ถ้าพูดถึงสาวสวยที่ติด 20 คน ของ Gossip Girl ในปี 2009 คงหนีไม่พ้นสาวสวยที่มีร้อย
ยิ้มหวานๆ อย่าง “ซูกัส – อรวีณ์ เหลืองวิบูลย์พร” หนึ่งในสมาชิกวง G-twenty ที่ตอนนี้ เพื่อนๆ
อยากรู้กันมั้ยว่า ตอนเรียนสาวคนนี้จะมีวีรกรรมแสบๆ ขนาดไหน?? ถ้าอยากรู้ต้องติดตาม…



ชื่อ – นามสกุล : อรวีณ์ เหลืองวิบูลย์พร
ชื่อเล่น : ซูกัส
วัน เดือน ปีเกิด : 27 กันยายน พ.ศ. 2535
การศึกษา : จบมัธยมศึกษาโรงเรียนสีตบุตรบำรุง ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานที่ล่าสุด : G-Twenty

ตอนเรียนมีกิจกรรมอะไรที่ประทับใจบ้าง ?
ซูกัสจะประทับใจงานกีฬาสีมากค่ะ เพราะตอนเรียนได้เป็นดรัมเมเยอร์ แล้วก็เป็นเชียร์
ลีดเดอร์ค่ะ โดนจับให้เป็น 3 ปีซ้อนค่ะ (ยิ้ม) ตั้งแต่ ม.4 เลย คือตอนนั้นต้องบอกก่อนเลยว่าเรา
ทํากิจกรรมค่อนข้างเหนื่อย เพราะตอนเลิกเรียนทุกวันต้องไปซ้อมดรัมเมเยอร์ แล้วก็เป็นเชียร์
ลีดเดอร์ ก็จะเหนื่อยกว่าเพื่อนๆ ค่อนข้างเยอะ แต่ก็สนุกมาก เราจะชอบโดดเรียนไปเต้นหลีด
(หัวเราะ)
สิ่งของที่ติดตัวที่ขาดไม่ได้ตอนเรียน ?
เราก็เป็นผู้หญิงอ่ะเนอะ แล้วเราก็เชื่อว่าสมัยนั้น…น้องๆ หรือเพื่อนๆ หลายๆ คนก็น่าจะพก
กระจกค่ะ ติดมากแบบขาดไม่ได้เลย แต่ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เรียนก็ไม่ได้เอาขึ้นมาส่องนะคะ
เพราะว่าเดี๋ยวจะโดนยึด
สมัยเรียนชอบวิชาอะไรมากที่สุด ?
สมัยเด็กเราจะชอบวิชาพละ กับ คอมพิวเตอร์ค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าเป็นวิชาที่สบายมาก
แฮปปี้มาก แต่ถ้าจะให้พูดถึงวิชาพละ เราก็ว่าสนุกดีนะคะ ได้ออกกําลังกายแล้วก็ได้ทํากิจกรรม
ยามว่างด้วย ซึ่งเราจะชอบไปทางด้านกิจกรรมมากกว่าค่ะ เวลามีการแข่งบาสคุณครูก็จะให้เรา
อยู่จุดที่เป็นตัวหลัก ดูบึกบึน แข็งแรงดีค่ะ (หัวเราะ) เป็นผู้หญิงเล่นบาส
สมัยเรียนไม่ชอบวิชาอะไรมากที่สุด ?
แน่นอนเนอะ คณิตศาสตร์ เลยค่ะ (หัวเราะ) คือเวลาที่เรียนเราจะไม่ค่อยเข้าใจ บางทีสูตร
ก็จะเยอะไปไหน ซึ่งอาจารย์ที่สอนคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ก็มักจะขี้บ่นเนอะ (หัวเราะ) ก็เลยไม่
ค่อยชอบวิชานี้เท่าไหร่ค่ะ
เคยโดนทําโทษเข้าฝ่ายปกครองบ้างไหม ?
โห แสบเกินค่ะ (หัวเราะ) สมัยเรียนช่วงนั้นแบบเด็กๆ เราก็ซนอ่ะเนอะ ก็จะมีไม่ชอบเพื่อน
กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ บ้าง ซึ่งมีอยู่ช่วงนึง…ทางโรงเรียนมีการแข่งประธานนักเรียน แล้วคนที่เราไม่
ชอบก็ลงเข้าแข่งเป็นประธานนักเรียนด้วย พอเราเห็นป้ายของเค้าเท่านั้นแหละค่ะ เราก็ขยําทิ้ง
เลย (หัวเราะ) แต่ดันมีเพื่อนๆ ในห้องเห็นจ้า เท่านั้นแหละค่ะ โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกพบ
เลย อาจารย์ทางฝ่ายปกครองก็ให้กอดกัน ขอโทษกันค่ะ ซูกัสว่าสมัยนั้นเราก็ถือว่าค่อนข้าง
แสบอยู่น้าา
เคยแอบชอบรุ่นพี่ในโรงเรียนบ้างไหม ?
สมัยนั้นเราอยู่ ม.3 เราก็แอบปลื้มรุ่นพี่อยู่คนนึงเค้าอยู่ ม.5 ค่ะ วันวาเลนไทน์เราก็แอบเอา
ดอกไม้ไปวางไว้บนโต๊ะเรียนพี่เค้า (ยิ้ม) ตอนนั้นพี่เค้าก็ไม่รู้นะคะ ว่าเราเป็นคนเอาดอกไม้ไป
ให้ เพราะเวลาเราชอบใครเราก็ไม่ค่อยกล้าบอกคนอื่น กลัวคนอื่นล้อ แล้วก็กลัวผิดหวังด้วย ซึ่ง
ถ้าถามเรื่องความรักในสมัยเด็ก ที่บ้านจะไม่สนับสนุนเรื่องนี้เลยค่ะ
ตอนนี้มีมุมมองความรักยังไงบ้าง ?
เอาจริงๆเลยนะค่ะ สมัยก่อนเราก็ชอบคนที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อน รูปร่าง หน้าตาต้อง
โอเค เอาหน้าตาเป็นหลัก ชอบรุ่นพี่หล่อๆ สูงๆ เวลาควงเพื่อนๆจะได้อิจฉา แต่สําหรับตอนนี้
เรื่องความหล่อซูกัสว่า มันไม่น่าจะสําคัญแล้วคะ เอาเป็นว่าอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขก็พอค่ะ
รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าชื่นชอบการร้อง การเต้น ?
จริงๆ แล้วซูกัสชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กเลยค่ะ เพราะคุณแม่ชอบพาไปร้องคาราโอเกะ สมัย
ก่อนจะชอบพี่ทาทายังมาก อยากจะเป็นแบบพี่เค้า (ยิ้ม) คุณแม่ก็เลยเริ่มให้ไปหัดเรียนร้อง
เพลง แล้วก็เริ่มประกวดร้องเพลง ซึ่งแต่ก่อนเราก็รู้ว่าตัวว่าทักษะเรื่องการร้องเพลงยังไม่ค่อยดี
เท่าไหร่ จําได้ว่ามีอยู่ช่วงนึงเราท้อมาก ถึงกับล้มเลิกการร้องเพลงไปช่วงนึงเลย จนมาถึงมีการ
ประกวด Gossip Girl คุณแม่ก็อยากให้ลองอีกครั้ง แต่ตอนนั้นเราท้อมาก คิดว่าตัวเองผ่านมา
หลายเวทีแล้ว ทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย แต่ท้ายสุดเราก็ลองอีกครั้ง จนติด 20 คนของ Gossip Girl ปี
2009 ค่ะ นี่ก็คือความภาคภูมิใจของตัวเราเองด้วย
มีอะไรที่อยากทํา แล้วยังไม่ได้ทําอีก ?
เราเคยฝันนะว่าอยากเป็น “แอร์โฮสเตส” เพราะโดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนที่ชอบเดินทาง,
ชอบเที่ยว ไปไหนก็ได้ที่ที่เรายังไม่เคยไป ไม่ชอบอยู่ติดบ้าน วันไหนที่เราต้องอยู่บ้าน เราก็จะ
รู้สึกเบื่อๆ แต่ก่อนหน้านั้นเราก็เคยคิดนะคะ ว่าถ้าเราไม่ได้ทําอาชีพในฝันของเรา เราก็คงทํา
ธุรกิจต่อจากที่บ้าน เพราะที่บ้านทําธุรกิจเกี่ยวกับโรงพิมพ์ ก็เลยอยากจะสืบต่อค่ะ
อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่ท้อแท้อยู่ในตอนนี้บ้าง ?
สําหรับเพื่อนๆ คนไหนที่รู้สึกท้อแท้อยู่ หรือยังไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรก็ตาม ซู
กัสก็อยากบอกให้เพื่อนๆ มีความเชื่อว่าเราต้องทําได้และสู้ต่อไปค่ะ เพราะทุกๆ อย่างที่เรา
พลาดมา มันก็จะเป็นประสบการณ์ในอนาคต ซึ่งเราก็จะเก่งๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงวันนึงเราจะได้รับ
โอกาสนั้นเอง