวิธีการเล่นของผม แต่ผมจะไม่อวดดีด้วยการบอกว่าผมจะทำแบบนั้นอีกในครั้งต่อไป เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา” อลิสซอน ทิ้งท้าย