เพิ่มเติมจุดแรก!! หงส์เดินหน้าไล่ล่า มาร์คิซิโอ ตะลุยแดนกลางปีใหม่นี้

460669598

ดันไปถูกชะตา เจอร์เกน คล็อปป์ เข้าให้ซะแล้ว!! สำหรับ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ มิดฟิลด์จอมทัพของ ยูเวนตุส หลังจากสื่อยักษ์ของ สเปน อย่าง Fichajes ตีข่าว ลิเวอร์พูล พร้อมทุ่มงบ 23.5 ล้านปอนด์ ในการกระชากกองกลางดีกรีทีมชาติ อิตาลี รายนี้มาร่วมทัพในเดือน มกราคม

สตาร์ชาว อิตาเลี่ยน วัย 29 ปี ถือเป็นหนึ่งในแข้งระดับคุณภาพที่ฟอร์มการเล่นค่อนข้างคงเส้นคงวา ทำให้ “ม้าลาย” ตัดสินใจตบรางวัลด้วยสัญญาฉบับใหม่เป็นระยะเวลา 5 ปี ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่าปัจจุบันฟอร์มของ ยูเว่ ชักไม่ค่อยสู้ดีหลังจากทำอันดับรูดลงไปอยู่ที่ 14 ของตารางคะแนน แถมทำแต้มตามหลังจ่าฝูงถึง 9 คะแนนด้วยกัน ทำให้เป็นโอกาสดีของ “หงส์แดง” ที่จะทุ่มเม็ดเงินก้อนโตพอตัวหากเทียบกับอายุใช้งาน กระชากตัว มาร์คิซิโอ มาเป็นคีย์แมนให้แกนกลางของทีมในช่วงปีใหม่นี้

ทั้งนี้ผลงานระดับ มาสเตอร์พีช ของเจ้าตัวในซีซั่นที่แล้วคือการสร้างสถิติผ่านบอลสำเร็จเป็นจำนวน 1,778 ครั้งในศึก กัลโช่ เซเรีย อา มากกว่าผู้เล่น ยูเวนตุส ทุกคน แถมยังสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนส่องตาข่ายไป 49 ครั้ง และเปลี่ยนเป็นประตู(แอสซิสต์)จำนวน 10 ครั้งด้วยกัน

สู่ยุคใหม่! เจอร์เก้น คล็อปป์ นำลูกทีมหงส์แดงลงฝึกซ้อมพร้อมมือขวาคู่ใจ

LIVERPOOL, ENGLAND - OCTOBER 14:  (THE SUN OUT, THE SUN ON SUNDAY OUT) Jurgen Klopp manager of Liverpool during a training session at Melwood Training Ground on October 14, 2015 in Liverpool, England.  (Photo by John Powell/Liverpool FC via Getty Images)

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนใหม่ป้ายแดงของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ลงคุมลูกทีมลงฝึกซ้อมที่เมลล์วู้ดแบบพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว หลังจากที่นักเตะที่ไปรับใช้ชาติได้ทยอยกลับมารายงานตัว

LIVERPOOL, ENGLAND - OCTOBER 14:  (THE SUN OUT, THE SUN ON SUNDAY OUT) Jurgen Klopp manager of Liverpool talks with his team before a training session at Melwood Training Ground on October 14, 2015 in Liverpool, England.  (Photo by John Powell/Liverpool FC via Getty Images)

LIVERPOOL, ENGLAND - OCTOBER 14:  (THE SUN OUT, THE SUN ON SUNDAY OUT) Jurgen Klopp manager of Liverpool with Zeljko Buvac assistant manager of Liverpool and Peter Krawietz first team coach of Liverpool during a training session at Melwood Training Ground on October 14, 2015 in Liverpool, England.  (Photo by John Powell/Liverpool FC via Getty Images)

LIVERPOOL, ENGLAND - OCTOBER 14:  (THE SUN OUT, THE SUN ON SUNDAY OUT) Jurgen Klopp manager of Liverpool during a training session at Melwood Training Ground on October 14, 2015 in Liverpool, England.  (Photo by John Powell/Liverpool FC via Getty Images)

ถือเป็นการฝึกซ้อมแบบเต็มๆครั้งแรกกับลูกทีมนับตั้งแต่ อดีตผู้จัดการทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เซ็นสัญญา 3 ปีเข้ามารับงานในถิ่นแอนฟิลด์ แทนที่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ถูกไล่ออกจากตำแหน่งหลังทำผลงานไม่ประทับใจบอร์ดบริหาร นอกจากนี้แล้ว เทรนเนอร์ชาวเยอรมันยังมี เซลจ์โก้ บูวัช ผู้ช่วยที่ถือว่าเป็นมันสมองของตัวเองเข้ามาช่วยงานในการฝึกซ้อมแบบเต็มๆครั้งแรกที่เมลวู้ดด้วย สำหรับนัดเปิดตัว คล็อปป์ จะต้องพาทีมไปบุกเยือนท็อตแน่มฮอทสเปอร์ ในวันเสาร์นี้เวลา18.30 น.

เพราะอะไรถึงมั่นใจ? เจอร์เก้น คล็อปป์

Untitled-2_3464708b

ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วสำหรับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่บอร์ดบริหารเตรียมประกาศแต่งตั้งให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมัน วัย 48 ปี มารับหน้าที่ต่อจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เพิ่งถูกปลดหลังจากจบเกมเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ณ ตอนนี้เหลือเพียงการแถลงข่าวเปิดตัวเรื่องรายละเอียดอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่น่าจะเรียบร้อยภายในวันศุกร์นี้

แต่อย่างไรก็ดีมีหลายคำถามและข้อสงสัยอยู่มากเช่นกันว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คือคนที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล แล้วหรือไม่ จะพา ลิเวอร์พูล กลับมายิ่งใหญ่ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกตามที่แฟนบอลต้องการได้หรือ เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันที่เยอรมัน และรองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2012 เท่านั้น เพราะหากให้มองลึกลงไปแล้ว พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืออีกหนึ่งความท้าทายของกุนซือว่าเจ๋งจริงหรือไม่ โดยเฉพาะทีมในปัจจุบันพัฒนาขึ้นมากไม่ใช่ทีมหมูรองบ่อนให้ทีมบิ๊กเนมไล่ถล่มเหมือนก่อนอีกต่อไป

และนี่คือเหตุผลว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นดีพอกับ ลิเวอร์พูล หรือไม่?

1. บุคลิกภาพ : เจอร์เก้น คล็อปป์ มีบุคลิกที่มุ่งมั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ เห็นได้จากการแสดงออกเวลาคุมทีมที่ข้างสนาม ล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นที่สำคัญกับนักเตะในทีม คล็อปป์ น่าเชื่อถือ และมีความฉลาด เจ้าสเน่ห์ โดยเฉพาะการแสดงออกของเขา ทั้งการดีใจและเสียใจล้วนเป็นบุคลิกที่โดดเด่นอย่างมาก

คล็อปป์ มักแสดงพฤติกรรมที่อาจจะดูก้าวร้าวมาก เมื่อถูกถามในสิ่งที่ไม่ยุติธรรมหรือการโดนเอาเปรียบจากคำตัดสิน คุณมักจะเห็นเขาในสีหน้าที่เกรี้ยวกราด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกทีมของเขารัก คือเขาไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ลูกทีมในแง่ลบผ่านสื่อให้ต้องเสียใจ

คล็อปป์ คือโค้ชที่จะไม่ตำหนิลูกทีมผ่านสื่อเขาจะตักเตือนลูกทีมด้วยตัวเองแบบส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากกับจิตใจของนักเตะ และนี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ใครที่ได้รู้จักเขาต้องรักและศรัทธาเขา

Untitled-12

การคุมทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ ดอร์ทมุนด์: ลงเล่น 318 เกม ชนะ 179 เกม คิดเป็นชัยชนะที่ 56.7%

2. มีปรัชญาการเล่นที่ชัดเจน: เจอร์เก้น คล็อปป์ ถูกขนานนามว่า “high speed” วิธีการเล่นเกมบุกของเขามันสุดยอด ที่เห็นได้ชัดเจนคือ รูปแบบเกมรับของ ดอร์ทมุนด์ จะดันสูงมาก จนแนวรับของพวกไปกองอยู่ในฝั่งตรงข้ามมากถึง 5 คนอยู่เสมอๆ เพราะอาวุธหลักของ คล็อปป์ คือการล่นเกมเร็ว ว่องไว เข้าโจมตีแบบฉับพลันคือสูตรเด็ดของ คล็อปป์ ที่ทำมาได้ดีตลอด แต่ช่วงซีซั่นหลังๆ มานี้ผู้เล่นแกนหลักของเขาถูกดึงตัว ทำให้ปรัชญานี้ไม่ประสบความสำเร็จ จนเขาต้องลาออกในที่สุด

3. คือสุดยอดโค้ชที่น่าเกรงขาม: เจอร์เก้น คล็อปป์ คือโค้ชที่เก่งด้านการสร้างแรงจุงใจ ช่วงที่เขาปลุกปั้น ดอร์ทมุนด์ ขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้งนั้น นักเตะส่วนใหญ่ยังเด็กและอายุยังน้อย แต่เเรงจูงใจคือสิ่งที่ คล็อปป์ สร้างมันขึ้นมากับแข้งของเขา ทั้งกิริยาท่าทาง คำพูด สีหน้า เวิร์ดดิ่งต่างๆ ล้วนปลุกใจให้แข้งของพวกเขาฮึกเหิม

นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังมีโค้ชผู้ช่วนที่เหมือนเป็นอีกหนึ่งมันสมองคอยสนับสนุนเขาตลอด เซลโก้ บูวัค และ ปีเตอร์ กราไวท์ซ ผู้ช่วยของเขาทั้งสองจะคอยช่วยเขาศึกษาคู่แข่งจากวิดีโอ เก็บสถิติต่างๆ มาประมวลเพื่อพัฒนาให้ทีมดาวรุ่งของกลายเป็นแข้งระดับโลกอย่างทุกวันนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แน่นอนว่าถ้าในลิสต์รายชื่อโค้ชที่ดีที่สุดในโลก 10 อันดับตอนนี้ต้องมี เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในนั้น

4. ความอ่อนแอ: สมัยที่ ดอร์ทมุนด์ มีผู้เล่นมากความสรา้งสรรค์มากมายทั้ง เฮนริค เมอคิตาร์ยาน อิลคาย กุนโดกัน รวมถึง มาร์โก รอยส์ เพื่อทำประตู แต่ด้วยแทคติกเกมรับที่ไม่เหนียวแน่นของเขาส่งผลอย่างมากที่ทำให้เขาต้องลาออกจาก ดอร์ทมุนด์ เพื่อหาความท้าทายใหม่ แต่เบื้องลึกแล้ว คล็อปป์ เองที่มีปัญหากับนักเตะเพียงไม่กี่คนในทีมจึงเป็นเหตุให้เขาอยู่ต่อที่ ซิกแนล อารีน่า ต่อไปไม่ได้

5. การรับมือกับแรงกดดัน: ในการแสดงออกและบทสัมภาษณ์ของ คล็อปป์ กับสื่อมวลชนต่างๆ หรือแม้แต่ผู้ตัดสินในสนาม มักจะรุนแรง และเต็มไปด้วยความก้าวร้าว มีหลายครั้งที่เขาต้องเสียค่าปรับและโทษแบนจากพฤติกรรมที่เลวร้ายแบบนั้น

กับบอร์ดบริหารเขามักดื้อดึง และคิดเห็นคิดต่างจากนโยบาลอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการเข้ามาก้าวก่ายการทำทีมแทคติก รวมถึงการตัดสินใจซื้อนักเตะ แน่นอนว่า พรีเมียร์ลีก สำหรับ คล็อปป์ คงไม่หอมหวานเหมือนที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนจิตนากรเอาไว้