ยังมีเรื่องดี! ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์รายได้รวมพรีเมียร์ลีก

Untitled-131ทราบบทสรุปศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2013-14 ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ แชมป์ตกเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ แข่ง 38 นัด มี 86 แต้ม ส่วนรองแชมป์เป็น หงส์แดงลิเวอร์พูล แข่ง 38 นัดมี 84 แต้ม

ถึงแม้ว่าลูกทีมของ ร็อดเจอร์ส จะวืดแชมป์ในซีซั่นนี้ แต่ผลประกอบการกลับยอดเยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อนับจากเงินรางวัลรองแชมป์และค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ฟันรายได้ ไปกว่า 99 ล้านปอนด์ มากกว่าแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ได้รับอยู่ที่ 98 ล้านปอนด์

ส่วนทีมขวัญใจชาวไทย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ซีซั่นนี้จบที่อันดับ 7 คว้ารายได้รวมไป 91 ล้านปอนด์, เชลซี จบอันดับ 3 รายได้รวม 95 ล้านปอนด์ และสุดท้ายทีมอันดับ 4 อาร์เซน่อล ได้ไป 93 ล้านปอนด์

ด้านทีมที่ได้รายได้น้อยที่สุดคือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ บ๊วยของตารางที่ตกชั้นได้ไปน้อยสุดเพียง 64 ล้านปอนด์

คิดบวก! เฮนเดอร์สัน เชื่อลิเวอร์พูลวืดแชมป์คือบทเรียนชั้นยอด

Liverpool v Newcastle United - Premier Leagueยังมองโลกในแง่ดีสำหรับ “เฮนโด้” จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางตัวเก่งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2013-14 ออกมาเผยว่าการวืดแชมป์ในซีซั่นนี้คือบทเรียนที่สำคัญที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล แข่งแกร่งขึ้นในฤดูกาลหน้า

“มันสำคัญต่อการจบฤดูกาลด้วยชัยชนะเพราะ คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แม้เราไม่ได้แชมป์ แต่เราถือว่าเดินทางมาไกลมากในฤดูกาลนี้”

“ซีซั่นนี้เราใกล้เคียงกับคำว่าแชมป์เหลือเกินเรามาไกลเกินเป้า ซึ่งเราคิดว่าเราดีพอสำหรับแชมป์เลยด้วยซ้ำในช่วงท้ายฤดูกาล แต่นั้นแหละคือบทเรียนที่จะทำให้เราพัฒนาและสู้ต่อในซีซั่นต่อไป เราจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นในฤดูกาลหน้า

ทั้งนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พลาดลงช่วย ลิเวอร์พูล 3 เกมรวดหลังติดโทษแบนใบแดง ส่งผลให้ 3 เกมที่ ขาดเฮนเดอร์สัน ลิเวอร์พูล เก็บได้เพียง 3 แต้มเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุผลอีกหนึ่งประการที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มแซงในช่วง 3 นัดสุดท้ายของฤดูกาล

เจอร์ราร์ด ย้ำยังไม่หมดไฟขอเดินหน้าพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ให้ได้

article-2625535-1DC0C08800000578-25_634x540-300x255“กัปตันเจิด” สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ยอดกองกลางสุดที่รักของชาว “เดอะค็อป” ออกโรงย้ำแฟนบอลทั่วโลกว่ายังไม่หมดความกระหายในการเล่นฟุตบอลและจะเดินหน้า พา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นหน้าให้สำเร็จ

“ซีซั่นนี้เรามาไกลกว่าที่ตั้งเป้าไว้คือท็อปโฟร์ แต่เมื่อคุณเก็บชัยชนะได้ 11 นัดรวด แน่นอนความคิดเรื่องแชมป์เข้ามาแทนที่เป้าหมายเดิม” “มีนักข่าวหลายคนถามว่าผมจะหมดไฟและเลิกเล่นเมื่อไหร่ ผมตอบเลยว่าเรื่องนั้นยังไม่ถึงเวลา ผมยังกระหายในชัยชนะและแชมป์พรีเมียร์ลีกคือสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ทุกคนต้องการ”

“ผมจะสู้จนถึงนัดสุดท้ายของการคว้าแชมป์ ซีซั่นนี้เราได้บทเรียนราคาแพง ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ในซีซั่นหน้าเราจะแข็งแกร่งขึ้นและจะทนต่อแรงต้านทานให้ได้ ฤดูกาลหน้าเราไม่หวังแค่ท็อปโฟร์และนั้นคือสิ่งที่เราจะต้องทำให้สำเร็จ”

ปัจจุบัน เจอร์ราร์ด อายุ 33 ปี ก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้ ลิเวอร์พูล ครั้งแรกเมื่อปี 1998 ในยุคของ เฌอร่า อุลลิเยร์ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุด เจอร์ราร์ด เพิ่งมีอายุเพียง 9 ปี เท่านั้น