สถิติหงส์แดงในวันที่ไม่มี มาเน่ อยู่ในสนาม

Featured

กลายเป็นนักเตะที่บรรดาสาวก “เดอะค็อป” ฝากความหวังในการกลับมาคืนฟอร์มเก่งให้กับทีมรักมากสุดในเวลานี้ไปซะแล้ว!! สำหรับ ซาดิโอ มาเน่ ปีกความเร็วแสงของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งยุติการรับใช้ ทีมชาติเซเนกัล ในศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ มาสดๆร้อนๆ โดยว่ากันว่าเจ้าตัวน่าจะมีส่วนร่วมกับ “หงส์แดง” (อย่างน้อยมีชื่อเป็นตัวสำรอง) ในเกมที่จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ พบ เชลซี คืนนี้ ในเวลา 3.00 น.

 

โดยล่าสุดมีการเปิดเผยสถิติเปรียบเทียบกันออกมาว่า ช่วงที่ “หงส์แดง” ขาด ซาดิโอ มาเน่ ไปนั้นส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงกับฟอร์มโดยรวมของลูกทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ มากพอสมควร ส่วนจะเป็นแตกต่างกันมากแค่ไหนนั้น ไปชมกันเลย!!

เปรียบเทียบสถิติ ลิเวอร์พูล ช่วงที่ มี และ ไม่มี ซาดิโอ มาเน่ อยู่กับทีม

ช่วงที่ ซาดิโอ มาเน่ อยู่กับทีม

จำนวนการลงสนาม : 21 เกม
ชนะ : 15
เสมอ : 5
แพ้ : 1
อัตราการชนะ(คิดเป็นเปอร์เซ็น) : 71%
อัตราการยิงประตูเฉลี่ย(ของทีม)ต่อเกม : 2.6 ลูก


ช่วงที่ไม่มี ซาดิโอ มาเน่ อยู่กับทีม

ไม่มี มาเน่ ลงสนาม : 10 เกม
ชนะ : 3
เสมอ : 2
แพ้ : 5
อัตราการชนะ(คิดเป็นเปอร์เซ็น) : 30%
อัตราการยิงประตูเฉลี่ย(ของทีม)ต่อเกม : 1 ลูก

คาร์ราเกอร์ จวก หริดจ์ จุดอ่อนของ หงส์แดง

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังระดับตำนานขวัญใจสาวก “เดอะค็อป” ออกโรงจวกฟอร์มการเล่นของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ศูนย์หน้ารุ่นน้อง “หงส์แดง” ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพ่าย เซาแธมป์ตัน ไปด้วยสกอร์ 0-1 ซึ่งเจ้าตัวได้ลงเล่นครบ 90 นาที และมีโอกาสพังประตูช่วยให้ทีมขึ้นนำอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ

Liverpool v Southampton - EFL Cup - Semi Final - Second Leg - Anfield : News Photo

อดีตกองหลังวัย 38 ปี เปิดใจถึงฟอร์มการเล่นของแข้งรุ่งน้องว่า “ไม่, เขาไม่ได้สร้างโอกาสทำประตูเลย. สเตอร์ริดจ์ ในตอนนี้แตกต่างจากช่วงที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซื้อตัวมาร่วมทัพอย่างสิ้นเชิง. เมื่อก่อนจุดเด่นของเขาคือการทะลวงเกมรับคู่ต่อสู้ด้วยความเร็ว บวกกับความสามารถเฉพาะตัว. แต่วันนี้มีจังหวะที่เขาวิ่งไล่บอลยาว ก่อนจะทำพลาดต่อหน้าต่อตากองเชียร์ เดอะค็อป ที่กำลังหวังว่าเขาจะสามารถทำอะไรได้สักอย่าง”

“ผมไม่รู้ว่าความเร็วของเขามันหายไปไหน อาจจะเป็นเพราะความกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ ซึ่ง ไมเคิล โอเว่น ก็เคยเป็นแบบนี้สมัยที่ผมเล่นกับเขา. สเตอร์ริดจ์ ไม่สามารถใช้ความเร็วเอาชนะคู่แข่งได้เหมือน มาเน่ เพราะฉะนั้นเหตุผลเดียวที่เขาควรจะอยู่ในทีมก็คือความสามารถในการจบสกอร์ แต่คุณต้องจ่ายแบบถวานพานไปให้เขาด้วยนะ”

“เมื่อ สเตอร์ริดจ์ อยู่ในสนามและไม่สามารถทำประตูได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณมีผู้เล่นอยู่ในสนามแค่ 10 คนนั่นแหละ” คาร์ราเกอร์ ทิ้งท้าย

คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมแพ้ นักบุญ 0-1

เจอร์เกน คล็อปป์ บอสใหญ่สายว๊ากของ ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดใจหลังเกมที่พาลูกทีมเปิดสนาม แอนฟิลด์ พ่ายให้กับ เซาแธมป์ตัน ในศึก ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ด้วยสกอร์ 1-0 โดยยอมรับว่าไม่พอใจกับผลการแข่งขัน และตำหนิการทำงานของผู้ตัดสิน หลังมีการทำแฮนด์บอลของ เชน ลอง ในกรอบเขตโทษ แต่พวกเขาไม่ได้รับผลประโยชน์จากจังหวะดังกล่าว

FBL-ENG-LCUP-LIVERPOOL-SOUTHAMPTON : News Photo

กุนซือชาว เยอรมัน วัย 49 ปี ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “เซาแธมป์ตัน เอาชนะไปได้ทั้งสองเกม, พวกเขาสมควรได้รับมัน. ที่จริงเราทำกันได้เยี่ยมแล้ว แต่ก็ยังสร้างสรรค์โอกาสกันได้ไม่มากพอ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังพวกเรามีจังหวะลุ้นประตูกันเพียบ แถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น. ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากเพราะคุณต้องแบกรับภาระความเสี่ยง และมันเป็นความเสี่ยงมากเกินไปที่จะไปเล่นกับจุดแข็ง(เกมรับ)ของพวกเขาในคืนวันนี้”

“เรามีโอกาสดี ที่จะได้ประตูขึ้นนำ และ มันโชคร้าย. ที่จริงมันเป็นการเซฟที่ยอดเยี่ยมบนความโชคดี(จังหวะซองแตกก่อนพุ่งเซฟบนเส้นของ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์). ถัดจากนั้นผู้ตัดสินก็ดันไม่เห็นจังหวะ เชน ลอง ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ มันไม่สามารถช่วยเราได้ในเกมแบบนี้ เรามีโอกาสดีถึงเจ็ดครั้ง. คุณมีสกอร์ขึ้นนำจากเลกแรก และเราไม่ต้องการที่จะเป็นฝ่ายแพ้. ผมค่อนข้างพอใจกับฟอร์มของลูกทีม แต่ไม่โอเคกับผลการแข่งขันแน่นอน”

“ถ้าเราได้ยินผู้ตัดสินเป่านกหวีด(เป็นลูกจุดโทษ) มันจะเป็นอะไรที่แจ่มมาก. ผมไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมากี่ครั้งแล้วในฤดูกาลนี้. ตอนเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราเสียประตูจากลูกล้ำหน้า(ยิงโดย ซลาตัน อิบราฮิโมวิช)ทำไมไม่เห็นมีใครพูดถึงมันเลย. และสำหรับคืนนี้ ลูกที่เราควรได้จุดโทษ ก็จะไม่มีใครพูดถึงมันอีกเช่นกัน” บอสใหญ่ หงส์แดง ตบท้าย