ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รอบเพลย์ออฟ นัดที่2
อาร์เซน่อล VS เบซิคตัส
วันพุธที่ 27 ส.ค.57
สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
คิกออฟ 01.45น.
ผลงาน3นัดหลังสุดของอาร์เซน่อล
D D W
เอฟเวอร์ตัน 2-2 อาร์เซน่อล
เบซิคตัส 0-0 อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล 2-1 คริสตัล พาเลซ
ผลงาน3นัดหลังสุดของเบซิคตัส
D W W
เบซิคตัส 0-0 อาร์เซน่อล
เบซิคตัส 3-1 เฟเยนูร์ด
เฟเยนูร์ด 1-2 เบซิคตัส
(น่าลุ้นรองเบซิคตัส)
มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าดาวดังชาวอิตาเลียน ย้ายจาก เอซี มิลาน สโมสรดังแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาเป็นสมาชิกใหม่ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเซ็นสัญญาร่วมงานกันเป็นเวลา 3 ปี
สำหรับเรื่องค่าตัวนั้นอยู่ที่ราว 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 880 ล้านบาท) โดย บาโลเตลลี่ จะสวมเสื้อ หมายเลข 45 ซึ่งถือเป็นเบอร์เก่งของเจ้าตัวที่ใส่มาตั้งแต่สมัยอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน
ผมมีความสุขมากๆ เราพูดคุยกันมาเยอะเกี่ยวกับการย้ายมาที่นี่ และตอนนี้ผมก็แฮปปี้มากๆ ที่ได้มาอยู่ที่นี่ ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน อังกฤษ ที่นี่มีการเล่นฟุตบอลที่สุดยอด เป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่ง นั่นแหละที่ทำให้ผมย้ายมาที่นี่” สตาร์ทีมชาติอิตาลีวัย 24 ปี เปิดใจ
ชื่อเต็ม : มาริโอ บาร์วูอาห์ บาโลเตลลี่,
วันเกิด : 12 สิงหาคม 1990 (อายุ 24 ปี),
สถานที่เกิด : เมือง ปาแลร์โม่ ประเทศอิตาลี,
ส่วนสูง : 189 เซนติเมตร
, ตำแหน่ง : กองหน้า
ผลงาน ระดับเยาวชน
ปี สโมสร
2001-2006 ลูเมซซาเน่
เส้นทางอาชีพนักเตะอาชีพ ลูเมซซาเน่
2007–2010, อินเตอร์ มิลาน, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอซี มิลาน ลิเวอร์พูล
ผลงานในระดับทีมชาติ
อิตาลี ยู-21, อิตาลีชุดใหญ่
1.) มาริโอ บาโลเตลลี่ เกิดเมื่อ 12 สิงหาคม ปี 1990 ในเมือง ปาแลร์โม ประเทศ อิตาลี โดยมีพ่อแม่เชื้อสาย กาน่า แต่ด้วยสภาพครอบครัวที่ยากจนแถมเจ้าตัวดันมีปัญหาสุขภาพตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องถูกส่งไปอยู่กับผู้อุปภัมน์ที่พร้อมรับไปเลี้ยงดู ซึ่งนั่นก็คือครอบครัว บาโลเตลลี่
2.) “เกรียนโอ้” เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก แถมยังมีทักษะฝีเท้าที่เหนือชั้นกว่าเด็กคนอื่นๆมาก ทำให้ตอนนั้น บาโลเตลลี่ ในวัย 5 ขวบ ถูกเรียกติดทีมระดับตำบล และได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งปี 2001 ลูเมซซาเน่ สโมสรฟุตบอลใน อิตาลี คว้าดาวยิงรายนี้ไปร่วมทัพ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาเลย
3.) 8 ปีที่แล้ว บาโลเตลลี่ เกือบได้เป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า เมื่อเขาถูกเชิญให้ไปทดสอบฝีเท้า แถมยังทำผลงานได้เจิดจรัส(ลงซ้อม 5 วัน ซัดประตู 8 ลูก) ทำให้ “เจ้าบุญทุ่ม” เตรียมมอบสัญญาในการย้ายทัพให้ “เกรียนโอ้” แต่เอกสารการเป็นพลเมืองอิตาลีของเจ้าตัวดันมีปัญหา ทำให้สุดท้าย อินเตอร์ มิลาน จมูกไวรีบคว้าตัว ศูนย์หน้าคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล คนปัจจุบัน ไปร่วมทัพได้สำเร็จ
4.) ศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติ อิตาลี ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลก โซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะพฤติกรรมความเกรียนที่ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้มีผู้ติดตามทาง ทวิตเตอร์, อินตราแกรม โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ที่มีคนกดถูกใจทะลุ 9 ล้านไปแล้ว
5.) ด้วยวัยเพียงแค่ 24 ปี แต่ความสำเร็จไม่ได้น้อยตามอายุเลย เมื่อเจ้าตัวคว้าถ้วยรายการใหญ่ๆมาแล้วถึง 7 ใบ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, กัลโช่ เซเรีย อา(3 สมัย) และอิตาเลียน คัพ
6.) บาโลเตลลี่ ลงสนามในนามทีมชาติ อิตาลี ไปแล้วทั้งหมด 33 นัด ระเบิดตาข่ายได้ 13 ประตู ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะจังหวะสำคัญๆของเกม โดยเฉพาะการคว่ำ เยอรมัน ด้วยการสังหารไป 2 ตุง พร้อมพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ยูโร 2012 กับทีมชาติ สเปน ได้สำเร็จ
7.) หลังจากที่ย้ายกลับไปเล่นบนเวที กัลโช่ เซเรีย อา ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว(เดือน มกราคม)ปี 2013 บาโลเตลลี่ ใส่สกอร์ให้กับต้นสังกัดใหม่อย่าง เอซี มิลาน ได้ในนัดแรก แถมใช้เวลาแค่ 25 นาทีเท่านั้นในแมตช์ที่เจอกับ อูดิเนเซ่
8.) เบอร์เสื้อหมายเลข 45 ที่ บาโลเตลลี่ กำลังจะใช้ลงสนามให้กับ ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีย์ ถือเป็นหมายเลขที่เจ้าตัวใช้มาตลอดตั้งแต่อยู่กับ อินเตอร์ มิลาน, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเอซี มิลาน
9.) มาริโอ บาโลเตลลี่ เคยลงสนามในถิ่น แอนฟิลด์ ในฐานะคู่ต่อสู้ของ ลิเวอร์พูล มาแล้ว 3 ครั้งสมัยยังเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เกมแรก – อยู่ในสนาม 67 นาที ลงมาเป็นตัวสำรอง : จบเกม : ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0
เกมสอง – โดนใบแดง : จบเกม : เสมอ 1-1
เกมสาม – ลงเล่น 1 ชั่วโมง : จบเกม : เสมอ 2-2 (ช่วงแรกที่ ร็อดเจอร์ส คุมทีม ลิเวอร์พูล)
10.) บาโลเตลลี่ เป็นเพื่อสนิทกับ เดร็ค นักร้องฮิปฮอป ระดับซุปเปอร์สตาร์ ทั้งคู่รู้จักกันตอนที่แร็ปเปอร์ชาวแคนาเดียน มาโชว์ความมันส์ที่เมือง แมนเชสเตอร์ หลังจากนั้นทั้งสองก็มาเจอกันหลายครั้งจนกระทั่งสนิทสนมถึงขั้น เดร็ค เคยแปลงชื่อ บาโลเตลลี่ ลงไปในเพลงมาแล้วด้วย
ขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ทางการสโมสรลิเวอร์พูล
