โนซุปตาร์!! จีนัส สุดทึ่ง คล็อปป์ ทำทีมแจ๋ว โดยไม่ต้องพึ่งดารา

5499

เจอร์เมน จีนัส อดีตกองกลางชาวอังกฤษของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเฮฟวี่เมทัลของ ลิเวอร์พูล ดูจะมีแนวทางการทำทีมที่ไม่พึ่งพา หรือให้ความสำคัญกับซูเปอร์สตาร์ในทีมแต่อย่างใด

ครั้งหนึ่งสมัย คล็อปป์ ยังคุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เคยพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2012-13 ทั้งๆ ที่เพิ่งขาย ชินจิ คางาวะ ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูจะไม่ได้วางใจใครเป็นพิเศษ มันดูเหมือนว่าการมีซูเปอร์สตาร์อยู่ในทีมจะไม่ใช่แผนการทำทีมของเขา เขาอาจจะมีความสุขถ้ามีดาราในทีม หรืออาจจะไม่ต้องมีก็ได้ มันไม่มีผลอะไรกับเขาทั้งนั้น และมันน่าอัศจรรย์ในเรื่องนี้”

“สำหรับ คล็อปป์ การสูญเสีย สเตอร์ลิ่ง เมื่อซัมเมอร์ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และผลที่ตามมาคือ คุณต้องหลีกเลี่ยงการซื้อตัวแบบโง่ๆ เพราะเขาดูจะพยายามหาโอกาสซื้อใครสักคน ที่จะนำมาปั้นเป็น สเตอร์ลิ่้ง คนใหม่ หรือใครสักคนที่จะดีได้มากกว่านั้น

“เขาไม่เชื่อใจผู้เล่นคนใดเป็นพิเศษ เพราะเขารู้ดีว่าเขามีความสามารถที่จะพัฒนาผู้เล่นให้ดีขึ้นได้ในระบบของเขา นั่นคือสิ่งที่ผู้เล่นล้วนต้องการจะมี ผู้จัดการที่สามารถช่วยให้คุณเก่งขึ้น หรือเปลี่ยนคุณจากนักเตะที่ดีไปสู่การเป็นผู้เล่นระดับท็อป”

P151121-034-Man_City_Liverpool-600x388

เจาะลึกไลน์วิ่งแข้ง “หงส์” ในเกมบุกจม “เรือ” 4-1

Liverpool-4-3-3-vs.-City-600x418 5484

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทีมที่เล่นเกมเหย้าดีเป็นอันดับต้นๆ ของลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพลาดท่าเสียให้กับ ลิเวอร์พูล ถึง 1-4 และมีคำถามมากมายเกิดขึ้นหลังเกมว่า “หงส์แดง” เล่นดีหรือ “เรือใบ” เล่นแย่ หรือว่าจะเป็นแทคติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สามารถเอาชนะตำราโบราณของ มานูเอล เปเญกรินี่ ได้ คราวนี้เราจะพาไปดูเส้นทางการวิ่งแบบเจาะลึกของทัพ “เครื่องจักรสีแดง” ในเกมนี้กัน…

แน่นอนว่าการไม่มี คริสติย็อง เบนเตเก้ กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เป็นหน้าเป้าตัวจริง ตามระบบ 4-3-3 และ คล็อปป์ เลือกที่จะใช้ โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ยืนหน้าตัวกลางแทน โดยวาง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ซ้าย) กับ อดัม ลัลลานา (ขวา) คอยสนับสนุนอยู่ด้านข้าง น่าสนใจที่การออกบอลจังหวะเดียวและการจ่ายบอลทะลุช่องของเหล่าบรรดาเพลยเมกเกอร์ สามารถช่วยให้ทีมมีโอกาสทำลายกับดักล้ำหน้าของ “ซิตี้” ได้สบายอย่างเหลือเชื่อ

จากกราฟฟิกจะเห็นว่ามีแค่ผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์เพียง 2 คนเท่านั้นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่ไม่มีการเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงไปไหน ส่วนอีก 8 รายที่เหลือมีรูปแบบการวิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ไล่เรียงจากตัวเป้าอย่าง เฟียร์มิโน่ ซึ่งรับบทบาทเป็น “False Nine” หรือกองหน้าตัวหลอกที่สามารถวิ่งลงมาเชื่อมเกมแดนกลางและสลับลงต่ำเพื่อให้สองตัวรุกซ้าย-ขวา หุบเข้ามาทำเกมรุกแทน เราจึงไม่เห็นเขาถ่างออกมาเล่นเป็นริมเส้นเหมือนในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ส่วนในตำแหน่งมิดฟิลด์ 3 ราย จะเห็นว่า เจมส์ มิลเนอร์ ต้องลงมารับบทบาทเป็นกองกลางตัวรับช่วย ลูคัส เลว่า ตัดเกมคู่แข่งและปล่อยให้ เอ็มเร่ จัน ยืนสูงกว่าเพื่อคอยคุมโซน และทำให้ทีมสลับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยห้อย เฟียร์มิโน่ ยืนหน้าเพียงคนเดียวในช่วงที่ทีมเล่นเกมรับ ซึ่งหน้าที่ของ “ลูลู่” ค่อนข้างตายตัวและไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในเกมรุกมากนัก ทำให้พื้นที่รับผิดชอบน้อยลงและประหยัดแรงลงได้เยอะ สังเกตว่าสองนัดหลังสุด เขาสามารถลงเล่นได้ถึง 90 นาทีเต็ม ทั้งที่สำรองอย่าง โจ อัลเลน ก็ยังพร้อมสแตนบาย

ในขณะที่สองแบ็คซ้าย-ขวา ทำหน้าที่ต่างกันเล็กน้อย โดยทางด้านของ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ จะขึ้นสุดลงสุดได้มากกว่า นาธาเนี่ยล ไคลน์ นั่นเป็นเพราะเกมรุกฝั่งซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่อนข้างน่ากลัว ซึ่งมีทั้ง อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อันตรายกว่าอีกฝั่งเยอะ จึงทำให้ ลัลลานา ต้องสกรีนก่อนที่ ไคลน์ จะเข้ามาช่วยซ้อน

แม้ว่าการวางหมากและแทคติกต่างๆ อาจจะดูเว่อร์เกินจริงไปบ้าง แต่จากรูปเกมในวันนั้น เห็นได้ชัดว่าการเพรสซิ่งเพื่อแย่งบอลกลับมาให้ได้เร็วที่สุดตั้งแต่แดนหน้า ทำให้ทีมสามารถเล่นเคาน์เตอร์แอ็ตแท็คได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ช้าจนคู่แข่งกลับมาตั้งโซนรับได้ทัน แน่นอนว่าพื้นที่ในเกมรุกก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าดูจากสถิติการต่อบอลของ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด 385 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือน่าตกใจ เพราะการออกบอลไม่มากครั้งในการเข้าทำ เป็นเรื่องดีกว่าต่อบอลเป็นสิบครั้งจนช่องปิดและต้องกลับไปเริ่มที่คู่เซ็นเตอร์ใหม่นั่นเอง

สถิติยืนยัน! คล็อปป์ คุม 6 วีคชนะท็อปโฟร์มากกว่า บีร็อด คุม 3 ปี

MANCHESTER, ENGLAND - NOVEMBER 21:  (THE SUN OUT, THE SUN ON SUNDAY OUT) Jurgen Klopp manager of Liverpool at the start of the Barclays Premier League match between Manchester City and Liverpool at Etihad Stadium on November 21, 2015 in Manchester, England.  (Photo by Andrew Powell/Liverpool FC via Getty Images)

เรียกได้ว่าเอาใจแฟนบอล ลิเวอร์พูล ไปเต็มๆ สำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือสายเฮฟวี่เมทัลกับผลการแข่งขันนัดล่าสุดพา ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม

และล่าสุดสื่อต่างประเทศก็ออกมาเปิดเผยสถิติที่น่าสนใจว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงเวลาเพียง 6 สัปดาห์ก็พา ลิเวอร์พูล เอาชนะทีมจากท็อปโฟร์ได้มากกว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่คุม ลิเวอร์พูล มา 3 ปี

ด้วยการเอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 3-1 ตอนสิ้นเดือนตุลาคม และล่าสุดที่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปเมื่อวันเสาร์ ชี้ชัดว่า คล็อปป์ มีการจัดการรูปแบบการเล่นเมื่อต้องเป็นทีมเยือนได้อย่างยอดเยี่ยม