หลังจากไปสร้างวีรกรรมกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลินี่ในฟุตบอลโลก โดยฟีฟ่าได้กำหนดบทลงโทษให้กับหลุยส์ ซัวเรซแล้วโดยเกมทีมชาติจะโดนแบน9นัดนับตั้งแต่เกมกับโคลอมเบียในฟุตบอลโลก2014รอบ16ทีมสุดท้ายและห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นระยะเวลา4เดือน ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผลกระทบต่อสโมสรลิเวอร์พูลอย่างไม่ต้องสงสัย
เกมที่ซัวเรซจะหมดสิทธิ์ลงสนามช่วยลิเวอร์พูล
16 ส.ค. พบ เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
,23 ส.ค. พบ แมนฯ ซิตี้ (เยือน, พรีเมียร์ลีก), 
30 ส.ค. พบ สเปอร์ส (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
,13 ก.ย. พบ แอสตัน วิลล่า (เหย้า, พรีเมียร์ลีก), 
16 ก.ย. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 1
 ,20 ก.ย. พบ เวสต์แฮม (เยือน, พรีเมียร์ลีก), 
27 ก.ย. พบ เอฟเวอร์ตัน (เหย้า, พรีเมียร์ลีก, )
30 ก.ย. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2
,  4 ต.ค. พบ เวสต์บรอมวิช (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
, 18 ต.ค. พบ คิวพีอาร์ (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
, 21 ต.ค. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3
,  25 ต.ค. พบ ฮัลล์ ซิตี้ (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

เทอร์รี่ บุทเชอร์ ตำนานปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ออกมาแสดงทรรศนะว่า หาก หลุยส์ ซัวเรซ สตาร์กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ต้องถูกลงโทษแบนจากกรณีไปกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในเกมฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี นัดสุดท้าย ที่ทีม “จอมโหด” เฉือนเอาชนะ 1-0 เมื่อวันอังคารที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา โทษดังกล่าวไม่ควรมีผลมาถึงการแข่งขันในระดับสโมสร

อดีตเซ็นเตอร์แบ็ก ซันเดอร์แลนด์ กล่าวผ่าน สกาย สปอร์ต นิวส์ สถานีโทรทัศน์ช่องกีฬาในแดนผู้ดีว่า “ผมคิดว่ามันควรจะเป็นโทษแบนเพียงแค่ในระดับทีมชาติ มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมของทีมชาติ เขาลงสนามให้กับทีมบ้านเกิดของเขา มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ ลิเวอร์พูล

เขาเคยถูกลงโทษแบนมาก่อนกับ ลิเวอร์พูล แต่เขายังสามารถลงเล่นให้กับทีมชาติได้เช่นกัน ดังนั้นผมคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นในเกมระดับไหน มันก็ควรจะถูกสั่งลงโทษในเกมระดับนั้น” บุทเชอร์ ทิ้งท้าย