หากไม่นับการสะดุดแพ้ เบิร์นลี่ย์ ในปีนี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถือว่าออกสตาร์ทได้อย่างผงาด หลังจากที่ล่าสุดบุกไปเอาชนะ เชลซีได้ อย่างสุดมันส์ และสัปดาห์ก่อนก็เพิ่งถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ไม่น่าแปลกใจที่ปีนี้แฟนบอลจะเห็นแฟนบอลคาดหวังที่จะเห็นทีมกลับมาลุ้นคว้าแชมป์ลีกที่รอคอยมายาวนานอีกครั้ง ซึ่งสื่อในอังกฤษได้ ยกเหตุผลทั้ง 7 ขึ้นมาประกอบเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์อีกครั้ง

1 การกระตุ้นของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ภาพที่แฟนบอลเห็นอย่างชินตา คือการแอคชั่นข้างสนามของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่มักจะออกมากระตุ้นลูกทีมที่ข้างสนามตลอด ซึ่งมันสามารถสร้างแรงฮึกเหิมให้แก่ลูกทีมของเขาได้เป็นอย่างดี โมเดลนี้เคยประสบความสำเร็จมาแล้วตอนที่เขาคุมดอร์ทมุนด์

2 ไม่ได้เล่นบอลยุโรป
บางทีในข้อเสียมันอาจจะมีข้อดีอยู่บ้าง เพราะการที่ลิเวอร์พูล พลาดโควตาไปเล่นฟุตบอลยุโรป จะทำให้พวกเขาไม่ต้องเดินทางไกล และได้พักระหว่างสัปดาห์แบบเต็มๆ เพราะฉะนั้นเรื่องความสดจะไม่มีปัญหา อย่างเช่นฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาเข้าชิง ยูโรป้า นาธาเนียล ไคลน์ ลงเล่นไปถึง 53 เกม ซึ่งมากกว่าจำนวนแมตช์ในพรีเมียร์ลีกร่วมๆ 20 เกมทีเดียว

3 เกมเพรสซิ่งสูง
รูปแบบการเล่นที่เป็นจุดเด่นของลิเวอร์พูล ในปีนี้คือการบีบพื้นที่กดดันสูง แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความฟิตที่ยอดเยี่ยม และมันจะส่งผลดีต่อเกมลีกที่ต้องต่อสู้ในระยะยาว

4 นักเตะที่ซื้อมาใหม่
ซาดิโอ มาเน่ คือนักเตะใหม่ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ออกสตาร์ทรวมไปถึง จอร์จิโอ้ ไวจ์นัลดุม ที่สามารถยึดตัวหลักและเป็นกำลังสำคัญของทีมได้อย่างทันที และสามารถช่วยยกระดับทีมได้ดี

5 พวกเขามี 6 แต้มจากเกมเยือน อาร์เซน่อล และ เชลซี
แน่นอนว่าอาร์เซน่อล และ เชลซี คือทีมแกร่ง และพวกเขาเล่นในบ้านได้ดี แต่ถึงตอนนี้แค่ 5 เกมแรกลิเวอร์พูล ได้ 6 คะแนนเต็มออกมาจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และ สแตมฟอร์ดบริดจ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนี่คือ หกคะแนนที่ล้ำค่ามากๆ

6 แต้มเฉลี่ยเกมละ 2
5 เกมแรก ลูกทีมของ คล็อปป์ คว้าไปแล้ว 10 คะแนนซึ่งหากเดินหน้าเก็บแต้มประมาณนี้ไปได้เรื่อยๆ จนถึงเดือนพฤษภาคม พวกเขาน่าจะมีลุ้นแชมป์ เพราะในปีนี้หลายๆทีมมีการแข่งขันสูง และแชมป์น่าจะมีคะแนนราวๆ 75 คะแนนเท่านั้น

7 แฟนบอลของพวกเขา

ในฤดูกาลนี้สนามแอนฟิลด์ถูกต่อเติมจำนวนที่นั่งเข้าไปเพิ่มทำให้รองรับแฟนบอลได้เยอะมากขึ้นอีก ยิ่งทำให้เสียงเชียร์ดังสนั่นมากขึ้นอีก เป็นการกดดันคู่แข่งได้ดีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดศึกกับเอเยนต์ของ ยาย่า ตูเร่ โดยให้ออกมาขอโทษ ด้าน เอเยนต์ออกมาสวนกลับทันควัน

ดูท่าทางน่าจะจบแบบไม่สวนแล้วเมื่อ กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมากล่าวไปถึง ดิมิทรี เซลุค เอเยนต์ของ ยาย่า ตูเร่ ให้ออกมาขอโทษตนและสโมสรผ่านสื่อ หลังจากนั้น นักเตะจึงจะได้กลับมาลงเล่นอีกครั้ง “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดชื่อ ยาย่า ออกจากทีมชุดแชมเปี้ยนส์ลีกผมรู้ว่าเขาเป็นคนดี แต่เอเยนต์ของเขาต้องไปขอโทษสโมสรและผมผ่านสื่อถึงสิ่งที่เขาพูดออกไปและ ยาย่า จะได้กลับมาลงเล่นอีกครั้ง”
ส่วนทางด้าน ดิมิทรี เซลุค เอเยนต์ของ ยาย่า ตูเร่  ออกมาสวนทันควันว่า “กวาร์ดิโอล่าเพิ่งมา เขาคิดว่าเขาเป็นพระราชาซะแล้ว”
“ผมอยู่ในยุโรป ผมพูดอะไรก็ได้เขาหยุดผมไม่ได้หรอก ผมจะขอโทษก็ต่อเมื่อ เป๊ป ออกมาขอโทษในสิ่งที่เขาทำกับ มานูเอล เปเยกรินี่” ตัวแทนยาย่าออกมากล่าวอย่างท้าทาย

โคล้ด มาเกเลเล่ อดีตสุดยอดกองกลางตัวรับของ เชลซี และทีมชาติฝรั่งเศส ออกมายกย่องให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดาวเตะรุ่นน้องทั้งในเชลซี และในทีมชาติฝรั่งเศส เป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุด

โดย มาเกเลเล่ ที่เคยถูกยกย่องให้เป็นห้องเครื่องที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งสมัยที่ยังเล่นให้กับ เรอัล มาดริด และ เชลซี เพราะเป็นคนที่ปิดทองหลังพระอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทั้งสองทีม ออกมากล่าวชื่นชมรุ่นน้องอย่าง ก็องเต้ ที่เพิ่งพา เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และย้ายมาอยู่กับ เชลซี ว่าเป็นมิดฟิลด์ เชิงรับที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก “ตำแหน่งกลางตัวรับมันยากนะที่จะเล่น” มาเกเลเล่กล่าว
“ คุณต้องมีความเป็นผู้นำ และทำงานร่วมกับเพื่อนในทีม ผมชอบก็องเต้นะ เขาดีกว่าผมไหม ? อันนี้ยังไม่รู้แต่ว่าต้องการเวลาที่จะเรียนรู้การทำหน้าที่ต่อไป”
“เขายังอายุน้อย ผมชอบเขาเอามากๆเลย และหวังว่าเขาจะทำได้ดีกว่าที่ผมเคยทำ”