จัดเรตติ้งนักเตะ ลิเวอร์พูล เกมเชือด ทอฟฟี่

ลิเวอร์พูล สามารถผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพ ได้แบบหืดจับ หลัง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังใหม่แกะกล่องประเดิมหรูด้วยการโขกประตูชัยพาทีมหงส์แดงเปิดแอนฟิลด์เฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 มาดูกันว่าแข้ง ลิเวอร์พูล จะได้กี่คะแนนบ้างในเกมนี้…

ลอริส คาริอุส 6
ไม่มีจังหวะต้องออกแรงเซฟมากมาย แต่เมื่อถึงจังหวะเสียประตู นายด่านหน้าหล่อทำได้แค่ยืนมองบอลเข้าประตู เพราะยืนผิดตำแหน่งเสียอย่างนั้น แถมยังมีจังหวะเหวอๆ อีกเล็กน้อย

โจ โกเมซ 6
ไม่ถูกเจาะทางฝั่งนี้ในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเจอบททดสอบพอสมควร แถมเกมนี้ โกเมซ พยายามเล่นยากหลายจังหวะจนเกือบโดนฉกมาโดนสอยคาบ้านแล้วไหมล่ะ

โจเอล มาติป 6
ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะยืนตำแหน่งเกมรับหรือจังหวะต่อบอลให้เพื่อนที่ยังมีขาดๆ เกินๆ ในหลายจังหวะ

เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค 9
คุ้ม 75 ล้านปอนด์แล้ว? ยัง! แต่เป็นนิมิตรหมายอันดี เพราะกองหลังดัตช์แมนแสดงให้เห็นถึงความเร็วและความแข็งแกร่งในเกมรับตลอด 90 นาทีแรกในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล และยังสวมบทฮีโร่โหม่งประตูชัยประเดิมสนามอีกด้วย

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 8
เจอบททดสอบตลอดทั้งเกม แต่แบ็ควิสกี้ก็สามารถพึงพาได้ดีพอสมควร แม้จะมีจังหวะหลุดไปบ้าง แต่ โรเบิร์ตสัน ถือว่าทำมันได้ยอดเยี่ยมทั้งจังหวะรับและเติมเกมรุก

เจมส์ มิลเนอร์ 7
ผึ้งงานในแดนกลาง คอยไล่กดดันผู้เล่น เอฟเวอร์ตัน และรับหน้าที่สังหารจุดโทษเป็นประตูขึ้นนำ 1-0

อดัม ลัลลาน่า 6
เป็นเกมที่น่าผิดหวังของพ่อราดหน้า ทำเสียในหลายจังหวะ แถมยังตัดเกมไม่ค่อยได้ แต่ยังดีที่สามารถเรียกจุดโทษได้ในครึ่งแรก ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน 7
สารพัดตำแหน่งจริงๆ สำหรับกองกลางรายนี้ เกมนี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงความขยันทั้งเกมรับและรุก แต่ด้วยเกมเพรสซิ่งเร็วของ เอฟเวอร์ตัน ทำให้ อ๊อกซ์เลด ทำอะไรได้ไม่ถนัดสักเท่าไหร่ ก่อนจะเป็นคนเปิดมุมให้ ฟาน ไดจ์ค เขกเน้นๆ เป็นประตูชัย

ซาดิโอ มาเน่ 6
พยายามโชว์ลูกขยัน แต่ไม่สามารถสร้างความหวือหวาเหมือนเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้วได้

โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ 6
ทำอะไรได้ไม่ถนัด เพราะเกมเพรสซิ่งของ เอฟเวอร์ตัน บ๊อบบี้ พยายามลงมาล้วงบอล เพื่อต่อบอลกับเพื่อนๆ และลงมาช่วยในเกมรับ ทำให้จังหวะยิงเหน่งๆ แทบจะไม่เห็นเลยในเกมนี้

ตัวสำรอง

จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (แทน ลัลลาน่า ’70) 6
ลงมาเก็บบอลในแดนกลาง ซึ่งถือว่าทำได้ดีพอตัว

โดมินิค โซลันกี้ (แทน มิลเนอร์ ’77) 6
ลงมาเพื่อหวังเปลี่ยนเกม ซึ่งสามารถค้ำกองหลัง เอฟเวอร์ตัน ได้ดี

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (แทน โกเมซ ’77) 6
ลงมาหยุดความจี๊ดของ ลุคแมน แทน โกเมซ ที่หลุดในเกมนี้ ถือว่าทำได้ดีพอตัว

5 เรื่องควรรู้หลังเกม หงส์แดง เชือด ทอฟฟี่

หลังจากที่จบการแข่งขันศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ3 ไปสดๆร้อนๆ สำหรับการดวลกันระหว่าง ลิเวอร์พูล มีคิวเปิดสนาม แอนฟิลด์ ปะทะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะจบเกมลงไปด้วยชัยชนะของ “หงส์แดง” ที่มาได้ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังตัวใหม่แกะกล่องโขกพังประตูชัยในช่วงท้ายเกมพาทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 โดยวันนี้เรามาดูกันว่า 5 ประเด็นร้อนหลังเกมที่ควรถูกพูดถึงในศึก เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เวอร์ชั่น FA Cup หนนี้ มีอะไรกันบ้าง..

5 เรื่องควรรู้หลังเกม หงส์แดง พลิกคว่ำ ทอฟฟี่ ลิ่วรอบ4 เอฟเอ คัพ

1.) กลางอากาศ ฟาน ไดจ์ค กวาดยับ!
– หนึ่งในจุดบอดของ “หงส์แดง” ที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน ดูจะได้รับการแก้ไขที่ตรงจุดในยุคการคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ หลังจากที่ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถเก็บกินลูกกลางอากาศจากผู้เล่น เอฟเวอร์ตัน ได้แทบจะทั้งหมด แถมการลงประเดิมนัดแรกกับทีมดูแล้วสามารถเพิ่งพาอาศัยได้มากกว่า โจเอล มาติป ที่ยังคงออกอาการเหว๋อให้เห็นอยู่หลายจังหวะในเกมนี้

2.) เกมรุกขาดสีสัน
– หลังจากที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ปัจจุบันเกมรุกของ “หงส์แดง” ดูจะฝืดและลดความอันตรายลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเกมนี้ เจอร์เกน คล็อปป์ จะพยายามปรับใช้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่มีความเร็วขึ้นไปเติมเต็มตำแหน่ง ริมเส้นฝั่งขวา แต่จังหวะจบสกอร์และความเฉียบขาดยังดูเป็นรอง ซาลาห์ อยู่หลายขุม อีกทั้ง ซาดิโอ มาเน่ ยังคงห่างไกลจากความมั่นใจเดิมๆที่เคยทำได้เหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา

3.) กลางสนาม ไร้มิติ..
– ดูเหมือนว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาของ เจมส์ มิลเนอร์ ตลอดชีวิตการค้าแข้งจะไม่ดีพอสำหรับการยืนปักหลักในตำแหน่ง มิดฟิลด์ เนื่องจากประสิทธิภาพตรงกลางสนามของ “หงส์แดง” ในเกมวันนี้(รวมไปถึงนัดผ่านๆมาที่เจ้าตัวได้ลงสนาม) ความเฉียบขาดในเรื่องของการจ่ายบอล รวมไปถึงการจบสกอร์จากนอกกรอบเขตโทษ ดูจะเป็นรองผู้เล่นคนอื่นๆในทีมอย่างเห็นได้ชัด(ยกเว้น เฮนเดอร์สัน) ซึ่งประโยชน์เดียวที่ ลิเวอร์พูล จะได้รับจาก มิลเนอร์ ในเวลานี้ ก็คือการลงมาช่วยเพื่อนไล่บอลจากคู่แข่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

4.) โรเบิร์ตสัน ดีวันดีคืน
– เชื่อว่าสาวก “เดอะค็อป” หลายคนแทบจะไม่มีใครนึกถึงชื่อของ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ในเวลานี้ หลังจากที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กำลังทำผลงานได้อย่างดีวันดีคืน และเริ่มจะเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเติมเกมรุก หรือระเบียบวินัยเกมรับที่มักจะไม่ปล่อยให้แฟนบอลของตัวเองต้องเสียวสันหลังอยู่เป็นประจำเหมือนตอนที่มี โมเรโน่ ยืนประจำการอยู่ทางฝั่งซ้าย

5.) มือโกล ตรงเป็นตุง!!
– จากผลงานนัดนี้ของ ลอริส คาริอุส แม้ว่าประตูที่เสียไปจะมาจากจังหวะจบสกอร์ที่ค่อนข้างเฉียบขาดของ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน (เอฟเวอร์ตัน ยิงเข้ากรอบหนเดียวตลอดทั้งเกม) แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อว่าถ้าหากเป็น มือกาว คนอื่นที่พอจะมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้าง น่าจะทำได้ดีกว่าการยืนขาตาย และปล่อยให้บอลเข้าไปมุดก้นตาข่ายโดยใช้เพียง หางตา ป้องกัน อีกทั้งการออกมารับบอลกลางอากาศยังทำผิดพลาดจนเกือบพาทีมเสียประตูอย่างง่ายดายอีกด้วย

Sky ชี้ ชาน เมินซบ ยูเว่ เตรียมต่อสัญญาใหม่ หงส์แดง

Featured

Sky Germany ตีข่าว เอ็มเร่ ชาน มิดฟิลด์จอมสับขาของ ลิเวอร์พูล จะไม่ย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ ไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในตลาดซื้อขายเดือน มกราคม นี้ แถมตัวนักเตะยังคงมีแผนที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ “หงส์แดง” ออกไปอีกด้วย

โดยรายงานเปิดเผยว่า เจอร์เกน คล็อปป์ ยังคงตั้งตารอคอยที่จะเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ กองกลาง ดีกรีทีมชาติ เยอรมัน วัย 23 ปี หลังจบฤดูกาลนี้ แม้ว่าปัจจุบัน ชาน จะสามารถเจรจากับทุกสโมสรได้อย่างอิสระแต่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Sky Sports(เยอรมัน) มั่นใจว่าสุดท้ายแล้ว อดีตกองกลาง เลเวอร์คูเซ่น รายนี้ จะยังคงอยู่ค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ต่อไป ด้วยการต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล มากกว่าจะเดินทางไปเสี่ยงโชคในศึก กัลโช่ เซเรีย อา กับกองทัพ “ม้าลาย” ยูเวนตุส

ทั้งนี้ เอ็มเร่ ชาน ย้ายจากสโมสร เลเวอร์คูเซ่น มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ในยุคการคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เมื่อปี 2014 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 10 ล้านปอนด์ พร้อมกับลงสนามรับใช้ “หงส์แดง” ไปแล้วทั้งหมด 154 นัด เจาะตาข่ายได้ 16 ประตู พร้อมกับ แอสซิสต์ ให้เพื่อนจบสกอร์ได้อีก 10 ครั้งด้วยกัน