ปีเตอร์ เช็ก นายทวารคนใหม่ของ อาร์เซนอล อธิบายถึงสาเหตุที่เลือกใส่เสื้อหมายเลข 33 ในฤดูกาลหน้า โดยเขาเขียนไว้ในทวิตเตอร์ว่า “เริ่มต้นบันทึกหน้าใหม่ด้วยวัย 33 กับ 333 เกมใน พรีเมียร์ลีก เลือกไม่ยากเลย(ที่คิดจะใส่เบอร์33) หวังว่าผมจะเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญกระดูกสันหลังทีม และกระดูกสันหลังก็มี 33 ข้อ”
หมายเลขเสื้อที่ เช็ก จะใช้ในฤดูกาลหน้้า
ตลาดซื้อขายเปิดยังไม่ทันเท่าไร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เดินเครื่องดูดนักเตะเข้ารังมาแล้วหลายต่อหลายคน อาทิ แดนนี่ อิงส์, เจมส์ มิลเนอร์,โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, นาธาเนียล ไคลน์, โจ โกเมซ
ซึ่งนักเตะเหล่านี้ต่างต้องใช้กาลเวลาพิสูจน์ฝีเท้าให้แฟนบอลทั่วโลกเห็นว่า พวกเขาเล่นได้คุ้มค่าตัวหรือไม่ วันนี้ทีมงานขอนำเสนอ 10 นักเตะ ลิเวอร์พูล ที่เซ็นสัญญาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
เซนเตอร์ฮาร์ฟชาวสโลวาเกีย ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2008 จากการซื้อตัวของ ราฟาเอล เบนิเตซ ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 6.5 ล้านปอนด์ แน่นอนว่า ตอนแรกแฟนหงส์แทบไม่ได้คาดหวังกับปราการหลังรายนี้ แต่ในตอนนี้ เขาได้กลายเป็นตัวหลักด้วยสไตล์การเล่นที่หนักหน่วงและทุ่มเทเกินร้อยเสมอ
ถือว่าเป็นกองหน้าที่เข้ามาเติมสีสันของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์จาก แอตเลติโก้ มาดริด การจับคู่กับ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด จนยิงกระจาย หายคนคงไม่ลืมประตูที่ ลากเข้าไปยิงแสกหน้า เอ็ดวิน ฟานเดอซาร์ในศึกแดงเดือด ลงแน่ๆ แถมขายให้ เชลซี ได้เงินมาตั้ง 50 ล้านปอนด์ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เหลือเชื่อว่า อินเตอร์ มิลาน จะยอมปล่อยของดีอย่าง คูตินโญ่ ออกมาด้วยราคาสุดคุ้มแค่ 8.5 ล้านปอนด์เท่านั้น ตอนนี้แข้งพรสวรรค์ชาวแซมบ้า กำลังพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ และดูแล้วยังสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อีก
7.เปเป้ เรน่า
อีกหนึ่งนักเตะที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นคนเซ็นสัญญาคว้าตัวมาร่วมทีมจาก บียาร์เรอัล เพื่อรับช่วงต่อจาก เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค ตลอดเวลา 8 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ เรน่า ลงเล่นไปกว่า 285 นัดและพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ,ลีกคัพ, คอมมูนิตี้ ชิลด์ และ ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ อย่างละสมัย
กองกลางตัวรับชาวอาร์เจนติน่า ไม่ได้ย้ายมาด้วยค่าตัวถูกๆ เพราะต้องโดน เอเย่นต์อย่าง เคีย ชูรับเชี่ยน โขกเลือดขูดเลือดไปถึง 17 ล้านปอนด์ แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า แข้งฟันจอบรายนี้เล่นได้อย่างคุ้มค่าตัวทุกเพนนีที่หงส์แดงยอมจ่ายไป ก่อนจะโบกมือลาไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า
5.ซาบี้ อลอนโซ่
ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่ 10.7 ล้านปอนด์ จาก เรอัล โซเซียดัด ถือเป็นปฐมบทแห่งยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ โดยแท้จริง ตลอดเวลา 5 ปีที่แข้งชาวสเปนคุมแดนกลางให้ทีม สามารถสร้างความประทับใจให้แฟนๆได้ตลอด ทั้งช็อตยิงไกลเกินครึ่งสนาม หรือ การมีส่วนร่วมกับค่ำคืนมหัศจรรย์ ที่อิสตันบูล ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ทุกวันนี้แฟนๆยังคิดถึงคุณชายอยู่เลย
4.ดีทมาร์ ฮามันน์
ย้ายมาจากนิวคาลเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ในปี 1999 ถือว่าไม่ใช่ถูกๆ แต่ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน ผู้เคยพังประตูสุดท้ายในสนามเวมลี่ย์เก่า ให้กับทีมอินทรีเหล็ก ก็ตอบแทนสโมสรได้คุ้ม และนี่คืออีกคนที่มีส่วนร่วมเต็มๆในค่ำคืนยากจะลืมที่อิสตันบูล
ตอนแรกที่ ลิเวอร์พูล ยอมจ่ายเงิน 2.6 ล้านปอนด์ดึง ตัวมาจาก วิลเล่ม ทเว นักข่าวในอังกฤษยังสับสนในการออกเสียงชื่อของกองหลังรายนี้ เวลาผ่านไปของดีย่อมกลายพิสูจน์ ตัวเองได้เองจนได้ยึดตำแหน่งกัปตันทีม ก่อนที่ เจ้าของฉายาภูผาน้ำแข็งแห่ง ฟินแลนด์ ก็พาทีมกวาดมันถูกถ้วย ยกเว้นเพียงแค่ พรีเมียร์ลีกเท่านั้น
2.แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์
ย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวในวัย 35 ปีทุกคนต่างปรามาส ว่ากองกลางจากสก็อตต์แลนด์รายนี้ ไม่เหลือสภาพแล้ว แต่ที่ไหนได้ กลับพาทีมของ เชราร์ อุลลิเยร์ คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้ในปี 2000-2001 และมีส่วนสำคัญในการประคับประคอง สตีเฟ่น เจอรราร์ด ที่เป็นดาวรุ่งในตอนนั้น จนจรัสแสงได้อีกด้วย
แน่นอนว่าอันดับที่ 1 จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่การย้ายออกไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ยังทำให้แฟนๆเสียดายถึงทุกวันนี้แม้ว่าจะได้เงินมากมายขนาดไหนก็ตาม โดยกองหน้าชาวอุรุกวัย ย้ายมาในยุคของ เคนนี่ ดัลกลิช เพื่อเป็นตัวแทนของ เฟอร์นันโด ตอร์เรส แว้บแรกแฟนๆคงไม่กล้าคาดหวังมาก แต่ที่ไหนได้ ดาวยิงฟันจอบยิงกระจายจนเกือบพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในรอบ 28 ปี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ซัวเรซ มีผลกับหงส์แดงขนาดไหน ดูง่ายๆ หลังจากย้ายไป กองหน้าของทีมแต่ละคนทำผลงานได้เป็นอย่างไร
เล่นซะฮากระจาย!! สำหรับแฟนหงส์ท่านหนึ่งที่จัดการประกาศขาย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวจี๊ดของ ลิเวอร์พูล ลงใน eBay เว็ปไซต์ ซื้อขาย-ขายสินค้า ออนไลน์ ด้วยราคาตามข่าว 50 ล้านปอนด์
แฟนหงส์ตัวดีรายนี้ ยังใส่รายละเอียดของสินค้าไปด้วยว่าถ้าหากซื้อไปแล้วไม่รับคืน และนี่คือดาวรุ่งที่มีค่าตัวแพงสุดในยุโรป แถมยังกดสกอร์ได้ 7 ประตู แอสซิสต์ให้เพื่อนไป 8 ครั้ง จากระยะเวลาในการลงสนาม 3,045 นาที บวกกับความภูมิใจนำเสนอด้วยอัตราการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 48.2% อีกทั้งยังมีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมต่อเกม และแก๊สหัวเราะที่เคยสูบเข้าไปจนนับครั้งไม่ถ้วนจะช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมใหม่ได้ไม่ยาก
