เด็ฏแนวรุ่นพี่ หนุ่มนักดนตรีสุดเซอร์ แจ็คพ็อต-สิรภพ จันทร์ต๊ะ และใหม่-รพีภร สุรวรรณ

ใครยังหาความเป็นเด็กแนวสายพันธุ์ของตัวเองไม่เจอ เราจะพาไปเจอรุ่นพี่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนุ่มนักดนตรีสุดเซอร์ แจ็คพ็อต-สิรภพ จันทร์ต๊ะ และใหม่-รพีภร สุรวรรณ เชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยรุ่น 70 สาวสายเต้นตัวเล็กน่ารัก รวมถึงภาพรวมของความเป็นศิลปะแต่ละสาขา เพื่อค้นหาตัวตนในแบบที่ตัวเองชอบกันดีกว่าขอเหตุผลสั้นๆ สามคำสไตล์เด็กแนว กับสิ่งที่ตัวเองได้เลือก

_MG_4997 _MG_5024

แจ็คพ็อต : ตอนนี้อยู่ ปี 2 ภาควิชาดุริยางคศิลป์ ด้านดุริยางคศิลป์ตะวันตก เหตุผลสั้นๆ ก็คงจะเป็น “ก็ชอบเล่น”

ชอบเล่นกีต้าร์มาตั้งแต่เด็กแล้ว พอดีคุณพ่อผมเป็นนักดนตรี เขาก็เลยสอนให้เอง แล้วผมก็อยากจะเรียนด้านนี้ให้เก่งขึ้น ซึ่งคณะศิลปกรรม จุฬาฯ ก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เลยเลือกที่นี่ครับ

ใหม่ : ตอนนี้อยู่ปี 4 ภาควิชานาฏยศิลป์ ด้านนาฏยศิลป์ตะวันตก เหตุผลสั้นคล้ายๆ กัน (หัวเราะ) เป็นคน “ชอบเต้นค่ะ” จริงๆ ตอนเด็กๆ ที่บ้านใหม่ทุกคนจะให้เรียนเปียโน แต่ใหม่เรียนแล้วไม่ชอบ ตอนนั้นเลยอยากหาอะไรมาเรียนแทน พอคุณแม่ส่งไปเรียนบัลเล่ต์ ก็ชอบมาก เลยเรียนมาเรื่อยๆ แล้วก็อยากเรียนให้ลงลึกมากขึ้น เลยสอบตรงแล้วก็ติดที่นี่

วันแรกของการได้เข้ามาเรียนความถนัดของตัวเอง

เปิด

แจ็คพ็อต : เข้ามาตอนแรกก็ต่างกับที่ฝันไว้นิดหนึ่ง เพราะว่ามหาวิทยาลัยจะไม่มีคนคอยป้อนให้เรา เราต้องขยันซ้อมของเราเอง แล้วถึงเวลามาเล่นให้อาจารย์ฟังก็จะได้มาดูว่าเรามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง ซึ่งเราก็ต้องไปทำการบ้านเยอะมาก แล้ว อย่างเพื่อนๆ ด้านเปียโนหรือซิมโฟนี เขาจะมีงานตลอด ของผมสายกีต้าร์มีงานค่อนข้างน้อย ก็เลยจะต้องเน้นไปทางสายแข่งอย่างเดียวถึงจะมีชื่อ ก็จะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ

ใหม่ : ตอนเข้ามาเรียนปีหนึ่งก็ค่อนข้างต่างจากที่เคยเรียนข้างนอก อย่างครูข้างนอกจะคอยจี้ให้ทำท่าเดิมซ้ำๆ ให้ได้ ซึ่งบางทีก็แอบน่าเบื่อ แต่พอเข้ามาเรียนที่นี่ ค่อนข้างจะสอนหลากหลายมากขึ้น ทำให้เราได้รู้จักองค์ประกอบอื่นๆ ในการเต้น ก็สนุกไปอีกแบบ

พรีเซนท์เรื่องเจ๋งสุดๆ ของเด็กแนวสายเรา และความโหดที่ทุกคนต้องเจอ

_MG_5010 แจ็คพ็อต : ผมว่าในความเป็นดนตรี มันก็มีความเจ๋งของตัวเองอยู่แล้ว ทุกคนก็ชอบดนตรีกันหมด แต่ชอบดนตรีเป็นสิ่งบันเทิง แต่ของพวกผมจะเรียนมากกว่าบันเทิง คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดคิดว่า เรียนดนตรีสบาย เรียนๆ เล่นๆ แต่จริงๆ แล้วเราเรียนเสร็จแล้ว เราก็ต้องซ้อมต่อนะ ไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นหรอก ซ้อมเสร็จก็ต้องไปหาดูคอนเสิร์ตของคนที่เก่งๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจในการพัฒนาฝีมือต่อไป โหดสุดๆ ในการเรียน ก็เคยเจออาจารย์โยนเพลงมาให้เล่นภายในเวลาเดือนครึ่ง ซึ่งผมจะต้องใช้เวลาแกะเพลง 20 นาที เกือบ 20 หน้าให้ทัน ซึ่งบ้านผมก็ไกลด้วย ส่วนใหญ่พอเลิกเรียนผมก็จะต้องซ้อมอยู่ที่มอถึงสองทุ่ม แล้วถึงค่อยกลับบ้านไปทำต่อ แบบเอาเวลาที่นั่งในรถติดๆ มาซ้อมดีกว่า

ใหม่ : ความเจ๋งของภาควิชานี้ คือ ผู้หญิงสวยค่ะ (หัวเราะ) ขึ้นชื่อว่าบัลเล่ต์นะ นานๆ ทีจะมีผู้ชายโผล่มาสักคน แล้วไม่ใช่ว่าเราจะได้เรียนแค่บัลเล่ต์ มันยังมีการเต้นอื่นๆ อย่างแจ๊ส ฮิฟฮอฟ คอนเทมโพรารี หรือแม้กระทั่งรำไทย ลิเก โนห์รา ให้เราเลือกเรียนได้ด้วย ส่วนตอนที่โหดที่สุดคงเป็นช่วงปี 3 ที่เราต้องช่วยรุ่นพี่ทำธีสิส แล้วต้องออกแบบท่าเต้นกันเองทั้งหมด ใช้เวลาภายใน 14 วัน ถือว่าโหดมากๆ

กลเม็ดเคล็ดลับในการเรียนสไตล์เด็กสายพันธุ์เรา

แจ็คพ็อต : เวลาผมจะซ้อม ผมจะคิดก่อนซ้อม คือต้องมีเป้าหมายว่าจะทำอะไร เราอยากจะแก้ตรงไหน เหมือนเวลาเราวาดรูป ต้องคิดก่อนว่าจะวาดอะไร ไม่ใช่เอะอะๆ ก็ไปซ้อม มันเป็นเรื่องของข้างในหัว ต้องคิดให้ดีๆ ก่อนไปซ้อม ถึงจะเล่นออกมาได้ดี แล้วก็ต้องเลือกฟังคนที่เก่งๆ ไม่ใช่ว่าฟังใครก็ได้ เพราะถ้าเราไปฟังคนที่ไม่เก่ง เราอาจจะไปจำสิ่งที่ไม่ดีมาก็ได้

ใหม่ : คณะนี้ไม่เหมือนคณะอื่นที่ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ มันอยู่ที่ความรับผิดชอบของเรามากกว่า บางเทอมแทบไม่ต้องอ่านหนังสือเลย แต่เราต้องฝึกฝน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คือนอกจากตั้งใจเรียนในห้อง ก็ต้องหาเวลาซ้อมกับเพื่อน บางทีช่วงสอบก็นัดกับเพื่อนๆ มาซ้อม เอาคลิปการเต้นมาแชร์กัน หลายคนอาจมองว่าเต้นบัลเล่ต์ง่าย แต่จริงๆ ไม่ใช่นะ มันต้องฟังเพลง ดูวิดีโอเยอะๆ การสอบมันมีหลายเพลง มีหลายท่า ก็ต้องจำให้ได้

เอกลักษณ์ความเป็นเด็กแนวศิลปกรรมแต่ละประเภท

_MG_5094

แจ็คพ็อต : ส่วนใหญ่คนจะไม่ค่อยเห็นพวกเรา เพราะว่าพวกเราจะซ้อมกัน ก็จะหมกตัวอยู่บนภาคนี่แหละ สาขาอื่นเขาไปนั่งอ่านหนังสือติวกันที่ร้านกาแฟ แต่จะให้ผมเอากีต้าร์ไปเล่นที่สตาร์บัคส์ เขาก็คงไม่ให้เล่น (หัวเราะ) ก็มีที่ซ้อมอยู่ที่เดียว อย่างผมในวงมีกันอยู่สามคน เป็นแก๊งค์กีต้าร์ ก็แยกกันไปซ้อมของตัวเองก่อน แล้วค่อยมาประกอบรวมวงกันอีกที ถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด คำพูดติดปากของเด็กคณะนี้จะเป็น “จูนเนอร์มั้ย” คือ จูนเนอร์เป็นอุปกรณ์ตั้งสายเวลาเสียงเพี้ยน แล้วจะใช้ล้อเวลาเห็นเพื่อนๆ ทำอะไรที่เปิ่นๆ หรือล้อคนที่ร้องเพลงเพี้ยนว่า “จูน442 หรือเปล่า” คือค่าปกติจะจูน 440 ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะที่พวกเราจะรู้กันเอง ส่วนอีกสองภาคจะมีสไตล์ต่างกันมาก ภาคทัศนศิลป์ จะเซอร์ๆ ชอบใส่ชุดนอกมาเรียน คนอาจจะมองว่าแหกกฏ ไม่มีระเบียบ แต่จริงๆ คือ ถ้าเขาใส่ชุดนิสิตมาเวลาวาดรูปหรือปั้นจะเลอะ อาจารย์ก็เลยให้ใส่แบบนี้ได้ ส่วนนฤมิตศิลป์ จะต่างกันเลย คือ จะแต่งตัวสวยกันทุกคน ชุดข้างนอกก็แฟชั่น ส่วนชุดนักศึกษาเขาก็สามารถหาอะไรมาแมตซ์กันจนได้ แต่ก็ถูกระเบียบนะ

ใหม่ : บุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของเด็กบัลเล่ต์คงเป็นผู้หญิงร่าเริง เอนเตอร์เทนท์หน่อย อย่างกลุ่มที่สนิทจะมี 7-8 คน เลิกเรียนแล้วก็จะชอบไปรวมตัวกันที่เรียนพิเศษข้างนอกค่ะ คำพูดติดปากก็เป็น “หนูจ๊ะ” ติดมาจากคุณครูที่สอนตอนปีหนึ่งที่จะชอบพูดแบบ “หนูจ๊ะ ทำดีๆ สิ” ก็เลยจะชอบเอามาเรียกเพื่อนๆ กันขำๆ

คำคมวันนี้ฝากถึงรุ่นน้องที่จะเข้าต่อไป

แจ็คพ็อต-ใหม่ : อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังเล็งหาภาคที่ตัวเองอยากเรียน ไม่ว่าสาขาไหนๆ อย่างแรกเลย คือ ต้องมีใจรัก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนไปถึงสี่ปี อย่างดนตรี ก็คือต้องซ้อมไปตลอดชีวิต วันที่หยุดซ้อมคือวันที่ตาย บัลเล่ต์ก็ไม่ใช่เรียนวันสองวันแล้วจะเต้นได้เลย ต้องมีการฝึกซ้อม ต้องมีเรื่องรองเท้าที่บางทีใส่แล้วเจ็บ ถ้าคุณใจไม่สู้ ไม่รักมันจริงๆ อย่าเข้ามาเรียนดีกว่า แล้วก็ต้องขยันซ้อมให้เก่งๆ เราต้องซ้อมเพื่อที่จะไปแข่งกับคนอื่นๆ เพราะเด็กแต่ละรุ่นก็เก่งขึ้นทุกปีๆ และที่สำคัญคือเรื่องระเบียบวินัย มีระเบียบในการฝึกซ้อม ในการวาดรูปก็ต้องฝึกเหมือนกัน เราต้องแบ่งเวลา จัดตารางซ้อมให้ได้ อย่างถ้าเป็นนักดนตรี ก็ต้องแก้เพลงใหม่ ทวนเพลงเก่า เพราะอีกสิบปีเพลงที่เคยเล่น อาจจะเล่นไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ได้ฝึกซ้อมมา ดังนั้น แค่คุณมีสองสิ่ง ใจรักกับระเบียบวินัย ก็ถือว่าคุณก้าวเข้ามาได้ครึ่งก้าวแล้ว

CHULALONGKORN UNIVERSITY

_MG_4818 _MG_4826

ADVISE

คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งผลิตศิลปินบัณฑิตที่มีความรู้ ความชำนาญ ด้านทักษะและความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้ริเริ่ม บุกเบิก แสวงหา คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และเป็นผู้ที่มีความรู้คู่คุณธรรม ศิลปินบัณฑิตจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สามารถประกอบอาชีพอิสระหรือทำงานในองค์กรเอกชน รัฐวิสาหกิจและราชการได้เป็นอย่างดี

DERIVATION

คณะศิลปกรรมศาสตร์ เปิดทำการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีเป็นคณะที่ 15 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย     ปีการศึกษา 2526 เป็นปีแรก โดยเปิดเพียง 2 ภาควิชาคือ ภาควิชาทัศนศิลป์ และดุริยางคศิลป์ ต่อมา ปีการศึกษา 2528 เปิดรับนิสิตภาควิชานฤมิตศิลป์และปีการศึกษา 2531 เปิดรับนิสิตภาควิชานาฏยศิลป์ ตามลำดับ มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อ วันที่ 2 มีนาคม 2527 คณะศิลปกรรมศาสตร์จึงถือเอาวันที่ 2 มีนาคม ของทุกๆ ปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาของคณะ

_MG_4909 _MG_4953 _MG_4983

SYLLABUS

ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต (ศป.บ.) Bachelor of Fine and Applied Arts (B.F.A.) มี 4 ภาควิชาได้แก่

  1. ดุริยางคศิลป์ (Music)
  2. ทัศนศิลป์ (Visual Arts)
  3. นาฏยศิลป์ (Dance)
  4. นฤมิตศิลป์ (Creative Arts)

 

ถึงเวลาผู้ชนะเลิศGSB GEN CAMPUS STARภาคกลางกันบ้าง

ภาคเหนือกับภาคอีสานลงปก CAMPUS STAR กันไปแล้ว มาถึงเวลาของหนุ่มสาวภาคกลางกันบ้าง กับผู้ชนะเลิศ GSB GEN CAMPUS STAR ตัวแทนภาคกลาง หนุ่มลูกครึ่งไอร์แลนด์ ผู้ชื่นชอบกีฬา FREE RUNNING สุดอินดี้ เฟอร์กี้-เฟอร์กัล วันชัย เพาเวอร์ และสาวนักเต้นหุ่นดีลูกครึ่งอิหร่าน มีนนา-มีนนา ศุภประภัสสร มาในลุคส์แฟชั่นเด็กแนวรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงกับตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้

LOD_4282

เฟอร์กี้ : รู้ข่าวการประกวดครั้งนี้จากพี่ที่ดูแลครับ แต่ว่าผมไม่เคยประกวดขึ้นเวทีไหนมาก่อน เวทีนี้เป็นเวทีแรกเลย ตอนที่คิดโชว์การแสดง ก็คิดว่าถ้าร้องเพลงอย่างเดียว มันก็จะดูน่าเบื่อ ก็เลยเอาการร้องเพลงมาผสมกับการแสดง FREE RUNNING ซึ่งผมชอบเล่นอยู่แล้ว ก็เริ่มหัดเล่นเองมา 4-5 ปีแล้ว กับเพื่อนๆ ที่มีความชอบเหมือนกัน ตอนฝึกครั้งแรกก็ต้องใช้ความกล้าเยอะ แต่ด้วยความเราชอบและอยากทำให้ได้ พอทำไปเรื่อยๆ ก็สนุกดี ตอนโชว์เพลงแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ผ่านเพลงแรกไปจนถึงโชว์ FREE RUNNING ก็มั่นใจมากขึ้น เพราะคิดว่าโชว์ของเราน่าจะต่างจากคนอื่นๆ สิ่งที่ทำให้ผมได้รางวัลชนะเลิศคิดว่าคงเป็นโชว์บนเวที บวกกับบุคลิกด้วยครับ เพราะอย่างตอนแนะนำตัว ผมก็จะยืนยิ้มยืดตัวตรงตลอดเวลา ต่างจากคนอื่นที่จะดูชิลๆ ซึ่งการประกวดครั้งนี้ทำให้ผมได้ประสบการณ์เยอะ ผมว่าเป็นการประกวดที่ทำให้วัยรุ่นได้แสดงสามารถ ได้มีพื้นที่ในการโชว์ของ ได้เก็บประสบการณ์บนเวที และได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ด้วย ก็อยากให้มีจัดต่อไปเรื่อยๆ ครับ

มีนนา : หนูไม่เคยขึ้นเวทีที่ไหนมาก่อนเลย เวทีนี้เป็นเวทีแรก พอได้เข้ามารอบสิบคนสุดท้าย ตอนโชว์ก็เลยคิดว่าอยากโชว์ที่มันต่างจากคนอื่นที่ส่วนใหญ่จะร้องเพลงหรือไม่ก็รำไทย ก็เลือกการเต้นลีลาศจังหวะรุมบ้า เพราะหนูเป็นนักกีฬาเยาวชนอยู่แล้ว เรียนเต้นมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ หนูรู้สึกว่ามันเป็นการเต้นที่สนุกดี จริงๆ ถนัดเพลงเร็วสไตล์ลาติน แต่ว่าด้วยความที่เวทีค่อนข้างจะเล็ก ก็เลยเลือกเพลงจังหวะช้าๆ หน่อย แต่ว่าตอนโชว์ไม่ตื่นเต้นเลย ค่อนข้างมั่นใจการเต้นของเรา ตอนให้หนูแนะนำตัววันแรกยังยากกว่า (หัวเราะ) แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัลชนะเลิศนะคะ คิดว่าคณะกรรมการคงชอบในการแสดงความสามารถพิเศษของเรา ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทาง CAMPUS STAR และธนาคารออมสินค่ะLOD_4442

การเรียนของเด็กแนวหนุ่มสาวรุ่นใหม่

เฟอร์กี้ : ตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 ด้านไอที อินเตอร์ที่ธรรมศาสตร์ครับ ตอนเด็กชอบเล่นคอมพิวเตอร์ ก็เลยอยากเรียนด้านนี้ดู ซึ่งพอได้มาเรียนก็ค่อนข้างตรงกับที่อยากเรียนนะ อย่างในส่วนของการเขียนเว็บไซด์หรือทำแอปพลิเคชั่นมือถือ ยกเว้นวิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณจะไม่ค่อยถนัดนัก สไตล์ของเด็กไอทีที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวชิลๆ ไม่เนิร์ดเลย ก็เรียนบ้าง เล่นบ้าง (หัวเราะ) แต่ถึงเวลาเรียนก็รับผิดชอบตัวเองได้

มีนนา : ตอนนี้เรียนปี 2 ด้านการท่องเที่ยว ที่ม.รังสิต ที่เลือกเพราะคิดว่าสาขาด้านนี้กำลังบูมเลย ช่วงนี้กำลังมีการเปิดอาเซียนด้วย เข้ามาเรียนก็สนุกดี ได้มีโอกาสไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ อย่างล่าสุดก็ไปกาญจนบุรี กับพิษณุโลก เก็บเส้นทางประวัติศาสตร์ของจังหวัด เป็นอะไรที่ประทับใจดี สไตล์เด็กในคณะนี้ก็เลยจะเป็นแนวลุยๆ ห้าวๆ ทำกิจกรรมกันตลอดค่ะ

นิสัยและการแต่งตัวที่แปลกแหวกแนวเฉพาะตัว

เฟอร์กี้ : นิสัยแปลกๆ ของผมน่าจะเป็นเรื่องที่ชอบกีฬาพวกเอ็กซ์สตรีมนี่แหละ อย่าง FREE RUNNING ปีนผา เล่นเวคบอร์ค กระโดดน้ำ ทำหมด ทั้งๆ ที่กลัวความสูง (หัวเราะ) ชอบความรู้สึกหวิวๆ กลางอากาศตอนกระโดดน้ำลงมา มันตื่นเต้นดี ส่วนการแต่งตัว ผมก็แต่งสไตล์สปอร์ตทั่วไป ไม่เนี้ยบมาก แล้วก็ไม่เน้นแอคเซสเซอรี่เยอะเท่าไหร่ ยกเว้นนาฬิกาอย่างเดียว ใส่ให้มันไม่ดูโล่ง

มีนนา : มีคนชอบบอกว่าดูหนูภายนอกเหมือนเรียบร้อย แต่จริงๆ พอสนิทแล้วพูดมาก แล้วก็นิสัยเหมือนผู้ชาย แมนๆ หน่อย นิสัยแปลกๆ คือ ชอบทำอะไรให้คนอื่นตกใจ เช่น เดินกับเพื่อนๆ อยู่ในตึก หรืออยู่บนรถเมล์ หนูก็ชอบตะโกนขึ้นมาแป๊บหนึ่งให้คนหันมามองหา (หัวเราะ) ส่วนการแต่งตัว ชอบแต่งเซอร์ๆ ธรรมดา กางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบ อาจมีขาสั้นขัดใจแม่บ้าง แต่ถ้าสั้นมากๆ เขาก็มีแอบบ่น

LOD_4772

นิยามความเป็นเด็กแนวรุ่นใหม่ในความคิดของแต่ละคน

เฟอร์กี้ : ผมว่า เด็กรุ่นใหม่แต่งตัวเก่งกว่าเมื่อก่อนเยอะ แล้วก็ใช้ชีวิตค่อนข้างเร็ว ซึ่งข้อดีก็คือมันทำให้เห็นโลกกว้างมากขึ้น แต่ข้อเสียผมว่ามันอาจจะเร็วไป บางทีเราก็ตัดสินความถูกผิดเร็วไป ถ้าเทียบกับอายุที่ยังเด็กอยู่

มีนนา : เด็กแนวสมัยนี้ทำอะไรที่แปลกแหวกแนวกัน แต่ก็อยากให้ทำให้อยู่ในกรอบด้วยค่ะ เพราะบางทีชอบทำอะไรตามเพื่อน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ แต่สิ่งที่ทำมันก็เป็นสิ่งที่ผิด อย่างชวนกันโดดเรียนหรือสูบบุหรี่ เพราะฉะนั้น เราก็ควรต้องเลือกคบเพื่อนบ้าง เพื่อนแนวเกเรก็ควรจะอยู่ห่างๆ แล้วก็รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้

ถ้าให้ท้าใครสักคนมาทำเรื่องเกรียนๆ สักเรื่องในชีวิต อยากท้าใคร

เฟอร์กี้ : ท้าพี่คริส หอวัง ดีกว่า ผมเป็นแฟนคลับพี่เขาเลย อยากท้าให้มากระโดดร่มด้วยกัน เพราะผมยังไม่เคยทำ ติดที่มันสูงเกินไป  คือปกติถ้าเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ผมก็จะเล่นอะไรที่มันไม่สูงมากเกินไป อย่างเวลาปีนหน้าผา ผมก็จะปีนขึ้นอย่างเดียว ไม่มองลงมาเลย ก็อยากจะลองท้าความกลัวอันนี้ดูกับพี่คริส พี่คริสจะได้จดจำน้องได้ (หัวเราะ)

มีนนา : ท้าเพื่อนในกลุ่มนี่แหละ ท้าให้ไปยืนในที่คนเยอะๆ แล้วแกล้งทำเป็นผีเข้า อยากรู้ว่าจะกล้าหรือเปล่า แต่สรุปคือหนูไม่กล้าทำหรอก (หัวเราะ)LOD_4527

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เคยลองทำมาแล้ว

เฟอร์กี้ : เคยไปเล่น FREE RUNNING กับเพื่อนๆ ที่ตึกร้าง ซึ่งค่อนข้างสูงและเสี่ยง อย่างมีครั้งหนึ่ง ไปกัน 5-6 คน แล้วมันก็จะมีช่องว่างระหว่างตึกสองตึก ก็มีพี่คนหนึ่งที่เขาไม่กลัวความสูงเลย เขาไปยืนอยู่ที่ปลายตึกด้านหนึ่งแล้วทำท่าจะกระโดดไปอีกฝั่งซึ่งมันเป็นช่องที่เสี่ยง กระโดดไปได้ แต่กระโดดกลับยาก เราก็ตื่นเต้นรีบบอกพี่ลงมาเถอะ (หัวเราะ) ก็เป็นความตื่นเต้นไปอีกแบบหนึ่ง

มีนนา : ชอบไปกับเพื่อนๆ ที่มอ ไปท้าบ้านผีเฮี้ยนแถวนั้น มันสนุกดี อย่างแถวมอจะมีอยู่สองที่ เป็นบ้านร้างบันไดแดง ที่บันไดมันจะเป็นสีแดงเหมือนเลือด กับบ้านร้าง 9 หลังติดกัน ที่โดนไฟไหม้ แล้วลือกันว่ามีผู้หญิงโดนข่มขืนในนั้นแล้วฆ่าตัวตาย ก็กลัวนะ แต่จะไปกันช่วงเย็นๆ หน่อย ไม่ดึกมาก ไปแล้วก็เงียบๆ หลอนๆ หน่อย มีแต่เพื่อนที่บอกว่าได้ยินเสียงประตูปิดดังเอี๊ยดอ๊าด ทั้งๆ ที่ข้างในไม่มีประตู แต่ว่าหนูไม่เจออะไรนะ

LOD_4740

นิสัยหวานใจเด็กแนวถูกใจใช่เลย!

เฟอร์กี้ : ผมชอบสาวที่มีนิสัยแนวๆ หน่อย แบบชอบเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมแบบเรา ชอบทำกิจกรรม แต่ว่าทุกวันนี้ยังไม่เจอเลย (หัวเราะ) แต่โดยรวมๆ คนที่น่าจะเข้ากับเราได้น่าจะเป็นคนที่ลุยๆ ชอบทำกิจกรรมหน่อย เพราะถ้าเขาเป็นคนติสท์ๆ มีโลกส่วนตัว ไม่ค่อยทำกิจกรรมข้างนอกเท่าไหร่ เราคงจะเข้าไม่ถึงเขาจริงๆ

มีนนา : ส่วนตัวสเปกชอบตี๋ๆ นิสัยลุยๆ หน่อย ไปไหนไปกัน เข้ากับเพื่อนของเราได้ค่ะ

 

FIRST OF MEENNA

LOD_4234 LOD_4242 LOD_4246

ชื่อ : มีนนา-มีนนา ศุภประภัสสร

การศึกษา : ปี 2 คณะการท่องเที่ยวและบริการ สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยรังสิต

วันเกิด : 13 ตุลาคม 2540

ส่วนสูง : 166 ซม.

น้ำหนัก : 46 กก.

นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ : เป็น ตัว เอง

คติประจำใจ : ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ และไม่เดือดร้อนคนอื่น

วิชาเรียนน่าเบื่อ : บัญชี

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา : โรงอาหารที่สะดวกสบายกว่านี้

เป้าหมายในอนาคต : มีงานทำที่มั่นคง และครอบครัวที่อบอุ่น

ผลงาน : ซิทคอมหมัดเด็ดเสียงทอง, ผู้ชนะเลิศ GSB GEN CAMPUS STAR ภาคกลาง ฝ่ายหญิง

Instagram : meenna.s

 

FIRST OF FERGAL

LOD_4315 LOD_4320 LOD_4323

ชื่อ : เฟอร์กี้-เฟอร์กัลป์ วันชัย เพาเวอร์

การศึกษา : ปี 4 คณะ SIIT สาขา IT สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร

วันเกิด : 24 พฤศจิกายน 2536

ส่วนสูง : 182 ซม.

น้ำหนัก : 68 กก.

นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ : อิสระ พี่น้อง เหลืองแดง

คติประจำใจในเวลาเรียน : วินัย ตั้งใจ อดทน

วิชาเรียนน่าเบื่อ : กฎหมาย IT

แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ : FUTURE PARK

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา : อยากให้ภาควิชา IT ย้ายกลับมาเรียนที่รังสิต เพราะตอนนี้ที่ภาคแยกไปเรียนที่บางกระดี่

เป้าหมายในอนาคต : อยากเป็นนักแสดง นายแบบที่ดี มีชื่อเสียงในทางที่ดี และเป็นไอดอลสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

ผลงาน : ละคร “กาลครั้งหนึ่ง..ในหัวใจ”, ถ่ายแบบภาพนิ่ง, ผู้ชนะเลิศ GSB GEN CAMPUS STAR ภาคกลาง ฝ่ายชาย

Instagram : fergiefergal

MODEL : FERGAL WANCHAI POWER, MEENNA SUPPRAPASSORN