อลิสซอน เบ็คเกอร์ มือกาวค่าตัวแพง ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ตัวเขาและ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเพลย์เมคเกอร์จอมยิงไกลของ “หงส์แดง” ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับสโมสรก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายมาร่วมชายคาในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ผู้รักษาประตูทีมชาติ บราซิล วัย 25 ปี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่ได้คุยกับ คูตินโญ่ ว่า “เขาพูดยกย่อง เจอร์เกน(คล็อปป์) และบอกเรื่องราวของนักเตะภายในทีม”

“เขาบอกผมว่าไม่มีนักเตะคนไหนในทีมที่หยิ่งผยอง แต่กลับเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และกระหายชัยชนะกันอย่างมาก, คูตินโญ่ ยังบอกว่าเขาและครอบครัวมีความสุขมากๆที่เมือง ลิเวอร์พูล ซึ่งมันสำคัญจริงๆ”

“ภรรยาของเราพูดคุยกันหลายเรื่อง พวกเธอบอกว่ามีช่วงเวลาที่ดีสำหรับการอาศัยอยู่ที่นี่ และพวกเราเองก็มีความสุขมากๆเช่นกัน”

อลิสซอน ยังพูดถึงเหตุการณ์สมัยที่ค้าแข้งกับ โรม่า และได้มาเยือนสนาม แอนฟิลด์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อซีซั่นก่อนด้วยว่า “บรรยากาศในสนามที่ผมได้รับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจย้ายมาที่นี่ นอกจากนั้นแนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล คือไม่ได้พึ่งพาใครเพียงคนเดียว พวกเขาเล่นกันเป็นทีม และเล่นกันด้วยความรักและหัวใจอย่างแท้จริง”

เจอร์เกน คล็อปป์ บิ๊กบอสมาดขึงขังของ ลิเวอร์พูล เปิดใจถึงเหตุการณ์ในระหว่างหลังจบเกมที่เดินเข้าไปเหมือนกับต่อว่า เซอร์ดาน ชากิรี่ ในศึก คาราบาว คัพ ที่ “หงส์แดง” เปิดสนาม แอนฟิลด์ พ่ายให้กับ เชลซี ไปด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา

กุนซือชาว เยอรมัน วัย 51 ปี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ผมคุยกับเขาเกี่ยวกับลูกฟรีคิกในจังหวะสุดท้ายที่ โม(ซาลาห์) ยืนถ่างออกมาโล่งๆแบบไร้คนประกบ และผู้เล่นคนอื่นๆก็ไปกองรวมกันในจุดที่เราโยนบอมเข้าไป”

“ถ้าหากตอนนั้นเขาเป็นคนเล่นเอง(แต่ปล่อยให้ เฮนเดอร์สัน เปิด)แล้วส่งให้ โม มันอาจทำให้เกิดสถานการณ์ดวลกันแบบตัวต่อตัวได้ในนาทีสุดท้ายของเกม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ก็แค่ฟรีคิกเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น”

ทั้งนี้ จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งผู้เล่น ลิเวอร์พูล ทุกคนรวมไปถึง ซิมง มินโญเลต์ ขึ้นมาลุ้นทำประตูกันในกรอบเขตโทษ แต่ทางด้าน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับเปิดบอลไม่ดีจนเกือบหลุดออกหลัง ทำให้ โจเอล มาติป ที่อยู่ใกล้บอลที่สุดไม่สามารถทำอะไรได้เลยจากจังหวะนี้

Liverpool star player Shaqiri and manager Jürgen Klopp share a frosty exchange after the game

For more stories like this, head to https://t.co/Qw9rSO4UCq #LIVCHE #Klopp #Shaqiri #Problems pic.twitter.com/mZtM3fFqcc

— Amit Mavar (@AmitMavar) September 26, 2018

เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ออกมาวิจารณ์การตัดสินของกรรมการ โดยเฉพาะในกรณีของ VAR หลังจากที่ “หงส์แดง” โดน เชลซี ตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคิกซึ่งภาพช้าแสดงให้เห็นว่ามีผู้เล่นของ “สิงห์บลู” ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าถึง 3 ราย ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะโดนยิงเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดในช่วงท้ายเกมแพ้ 2-1 ตกรอบ คาราวบาว คัพ ไปแบบสุดชอกช้ำ

กุนซือชาว เยอรมัน วัย 51 ปี เปิดใจหลังเกมผ่าน Sky Sports ว่า “เดี๋ยวต้องมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของ VAR มันยังไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งจังหวะล้ำหน้า รวมไปถึงลูกฟรีคิก สำหรับประตูแรก”

“นักเตะของเรา(เกอิต้า)เล่นไปที่บอลแถมยังโดนแจกได้ใบเหลืองตามมาอีก ไลน์แมนก็ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดี และมันก็ไม่ใช่ฟรีคิก”

“ผมไม่สามารถมองเห็นจังหวะนั้นได้ดีกว่าผู้ตัดสิน แต่หลังจากนั้นผมคิดว่าประตูแรกมันคือลูกล้ำหน้า บางทีผู้ตัดสินก็ไม่เห็นในส่วนที่ VAR มองเห็น”

“มีผู้เล่น(เชลซี)ถึง 3 คนยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า มี 2 คนที่ล้ำชัวร์ๆ เพราะพวกเขาทำหน้าที่คอยบล็อคซึ่งมันมีผลต่อการเล่น”

“บาร์คลีย์ ล้ำไม่เยอะ แต่มันก็ล้ำ พวกเขาดูภาพช้าและไม่คิดว่าเป็นการล้ำหน้า เพราะฉะนั้นเราก็ต้องรับไป”

ทั้งนี้ การตัดสินจังหวะดังกล่าว กรรมการในสนามอย่าง เควิน เฟรนด์ ใช้การฟังเสียงและรับข้อมูลจากผู้ช่วยที่ดูภาพช้า VAR ข้างสนาม ก่อนจะให้ เชลซี ได้ประตูตีเสมอไปในที่สุด