เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตเซ็นเตอร์ฮาร์ฟขวัญใจสาวก “หงส์แดง” ออกมาให้ความเห็นถึงแมตช์สุดท้ายใน แอนฟิลด์ ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ ลิเวอร์พูล โดย “คาร่า” เชื่อว่านั่นจะเป็นแมตช์อำลาอย่างแท้จริงของกัปตัน “หัวขิง” และตัวเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของอดีตเพื่อนรักไหลออกมาหลับสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายในเกมที่จะพบกับ คริสตัล พาเลซ วันเสาร์นี้

อดีตแนวรับดีกรีทีมชาติ อังกฤษ วัย 37 ปี ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ถึงเรื่องนี้ว่า “แมตช์สุดท้ายของเขาคือสัปดาห์ถัดไปที่จะเจอกับ สโต๊ค แต่สำหรับผมการอำลาของจริงคือเกมที่เขาจะได้ลงเล่นใน แอนฟิลด์ เป็นครั้งสุดท้าย เพราะมันเป็นที่ที่เขาค้าแข้งมาตลอดทั้งชีวิต”

“ผมคิดว่าความกังวลคงไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เขาจะต้องมองไปข้างหน้า และความรู้สึกมันจะเริ่มเข้ามาหาเขาเรื่อยๆในระหว่างเกมเพราะ สตีเว่น จะไม่ได้เล่นที่ แอนฟิลด์ อีกต่อไป”

“ผมหวังว่าเขาจะไม่ร้องไห้ออกมาให้แฟนบอลได้เห็น เพราะมันไม่ดีเลยที่จะอำลาทีมไปด้วยน้ำตาอย่างที่ ซามี่ ฮูเปีย เคยเป็นแบบนั้น”

ลิเวอร์พูล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หงส์แดง, เจมี่ คาร์ราเกอร์

แกรี่ เนวิลล์ อดีตฟูลแบ็คระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิเคราะห์ปัญหาของ ลิเวอร์พูล หลังจากทำผลงานได้ตกต่ำจนล่าสุดเหลือโอกาสเพียง 00.01 เปอร์เซ็นที่จะได้ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

อดีตแข้ง “ปีศาจแดง” ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้กับ skysports ว่า “สำหรับ ลิเวอร์พูล มันดูเหมือนมีอะไรผิดพลาดหลายอย่าง พวกเขาเริ่มต้นซีซั่นด้วยผลงานที่ห่วยมากๆ แถมบรรดานักเตะที่ใช้เม็ดเงินมหาศาลกว้านซื้อเข้ามาก็ไม่สามารถปรับตัวได้เร็วอย่างที่พวกเขาต้องการ”

“พวกเขามีการแปลงแปลงนักเตะจำนวนมาก เพื่อเพิ่มขุมกำลังในทีม เพราะฤดูกาลก่อนไม่ได้เล่นในถ้วยยุโรป จึงสามารถใช้ผู้เล่น 12 หรือ 13 คนตลอดซีซั่นได้อย่างสบายหายห่วง เพราะฉะนั้นฤดูกาลนี้จะทำแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากมีโปรแกรม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มเข้ามา และถ้าหากถามว่าปีนี้ผลงานเสมอตัวหรือแย่กว่าเดิม? มันก็คงแย่กว่าเดิมนิดหน่อย เพราะเม็ดเงินที่จ่ายไปกับการซื้อนักเตะใหม่มันน่าจะคาดหวังอะไรได้มากกว่านี้” เฮียเนฟทิ้งท้าย

สตีเว่น เจอร์ราร์ด ห้องเครื่องกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ออกมายอมรับหลังเกมบุกเสมอ เชลซี 1-1 เมื่อคืนที่ผ่านมาว่าตัวเขายังคงต้องการกลับมารับใช้ “หงส์แดง” ในฐานะกัปตันทีมอีกครั้ง หลังจากหมดสัญญากับ แอลเอ กาแลคซี่ ในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้า

อดีตมิดฟิลด์ดีกรีกัปตันทีมชาติ อังกฤษ วัย 34 ปีให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่จะต้องย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล เพราะผมอยู่ที่นี่มานานถึง 27 ปี และผมจะเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ผมภูมิใจมากๆสำหรับความสำเร็จที่ผ่านมาทั้งหมด รวมไปถึงช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดเช่นกัน ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของอาชีพการเป็นนักฟุตบอล”

“ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในใจของผมเสมอแม้ว่าจะต้องย้ายออกไปก็ตาม ต่อจากนี้ผมจะคอยให้กำลังใจน้องๆอยู่ห่างๆสัก 2-3 ปี และไม่แน่ว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผมอาจจะกลับมาที่นี่ในบทบาทกัปตันทีมอีกครั้ง ไม่ว่าใครจะเป็นผู้จัดการทีมในเวลานั้นก็ตาม”