ไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือร่วง? สำหรับการเสริมทัพครั้งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรายของเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่พวกเขาทุ่มเม็ดเงินมหาศาลถึง 49 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากปีกดาวรุ่งวัย 20 ปี รายนี้มาร่วมทัพ โดยทาง สกาย สปอร์ตส์ นำเอาสถิติการกระชากนักเตะสัญชาติอังกฤษ นับตั้งแต่ กลุ่มทุนอาบูดาบี เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร(ปี2008)ซึ่งใช้เม็ดเงินไปกับการคว้าแข้งเลือดผู้ดีมาเพิ่มโควต้านักเตะในประเทศไปแล้วเกือบ 100 ล้านปอนด์

ก่อนหน้านี้ “เรือใบสีฟ้า” ในยุคกลุ่มทุนจาก อาบูดาบี จัดการคว้านักเตะในประเทศเข้ามาค้าแข้งในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม 7 ราย ทว่า 2 รายหลังอย่าง แจ็ค ร็อดเวลล์ และสก็อตต์ ซินแคลร์ กลับมีโอกาสลงสนามในฐานะตัวจริงรวมกันเพียง 9 นัดเท่านั้น สุดท้ายก็แจ้งเกิดไม่สำเร็จจนต้องเก็บข้าวของย้ายออกไปในที่สุด โดยปัจจุบัน แมนฯซิตี้ จำเป็นต้องมีนักเตะฝีเท้าเยี่ยมสัญชาติอังกฤษอยู่ในทีมเนื่องจากเพิ่งปล่อย แฟรงค์ แลมพาร์ด(ส่งคืนจากการยืมตัว) และเจมส์ มิลเนอร์ เพื่อเพิ่มโควต้านักเตะในประเทศตามกฏของพรีเมียร์ลีก
7 นักเตะสัญชาติอังกฤษที่ แมนฯซิตี้ ซื้อเข้ามาเสริมทัพด้วยเม็ดเงิน 95 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่ยุคกลุ่มทุนจาก อาบูดาบี เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2008

เวย์น บริดจ์
– 12 ล้านปอนด์ จาก เชลซี
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 40 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 ฤดูกาล

อดัม จอห์นสัน
– 6 ล้านปอนด์ จาก มิดเดิลสโบรห์
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 39 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 ฤดูกาล

โจลีออน เลสค็อตต์
– 24 ล้านปอนด์ จาก เอฟเวอร์ตัน
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 92 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 ฤดูกาล

แกเร็ธ แบร์รี่
– 12 ล้านปอนด์ จาก แอสตัน วิลล่า
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 123 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 ฤดูกาล

เจมส์ มิลเนอร์
– 18 ล้านปอนด์ จาก แอสตัน วิลล่า
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 89 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 ฤดูกาล

สก็อตต์ ซินแคลร์
– 8 ล้านปอนด์ จาก สวอนซี
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 2 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 ฤดูกาล

แจ็ค ร็อดเวลล์
– 15 ล้านปอนด์ จาก เอฟเวอร์ตัน
– ลงเล่นเกมลีกในฐานะ 11 ตัวจริง 7 นัด
– ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ฤดูกาล