มาดามทุสโซด์ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งระดับโลก ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์กองหน้า บาร์เซโลน่า แชมป์ ลา ลีกา สเปน เป็นที่เรียบร้อยแล้วในงานเปิดตัวดังกล่าว โฆษกของงานเปิดเผยว่า หุ่นขี้ผึ้งของกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาซึ่งจำลองมาจากแอ็กชั่นของเจ้าตัว ขณะนำทีมบ้านเกิดลงชิงชัยในศึกฟุตบอลโลก 2014 นั้น เป็นการทำงานร่วมกันของศิลปิน 20 คน โดยใช้เวลาราว 3-4 เดือนจึงเสร็จสมบูรณ์

ใกล้จะหมดลงไปทุกที.. สำหรับฤดูกาลสุดท้ายของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในสีเสื้อแดงเพลิงของ ลิเวอร์พูล วันนี้ทีมงานSport.Mthai จะพาแฟนๆไปดู วิวัฒนาการทรงผมของ “กัปตันหัวขิง” ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาติดทัพ “หงส์แดง” ชุดใหญ่ตลอด 17 ปีบนฝืนสนาม แอนฟิลด์ ว่าจะหล่อเหลาเอาการกันสักแค่ไหน..

มิดฟิลด์ระดับตำนานของ ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีย์ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แทบจะไม่เปลี่ยนทรงผมตลอดอาชีพการค้าแข้ง และเท่าที่เห็นเด่นๆจะมีแค่ ทรงสกินเฮด และรองทรงสูง เท่านั้นที่ดูจะสะดุดตามากที่สุด เท่ากับว่านอกจากความจงรักภักดีที่ เจอร์ราร์ด มีต่อ ลิเวอร์พูล แล้ว ยังรวมไปถึงความจงรักภักดีต่อทรงผมและใบหน้าที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปซักเท่าไหร่(นอกจากรอยตีนกา)ตั้งแต่ตบเท้าเข้ามารับใช้ทีมชุดใหญ่ในปี 1998 ถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ “สตีวี่จี” ลงประเดิมสนามให้ทัพ “หงส์แดง” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1998 โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน เวการ์ด เฮกเก้ม ในแมตช์เปิดรัง แอนฟิลด์ เชือด “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 และโปรแกรมสุดท้ายอย่างเป็นทางการของเจ้าตัวคือนัดที่จะต้องบุกไปเยือน สโต๊ค ซิตี้ ในรัง บริทานเนีย สเตเดี้ยม วันที่ 24 พฤษภาคม 2015 ที่จะถึงนี้

ชั่วโมงนี้ ณเดชน์ ยังต้องชิดซ้าย!! สำหรับเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกรถด่วนของ ลิเวอร์พูล หลังจากสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง The Guardian เผยว่า มีถึง 11 บิ๊กทีมที่กำลังสนใจวันเดอร์คิดเลือดผู้ดีรายนี้ไปป่วนริมเส้นในฤดูกาลหน้า

จากกรณีล่าสุดที่หลายสำนักข่าวต่างพุ่งประเด็นไปยังแข้งวัย 20 ปี ว่าเจ้าตัวเตรียมเข้าพบ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และเอียน อายร์ เพื่อขอย้ายทีมหลังจบซีซั่น ทำให้ยักษ์ใหญ่หลายสโมสรพร้อมอ้าแขนรับ สเตอร์ลิ่ง เข้ามาร่วมทีม เนื่องจากอายุยังน้อย แถมยังใช้งานได้อีกนาน

ทั้งนี้ฤดูกาลล่าสุด ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงสนามรับใช้ “หงส์แดง” ไปแล้วทั้งหมด 47 นัด สอยตาข่ายได้ 11 ประตู และ 11 สโมสรที่ต้องแย่งลายเซ็นอดีตลูกหม้อ ควีนส์ปาร์ค ไปร่วมทัพได้แก่

1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ความเป็นไปได้ 7/10)
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ความเป็นไปได้ 3/10)
3. เชลซี (ความเป็นไปได้ 6/10)
4. อาร์เซน่อล (ความเป็นไปได้ 5/10)
5. บาเยิร์น มิวนิค (ความเป็นไปได้ 4/10)
6. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ความเป็นไปได้ 7/10)
7. บาร์เซโลน่า (ความเป็นไปได้ 1/10)
8. เรอัล มาดริด (ความเป็นไปได้ 3/10)
9. อินเตอร์ มิลาน (ความเป็นไปได้ 1/10)
10. เอซี มิลาน (ความเป็นไปได้ 1/10)
11. ยูเวนตุส (ความเป็นไปได้ 2/10)