ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตาดูฟอร์มในช่วงต้นซีซั่นมากที่สุดในเวลานี้เลยทีเดียว! สำหรับ ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวใหม่ป้ายแดงของ ลิเวอร์พูล หลังจาก “หงส์แดง“ ทุ่มงบจำนวน 30-34 ล้านปอนด์ ในการดึงตัวมาร่วมทัพจากสโมสร เซาแธมป์ตัน โดยวันนี้เรามาดูกันว่า 8 สถิติอะไรบ้างที่น่าสนใจสำหรับแข้งเลือด เซเนกัล วัย 24 ปี รายนี้

8 สุดยอดสถิติของ ซาดิโอ มาเน่ ปีกคนใหม่ค่าตัวแพงของ ลิเวอร์พูล

1.) ซาดิโอ มาเน่ จะกลายเป็นนักเตะทีมชาติ เซเนกัล คนที่ 3 ที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล

– ก่อนหน้านี้ ซาลิฟ ดิเยา และเอล ฮัดจิ ดิยุฟ ถูกเชราร์ อุลลิเยร์ คว้าตัวมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2002 และต่างเคยเล่นให้ทีมชาติแอฟริกา

2.) มาเน่ เป็นเจ้าของสถิติแฮตทริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

– กองหน้ารายนี้ทำไป 3 ประตู จากเวลาเพียง 176 วินาทีในเกมกับ แอสตัน วิลลา ในฤดูกาล 2014-15

ความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้ทำลายสถิติ 4 นาที 33 วินาที ของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานทีม หงส์แดง

3.) มาเน่เคยมาเล่นฟุตบอลในประเทศอังกฤษ ก่อนย้ายมาเซาแธมป์ตันในปี 2014

นักเตะวัย 24 ปีได้ลงสนามให้ทีมชาติของเขาในโอลิมปิก เกมส์ 2012 ในลอนดอน และลงเล่นเกมเสมอทีมสหราชอาณาจักร 1-1 ในโอลด์แทร็ฟฟอร์ดในรอบแบ่งกลุ่ม

เซเนกัลผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ในซัมเมอร์นั้น แต่พ่ายต่อเม็กซิโก

4.) แข้งรายนี้เคยผ่านประสบการณ์อื่นๆ ในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ ด้วยการลงเล่นในแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ ในปี 2015

เซเนกัลไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ใน เอควาทอเรียล กินี แม้ว่าจะเก็บได้ 4 แต้มจาก 3 เกม

มาเน่หวังว่า จะมีส่วนในรายการแอฟคอนที่จะจัดขึ้นในปี 2017

หากกองหน้ารายนี้ช่วยทีมชาติของเขาลงเล่นรอบคัดเลือกรายการนี้ ที่จะจัดในปีหน้าที่ประเทศกาบองในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์

5.) นักเตะทีมชาติเซเนกัลเริ่มต้นอาชีพกับ เม็ตซ์ ใน ฝรั่งเศส

ทีมจาก ลีก เอิง เป็นจุดเริ่มต้นอาชีพของ ริโกแบร์ ซง อดีตกองหลังหงส์แดงเช่นเดียวกับสตาร์ในพรีเมียร์ลีกอย่าง หลุยส์ ซาฮา, ปาปิส ซิสเซ่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และโรแบร์ ปิแรส

6.) มาเน่ เป็นดาวซัลโวของ เซาแธมป์ตัน ในฤดูกาลที่สอง และเป็นฤดูกาลสุดท้ายกับสโมสร

เขาทำไป 15 ประตูใน 43 เกม ที่ลงเล่นให้ทีมจากชายฝั่งทะเลตอนใต้ของอังกฤษ ที่จบอันดับ 6 ในพรีเมียร์ลีก

7.) แฟนบอล ลิเวอร์พูล จะไม่รู้สึกแปลกหน้ากับนักเตะที่ทำไปแล้ว 4 ประตู ในการเจอกับสโมสรใหม่ของเขาก่อนหน้านี้

ปีกรายนี้น่าจะทำเพิ่มอีกหนึ่งลูกกับ หงส์แดง หากไม่ถูกเซฟจุดโทษในเกมสุดท้ายที่เจอกับทีมนักบุญ

8.) มาเน่ มีวันคล้ายวันเกิดเดียวกับตำนานผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล

เอียน คัลลาแฮน เจ้าของสถิติลงเล่นมากที่สุดตลอดกาลของสโมสรเกิดวันที่ 10 เมษายนเช่นเดียวกับเขา ห่างกัน 50 ปีพอดีกับนักเตะใหม่ที่เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีม หงส์แดง

ที่มา : thailand.liverpoolfc

เปเล่ ตำนานลูกหนังชาวบราซิล ยังคงไว้เนื้อเชื่อใจได้เสมอในเรื่องของการทำนายทายทัก เมื่อก่อนหน้านี้ได้ออกมาทายว่าศึกยูโร 2016 ครั้งนี้แฟนบอลจะได้เห็น อังกฤษ เข้าชิงกับ สเปนแต่สองทีมที่ไข่มุกดำทำการทายมีอันต้องกลับบ้านพร้อมกันในวันเดียว โดยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายสเปนแชมป์เก่า พ่ายให้กับ อิตาลี รองแชมป์ครั้งที่ผ่านมา ส่วนอังกฤษ พ่ายพลิกล็อคให้กับ ไอซ์แลนด์ ทั้งๆที่ออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจุดโทษของ เวนย์ รูนี่ย์
โดยตำนานที่ชอบออกมาทายอะไรแล้ว ทีมที่โดนทายมีอันเป็นไปแทบจะทั้งนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า “อังกฤษมีนักเตะใหม่พอสมควรแต่เขาน่าจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ มันไม่ง่ายที่จะบอกว่าใครจะเป็นแชมป์ แต่ถ้าให้ผมนึกถึงทีมที่จะได้เข้าชิงก็คงจะเป็น อังกฤษ กับ สเปน” ลุงเล่ให้สัมภาษณ์ก่อนยูโรเปิดฉาก

ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสที่หลายคนกำลังจับตามองกันอย่างไม่คราดสายตาเลยทีเดียว! สำหรับกรณี “เบร็กซิท” การลงประชามติของชาวอังกฤษที่ต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบบางส่วนกับ พรีเมียร์ลีก รายการฟุตบอลที่ถือว่ามีมูลค่าทางการตลาดมากสุดในโลกในเวลานี้เลยทีเดียว

โดย onefootball จัดการวิเคราะห์มูลค่าของ 5 สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ว่าถ้าหากทั้งหมดนี้โดนกรณี “เบร็กซิท” เข้าไปเพียงวันเดียวจะมีผลกระทบต่อมูลค่าทางการตลาดของสโมสรเป็นเม็ดเงินจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งทีมที่โดนผลกระทบมากที่สุดก็คือ “สิงห์บลู” โดยราคาจะลดลงไปถึง 21,037,500 ล้านยูโร

นอกจากนั้น ผลพวงจากกรณี “เบร็กซิท” ทำให้หลายๆทีมบนเกาะอังกฤษจะต้องวางแผนอย่างหนักเพื่อปรับตัวกับการซื้อขายนักเตะที่จะเปลี่ยนระบบเป็นอีกแบบต่อไป รวมถึงความวุ่นวายของการเปลี่ยนแปลงค่าเงินของ อังกฤษ ซึ่งก็อาจจะมีอัตราลดลง ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจของบรรดานักเตะที่จะเข้ามาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ในอนาคต

มูลค่าการตลาด 5 สโมสรชั้นนำของ พรีเมียร์ลีก หลังโดนกรณี เบร็กซิท

เชลซี จากมูลค่า 449,162,500 ลย. (-21,037,500 ลย.) = เหลือ 478,152,000 ลย.
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากมูลค่า 479,339,550 ลย. (-20,202,050 ลย.) = เหลือ 459,137,500 ลย.
อาร์เซนอล จากมูลค่า 438,232,050 ลย. (-18,469,550 ลย.) = เหลือ 419,762,500 ลย.
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากมูลค่า 412,784,550 ลย. (-17,397,050 ลย.) = เหลือ 395,387,500 ลย.
ลิเวอร์พูล จากมูลค่า 356,708,700 ลย. (-15,033,700 ลย.) = เหลือ 341,675,000 ลย.