2 สาวเม้าท์เวอร์ เรื่องชายหนุ่ม

 

 

 

แอล” บริหาร ม.รังสิต

เห็นแบบนี้ สาวแอลวรรณกรณ์ พหลยุทธ

ปี 2 คณะบริหาร ม.รังสิต

ก็มีสเปกหนุ่มในฝันนะ พวกที่เอา

แต่แซวน่ะหมดสิทธิจีบ

“ตอนแรกๆ ที่เข้ามหาลัยก็มีโอกาสได้คัดเลือก

ให้ไปประกวดดาวคณะค่ะ พอเราไปประกวด

ก็จะมีคนรู้จักเราบ้างแล้ว ทีนี้ก็จะมีรุ่นพี่เข้ามา

จีบเยอะ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง อยู่ดีๆ ก็มีรุ่นพี่เดิน

เข้ามาบอกว่า ชอบน้องคนนี้จังเลย

เราก็ตกใจค่ะ อยู่ดีๆ เขาก็มาพูดเฉยเลย

ต่อจากนั้นพอเดินผ่านเขาก็จะแซวเรา

แล้วก็แกล้งๆ เราค่ะ เราก็เขินนะ บางที

ไม่ได้เขินที่เขาแซว แต่เขินเพราะตรงนั้น

คนมันเยอะ ทำเอาเราไม่มีความมั่นใจ

จะเดินผ่านตรงนั้นไปเลยค่ะ แล้วก็ไม่ค่อยชอบ

แบบนี้ด้วยค่ะ ชอบคนที่จริงใจ ภูมิฐานหน่อย

จะได้ดูแลเราได้ ที่มาแซวๆ แบบนี้ ไม่ใช่สเปกเลยซักนิด”

 

 

 

fs3619

fs3622

fs3633

fs3638

โอเปิ้ล” วิศวะ ม.กรุงเทพ

สาวสวยตาคม  โอเปิ้ลณัฐนิช จิตไพศาลสมบัติ

ปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์

ที่น่าจะสวยคมถูกใจหนุ่มๆ วิศวะ

รวมถึงหนุ่มคณะอื่นๆ ด้วยน่ะแหละ

“รักครั้งที่ประทับใจในมหาวิทยาลัย

คงเป็นตอนช่วงเข้าเรียนใหม่ๆ แล้วไปกินข้าว

กับเพื่อนๆ ที่คณะนิเทศศาสตร์ แล้วมีหนุ่มคนหนึ่ง

คงเป็นหนุ่มในคณะนี่แหละ ให้เพื่อนเขามาขอเบอร์

แล้วเขาเป็นผู้ชายแบบหน้าตาดี หล่อตี๋ๆ ถูกใจสาวๆ

เลยแหละ แต่ตอนนั้นที่เขาให้เพื่อนมาขอเบอร์

ก็ไม่ให้นะคะ จนเขาเลยต้องเข้ามาขอเอง

เราก็เลยได้คุยกันทางโทรศัพท์อยู่สักพัก

แล้วก็นัดเจอกันค่ะ ตอนนั้นประทับใจที่เขา

เป็นผู้ชายในสเปกเรา แล้วก็โรแมนติกด้วยนะ

เคยนัดเจอกันในมหาวิทยาลัย แล้วอยู่ๆ

เขาก็เอากระดาษทิชชู่มาพับเป็นดอกกุหลาบให้ด้วย

หนูยังพับไม่เป็นเลยค่ะ แต่เขาพับเป็นแล้วก็พับให้ด้วย

แต่คือสรุปสุดท้าย คุยกันได้เดือนหนึ่งมั้ง

หนูก็เป็นฝ่ายเฟดตัวออกมาเอง หนูกลัวเองแหละ

ว่าหน้าตาดีแบบนี้  โรแมนติกแบบนี้ จริงๆ

จะไม่มีแฟนเลยเหรอ ก็เลยค่อยๆ

ถอนตัวออกมาเองจะดีกว่า”

fs4297

fs4326

fs4328

fs4329

มาดูกันซิ ชาว มอ ชอบเม้าอะไรกัน

เอ็ม

 

 “เอ็มมี่” การท่องเที่ยวและการบริการ มรภ.สวนดุสิต

เอ็มมี่-วัณณิภา ไชยนุวัติ ปี 1 คณะการท่องเที่ยวและการบริการ ม.ราชภัฏสวนดุสิต ขอระบายความในใจ โดนรุ่นพี่ปี 3 ไหว้เพราะคิดว่าเป็นรุ่นพี่ปี 4 …นี่เราดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือนี่!!

“ตอนเข้ามาใหม่ๆ เลยค่ะ เคยโดนรุ่นพี่เข้าใจผิดว่าเราเป็นรุ่นพี่เขาอีกทีค่ะ ซึ่งคณะเรา และสาขาการบินเขาก็จะมีเรียนพวกพัฒนาบุคลิกภาพ และก็มีวิชาที่สอนเกี่ยวกับการแต่งหน้า วันนั้นเราก็เรียนแต่งหน้า แล้วก็ไปห้องน้ำค่ะ จริงๆ แล้วถ้าเป็นรุ่นพี่ปีสูงๆ จะมีเข็มการบินติดอยู่ที่เสื้อใช่มั้ยคะ แต่พี่คนหนึ่งในห้องน้ำเขาก็สวัสดีหนู เป็นรุ่นพี่ปี 3 แล้วหนูเพิ่งปี 1 ก็เลยบอกเขาว่าไม่ต้องสวัสดีก็ได้ค่ะ เขาก็บอก อ้าว นึกว่ารุ่นพี่ปี 4 ซะอีก หนูก็นิ่งเลยค่ะ คือแบบช็อคไปเลยค่ะ นี่เราแต่งหน้าแล้วข้ามขั้นไป 3 ปีเลยเหรอเนี่ย แล้วตอนนั้นเราก็ไม่ได้แต่งเต็มอะไรนะ แต่เราก็ตัวสูงกว่าพี่เขาเยอะอยู่เหมือนกัน พอออกมาจากห้องน้ำก็ทำใจได้ค่ะ T_T คณะตัวเองยังไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่นะคะ แต่ถ้าเป็นคณะอื่นนี่ตลอดเลย จะโดนทักว่าเป็นรุ่นพี่ตลอด มีรุ่นเดียวกันมาถามทางอะไรแบบนั้น ก็รู้สึกปวดใจเหมือนกัน เราดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย”

แอมเพิล

 

“แอมเพิล” ศิลปะและการออกแบบ ม.รังสิต

สาวน่ารัก แอมเพิล-ชนิดาภา พงศ์พุทธชาติ ปี 2 คณะศิลปะและการออกแบบ ม.รังสิต มาชวนเพื่อนๆ ให้พูดภาษาแอมเพิลไปด้วยกัน

“จริงๆ แอมเพิลเป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ จะชอบพูดอะไรที่เพื่อนๆ ไม่เข้าใจ จนบางทีก็เหมือนเป็นภาษาต่างดาว แต่เพื่อนๆ พออยู่กับแอมเพิลก็พูดตามแอมเพิลเหมือนกันนะ จนทุกคนเรียนการพูดนี้ว่า ภาษาแอมเพิล ภาษาชาโมเนะ เวลาพูดอะไร ไปไม่ถูก ไปไม่เป็นก็จะพูด หรือบางทีเวลาลืมตัวแอมเพิลก็จะพูดออกมาไม่รู้ตัวเลยค่ะ แบบ ชาโมเนะ ชิเน ชิมเหม่นะ แล้วต้องทำเสียงเล็กๆ ด้วยนะ อันนี้ก็เป็นมานานแล้วเหมือนกัน พูดเสียงเล็กๆ เหมือนแมลง พอเพื่อนๆ เห็นเราพูดก็พูดตาม เหมือนโต้ตอบกันอยู่ แต่คนอื่นมองมามันก็อาจจะดูว่า เฮ้ย ไอ้พวกนี้เป็นบ้าอะไรกันนี่ อะไรประมาณนั้น แต่แอมเพิลว่ามันก็น่ารักดีนะคะ พูดกันเล่นๆ คลายเคลียดดี”

เจส

 

“เจสซิก้า” ศิลปศาสตร์ ม.กรุงเทพ (อินเตอร์)

ใครชอบโดดเรียนมาทางนี้ สาว เจสซิกา-เจสซิก้า พรมมี ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ ม.กรุงเทพ (อินเตอร์) จะชวนโดดเรียนไปพร้อมๆ กัน

“เจสกับกลุ่มเพื่อนจะชอบโดนเรียนกันไปกินข้าวค่ะ โดดไปไม่ไกลหลอก ก็โรงอาหารของมหาลัยนี่แหละค่ะ วิชาที่โดดก็เป็นคาบที่อาจารย์ไม่เช็คชื่ออยู่แล้วด้วยค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าสบายๆ แต่ถ้าไม่เข้าเราก็มีสิทธิเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ตอนหลังก็ต้องมาอ่านหนังสือเรา แต่ทำไงได้รู้สึกไม่ค่อยชอบวิชานี้อยู่แล้วค่ะ ก็เลยโดดออกมาเลยดีกว่า แบบอินดี้ๆ 555 ส่วนใหญ่เราก็เป็นคนชวนเพื่อนเลยด้วย หัวโจกเลยในการชวนโดดออกมาเลยล่ะค่ะ เมื่อสมัยมัธยมก็เคยโดดเรียนเหมือนกัน มันเป็นงานเทศการที่ต้องพรีเซ้นท์งาน เราก็พรีเซ้นท์เสร็จแล้วแหละ แล้วมันก็จะมีเหมือนเป็นบ้านฟิวเจอร์บอร์ดที่เราทำไว้ตอนพรีเซ้นท์ พอพรีเซ้นท์เสร็จงานเลิกเราก็ไม่กลับไปเรียนค่ะ แอบกันอยู่ในบ้านที่แหละโดดเรียนกัน แต่ด้วยความที่เราอยู่กันเป็นกลุ่มแล้วคุยกันเสียงดังด้วย ก็เลยโดนอาจารย์จับได้ทีนี้โดนจับตีเรียงคนเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่เข็ดนะคะ เรื่องโดดเรียนเนี่ย อิอิ”

พราว

 

“พราวด้า” ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์)

เพราะความชอบทำอะไรจริงจังเป็นเหตุ สาว พราวด้า-พัชรพร ปาจารย์ ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์) ถึงทำอะไรโดยการทุ่มสุดตัวเสมอ

“อยู่ที่มหาลัยเพื่อนๆ จะให้ฉายาว่า ปราด้า ค่ะ เหมือนชื่อแบรนด์กระเป๋ายี่ห้อหนึ่ง เพราะชื่อเล่นเราก็ พราวด้า ออกเสียงคล้ายๆ กันอยู่ เพื่อนๆ ก็จะชอบเรียกกัน ปราด้าๆ อะไรแบบนั้นค่ะ แล้วเพื่อนๆ ก็จะรู้ว่าเราเป็นคนที่ทำอะไรจริงๆ มาก ด้วยความจริงจังของเรานี่แหละบางทีเพื่อนก็ตลกกัน อยากมีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปเรียนสายแล้วแหละ ก็รีบวิ่งเลย คิดว่าต้องไปเรียนให้ทัน เพราะสายมากแล้ว เราก็วิ่งเลยค่ะ พยายามไปให้ทัน แต่ดันไปล้มลงในมหาลัยเลย อายมากค่ะ รีบลุกขึ้นเลย พอวิ่งไปถึงเพื่อนๆ เราก็เล่าให้ฟังว่าไปหกล้มมา เพื่อนก็บอกว่า ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ มาสายหน่อยจะเป็นอะไร จะจริงจังไปไหนเนี่ย อะไรแบบนั้นค่ะ ซึ่งความจริงจังก็เป็นขอดี ปนข้อเสียของเราไปเลย และตอนนั้นก็เจ็บมากค่ะที่ล้มลงไป แต่ก็บอกคนอื่นๆ ว่า เราไม่เจ็บนะ ไม่เจ็บ T T

เบีย

 

“เบียร์” วิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่

ขาใหญ่ประจำโรงเรียน เบียร์-ภัทราภรณ์ สันธิ ปี 3 คณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ วีรกรรมเด็กแสบแสนซนสมัยมัธยมที่ขนาดอาจารย์ยังต้องขอยอมแพ้

“ตอนที่เรียนมัธยมจะเรียนอยู่โรงเรียนประจำค่ะ แล้วด้วยความที่เราอยู่โรงเรียนเราก็เลยมีวีรกรรมแสบๆ บ่อย ชวนเพื่อนโดดเรียนไปนอนที่หอบ้าง แล้วที่โดนอาจารย์ดุประจำเลยก็คือเรื่องโทรศัพท์ค่ะ จะโดดดุ และโดนยึดประจำเลย อาจารย์เขาก็ยึดไปประมาณ 3 เครื่องแล้วค่ะ แล้วเราก็ได้เครื่องใหม่มา ทีนี้เราก็เอาไปให้อาจารย์เองเลย บอกเนี่ยเครื่องใหม่เลย อยากยึดก็ยึดไป จนในที่สุดอาจารย์เขาก็มาคืนให้เราเองค่ะ เป็นช่วงที่เราแสบมาก ยิ่งตอนนั้นอยู่ ม.6 ก็จะเป็นอะไรที่แสบที่สุด เหมือนเราโตที่สุดในโรงเรียน เวลาจะทำอะไร อาจารย์ก็จะเพ่งเล็ง แต่เราก็จะซ่าๆ ไม่กลัว ตอนนั้นเข้าห้องปกครองบ่อยมาก เวลาพูดกับอาจารย์ก็จะมีเถียงๆ บ้างค่ะ ไม่ได้ด่าอะไรกันนะ แต่แบบคุยกันจนอาจารย์ต้องกลัวเราไปเลยอ่ะค่ะ รู้สึกว่าช่วงเวลานั้นเราเป็นใหญ่จริงๆ 555

เทวี

 

“เทวี” ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

เทวี-ฤๅชนก มีแสง ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เห็นอย่างนี้ก็ซุ่มซ่ามใช่เล่นเหมือนกันนะสาวเทวี ไปทำอีท่าไหนถึงตกบันได 4 ขั้นได้กันละเนี่ย

“หนูจะมีเพื่อนกลุ่มใหญ่พอสมควร เป็นกลุ่ม 10 คนค่ะ ผู้หญิงทั้งหมดเลย แล้วก็จะเป็นกลุ่มที่ชอบกินมากๆ จะตระเวนหาของกินกับบ่อยๆ และด้วยความที่ชอบหาของกินนี่แหละ เราก็จะชอบไปกินอาหารกันแถวๆ วิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ คือตรงนั้นจะมีฝรั่งค่ะ แล้วเพื่อนในกลุ่มมีคนที่ชอบผู้ชายต่างชาติ เราก็เลยจะไปนั่งกินแถวนั้นประจำ แล้วมีกลุ่มอยู่กลุ่มหนึ่ง 2-3 คนเป็นฝรั่งยกกลุ่ม หนึ่งในนั้นหน้าเหมือนเอ็ดเวิร์ดเลยค่ะ เหมือนเด๊ะ แบบถอดพิมพ์กันมาเลยรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่คือเพื่อนๆ ก็จะเพ้อ นั่นเอ็ดเวิร์ดของฉัน 555 ประมาณนี้ จริงๆ หนูเป็นคนเอ๋อๆ ซุ่มซ่ามๆ ด้วย เคยเดินๆ อยู่แล้วตกบันได 4 ขั้นจนเพื่อนๆ ต้องช่วยกันพาไปทำแผล เป็นความผิดของหนู่เองรึเปล่าก็ไม่รู้นะอาจจะไม่มองทาง หรือใจลอยอะไร แต่เรื่องซุ่มซ่าม ขี้ลืมนี่ขอให้บอกเถอะค่ะ เยอะจริงๆ และถึงจะเป็นคนที่หน้าตาประมาณนี้แต่ก็ไม่มีคนเข้ามาจีบเลย จะมีบ้างเป็นแฟนคลับที่เอาน้ำ เอาขนมมาให้แบบกล้าๆ เข้าหา แต่ไม่เคยโดนแซว โดนจีบเลยนะคะในมหาลัย คงเพราะกลุ่มหนูใหญ่ด้วยแหละเขาเลยไม่กล้าเข้ามากัน”

แพร

 

“แพร” ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์)

แพร-ปัญชลีย์ สุริยประพัฒน์ ปี 2 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์) ศิราณีตัวแม่ ที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนๆ แต่ไหงตัวเองถึงยังไงมีแฟน?

“แพรจะมีเพื่อนๆ มาปรึกษาเรื่องความรักค่อนข้างเยอะค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน จะไม่ใช่คนแนะนำอะไร แต่ถ้าเพื่อนมีอะไรอย่างระบายเราก็จะช่วยรับฟัง คอยปลอบเพื่อนบ้าง ให้กำลังใจเพื่อนบ้าง แต่ตัวเองนี่ไม่มีเลยเรื่องความรัก ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบเลย อาจจะเป็นเพราะอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มกันซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าแบบมีคนกล้าๆ ตรงเข้ามาจีบเลย อย่างงี้แพรก็กลัวนะ ไม่กล้าไว้ใจ แล้วก็ไม่กล้าที่จะคุยด้วย แต่ถ้าเข้ามาเป็นเพื่อนกันก่อน ค่อยๆ คุยกันไปเรื่อยๆ ก็ยังพอไว้ใจได้ค่ะ จะได้เรียนรู้อะไรไปเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะด้วยงานด้วยก็ได้ ตอนนี้แพรก็ได้แต่เป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักให้เพื่อนๆ ไปก่อน ^^

ออยธ

 

“ออย” ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์)

ออย-พชร อตมศิริกุล ปี 1 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (อินเตอร์) วีรกรรมร่วมมือกับรุ่นพี่ แกล้งเพื่อนรักแบบสุดฮา

“มีอยู่ครั้งหนึ่งเรากับรุ่นพี่จะหาที่ไปกินข้าวกันตอนกลางคืนค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะกินใกล้ๆ มอนี่แหละ แถวๆ รังสิต แต่ว่ารุ่นพี่ก็เสนอมาว่า จะกินแถวนี้เหรอ ไปกินที่อื่นดีมั้ย สรุปจะไปแถวเยาวราชค่ะ ทีนี้ก็เลยโทร.ตามเพื่อนอีกคนหนึ่งให้ไปด้วยกัน เขาก็อยู่หอใกล้ๆ มหาลัย เราก็บอกเขาแค่ว่าจะไปหาข้าวกินกัน เขาก็ลงมาจากหอ ถามว่าจะไปไหนกัน ตอนนั้นสภาพในรถคือนั่งกันเต็มแล้วล่ะค่ะ ก็อัดๆ กันไป ไม่มีใครบอกเขาเลยว่าจะไปไหน ก็ยิ้มๆ กัน วางแผนกันไว้แล้วล่ะ จะแกล้งไม่บอกเขาว่าเราจะไปไหนกัน คือเขาก็คงนึกว่าเราจะไปกินใกล้ๆ เลยแต่ชุดแบบสบายๆ เตรียมนอนแล้ว เสื้อยืด กางเกงเล เราก็ออกรถค่ะ สักพักก็กลับรถแล้วขึ้นทางด่วนเลย เขาก็ เฮ้ย จะไปไหน สรุปผ่านร้านแบบนั่งกิน และดื่มกันนิดนึง ขับรถแบบชะลอๆ ทำเหมือนจะจอด เขาก็บอก อย่าเลย ขอร้อง ดูกางเกงเลดิมันเข้ากับร้านมากเลยสินะ เราก็เลยฮาเลยค่ะ แล้วก็ เออก็ได้ ไปกินร้านอื่นก็ได้ แต่สรุปก็ไปกินถึงเยาวราชอยู่ดีค่ะ ตอนแรกเขาบอกว่าจะใส่บ๊อกเซอร์ลงมาแล้วด้วยซ้ำ ตลกมากเลยค่ะฮาเพื่อนสุดๆ ไปเลย”

พิกเลท

 

“พิกเลท” สถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ลาดกระบัง

ประสบการณ์โดนจีบแบบแปลกๆ ของ พิกเลท-ชาราฎา อัมราพร ปี 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายเข้ามาทำเป็นสนิทด้วย

“ตอนเข้ามาใหม่ๆ เขาโดนผู้ชายเข้ามาหาแบบแปลกๆ ค่ะ คือเขาก็เหมือนรู้ว่าเราเป็นนักร้องนะ แล้วเขาก็เข้ามาคุยกับเราเหมือนรู้จักเลยอ่ะ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันเลยนะ บางทีกำลังเดินๆ อยู่กับเพื่อนเขาก็เดินเข้ามาคุยด้วย แถมเลยไปคุยกับเพื่อนเราอีกทีด้วย คุยใหญ่เลยเหมือนรู้จักกันมานาน แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งนั่งเรียนอยู่ เราก็ถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะ เขาก็หยิบแว่นเราไปใส่เฉยเลยค่ะ คือพิกเลทอ่ะสายตาสั้น ถ้าไม่ใส่ก็จะมองไม่เห็นใช่มั้ยคะ เราก็ เฮ้ย เอาคืนมา เรามองไม่เห็น เขาก็บอกว่า เขาไม่ให้ ตอนไม่ใส่แว่นน่ารักกว่า เขาก็จะไม่ยอมให้คืน แต่เราก็มองกระดานไม่เห็น สรุปเขาก็คืนค่ะ แล้วหมดคาบเขาก็ไป เพื่อนพิกเลทก็ถาม รู้จักเขาเหรอเห็นคุยด้วยกันใหญ่เลย เราก็เลยบอกว่า ไม่รู้จัก เพื่อนก็ อ้าว แล้วทำไม่คุยกันขนาดนั้น ซึ่งพิกเลทก็ไม่รู้จะตอบยังไงค่ะ แปลกๆ ดี เขาแบบดูเนิร์ดมากเลยนะ ทั้งติสท์แล้วก็เนิร์ดด้วย น่าจะเป็นคนประเภทอยู่กับตัวเองมากกว่า แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพิ่งเคยเจอแปลกๆ แบบนี้ครั้งแรก”

แพทตี้

 

“แพทตี้” วิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ

เพื่อนๆ ขอเม้าท์ แฉวีรกรรมของ สาวสวย แพทตี้-พิมพาภรณ์ เสริมพณิชกิจ ปี 3 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ จนหมดเปลือก

“ตอนเรียนก็จะมีวิชาที่เกี่ยวกับกีฬา อย่างเตะฟุตบอลอะไรแบบนั้น แล้วก็เรียนกรีฑา ซึ่งก่อนเรียน เขาก็จะมีให้วิ่งรอบสนาม 10 รอบก่อน ตอนแรกก็วิ่งๆ กันปกติ สักพักหนึ่ง มีน้องจากไหนไม่รู้ พวกเราไม่รู้จักเลย ขี่จักรยานเข้ามาในสนาม แพทตี้เขาก็เลยไปเอาจักรยานของน้องคนนั้นมาขี่ ขี่ไปครึ่งสนามเลย แต่อาจารย์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของสนามมองไม่เห็น ตอนขี่จักรยานนางก็ยิ้ม และโบกมือให้ทุกคนด้วยค่ะ โกงรอบแบบสวยๆ ซึ่งพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ต้องวิ่งต่อไปค่ะ แพทตี้นี่ถือว่าเป็นคนที่เล่นกีฬาไม่เก่งเลย ตอนเข้าเรียนแบดมินตัน ก็ชอบเข้าสายประจำเลยด้วย และจะมีปัญหาเรื่องแบดมินตันกับว่ายน้ำประจำ จนอาจารย์บอกว่า ให้ไปดรอบวิชานี้เถอะ แต่แพทตี้ก็ไม่ยอม เอาลูกตื้อเข้าแรก จนอาจารย์ต้องยอมแพ้ แถมวิชากีฬาที่ไม่ถนัดนี่ได้คะแนนดีกว่าเพื่อนเลยด้วย ขนาดฟุตบอลที่เตะไม่เป็นยังได้ A แหนะ เหมือนเป็นลูกรักอาจารย์ 555

หง

 

“หงหยก” นิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ (อินเตอร์)

สาว AF10 หงหยก-จันษกร กิตติวัฒนากร ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ (อินเตอร์) แอบมาเปิดเผยสเปกส่วนตัว เอ้า! รีบๆ มาดูกันเร็ว ใครจะตรงสเปกหงหยกกันบ้าง

“สเปกหนูนี่คือ หนุ่มคริส เฮมเวิร์ธ ตัวเอกจากเรื่อง Thor เลยค่ะ ดูแมนๆ ดี แต่ถ้าให้มองทั่วๆ ไปก็จะชอบคนที่ยิ้มสวย จริงใจ ถ้าขี้อ้อนเหมือนแมวได้ด้วยก็ดีค่ะ เพราะมันดูน่ารักดี 55 แต่ถ้ายิ้มสวยนี่จะมองเป็นอย่างแรกเลย ยิ้มสวย ตาสวย แต่ที่มหาลัยมองไปทางไหนก็ไม่เจอเลยค่ะที่เป็นสเปกแบบนี้ หนูก็ชอบคนที่ขี้อ้อน และโรแมนติกนะ เคยมีเพื่อนในคลาสเดียวกันเข้ามาเหมือนๆ จีบ ตอนนั้นเพลง เหตุผลที่ไม่ยากเป็นเพื่อนเธอ กำลังมา เขาก็มาร้องเพลงนั้นให้เราฟังค่ะ แล้วเขายังเคยพับดาว 100 ดวงใส่โหลมาให้เราด้วย คือไม่คิดว่าผู้ชายจะทำอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ใช่สเปก ไม่ใช่สไตล์ที่เราชอบอยู่ดี ก็เลยได้แค่คุยกันเป็นเพื่อนค่ะ ไม่ได้คิดอะไร ถ้าให้มองแค่ในมองนี่หายากมากเลยนะ”

กอ

 

“กอหญ้า” ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

กอหญ้า-ไอลดา สุโง๊ะ ปี 3 คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เหตุการณ์เสี่ยงตายเพราะเพื่อน ที่ทำให้สัญญากับตัวเองเลยว่า จะไม่ให้เพื่อนขับรถ หรือไม่นั่งรถที่เพื่อนคนนี้ขับอีก

“จริงๆ เป็นเรื่องที่แอบเคืองเพื่อนด้วยค่ะ ก็คือตอนเข้าปี 1 ใหม่ๆ หนูเพิ่งได้รถใหม่มา ก็เอามาขับที่มหาลัยเอาไว้ขับไป-กลับ ทีนี้ก็มีเพื่อนมาขอลองขับค่ะ ด้วยความใจดีก็ให้เพื่อนขับ ตอนแรกก็โอเคขับทางตรงออกจากซอย พอมาถึงถนนใหญ่เท่านั้นแหละ เขาก็ขับเร็วมากเพื่อจะเลี้ยงโค้งออกจากซอย แล้วตอนนั้นมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ขับมาอย่างเร็วมาก เพื่อนก็ตีวงเลี้ยวเลยค่ะ พวกเรากรี๊ดกันหมดเลย ในรถมีกันอยู่ 5 คนเป็นผู้หญิงหมดเลย กรี๊ดลั่นรถเลยค่ะ ดีที่รถบรรทุกหลบได้ เราก็บอกให้เพื่อนจอดเข้าข้างทางเลย แล้วก็ถามเพื่อนว่า ทำไมแกขับแบบนั้น เพื่อนก็บอกว่า ไม่รู้อ่ะ อยากโชว์ เราก็ เฮ้ย แต่นี่มันรถเรานะ แล้วรถใหม่ด้วย เพิ่งออกมาแค่อาทิตย์เดียวเลย แล้วมารู้ว่าเขาเพิ่งขับนี่แหละ มือใหม่เลย แล้วอยากโชว์ แถมมารู้อีกทีว่า ขนาดที่บ้านเขา พ่อเขายังไม่ยอมให้ลองขับเลย! ตั้งแต่นั้นก็ไม่ให้ใครขับรถเราอีกเลยค่ะ แล้วแบบคงไม่นั่งรถที่เพื่อนคนนี้ขับด้วยน่ากลัวมาก”

เบล

 

“เบล” วิทยาลัยนานาชาติจีน ม.ธุรกิจบัณฑิตย์

เบล-ธนยพร เอกอนันตการณ์ ปี 1 วิทยาลัยนานาชาติจีน ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ สาวหมวยบ้าจี้  ใครให้ทำอะไรสาวเบลก็ไม่มีปฏิเสธหรอกจ้า

“เพื่อนๆ จะชอบเรียกว่า หมวยค่ะ เพราะเราหน้าหมวย แล้วยิ่งอยู่วิทยาลัยนานาชาติจีน คนอื่นบางทีก็จะคิดว่าเราเป็นคนจีนไปเลยค่ะ ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาทัก เข้ามาคุยเพราะคิดว่าเป็นคนจีน ต้องคุยเป็นภาษาจีน นอกจากนั้นอย่างกลุ่มเพื่อนตอนแรกเลย เขาก็จะคิดว่าเราดูหยิ่ง ดูแรงๆ เพราะจะแต่งหน้ามาเรียน แต่พอได้รู้จักกันเพื่อนจะบอกว่า แกรั่วสุดๆ เลยนะ แล้วก็จะเป็นพวกบ้าจี้ เส้นตื้นขำง่ายมาก บางทีมันไม่ได้ขำอะไรมากมายหรอกค่ะ คนอื่นเฉยๆ แต่เราดันขำซะงั้นก็มีค่ะ อย่างบ้าจี้นี่ก็รวมไปถึงใครให้ทำอะไรก็ทำด้วยนะ อย่างตอนประกวดดาว-เดือนก็เพราะว่า พี่ๆ เพื่อนๆ เชียร์ เออ ไปประกวดเถอะ เราก็ไป แล้วเราก็แสดงความสามารถพิเศษด้วยการร้องเพลงภาษาจีน มันฮามาก ร้องเพลงก็ไม่ตรงท่อนด้วย เราก็ เออ อยู่บนเวทีมันไม่ได้ยินเสียงดนตรีไง แต่จริงๆ คือตื่นเต้นด้วยเลยร้องไม่ตรงท่อน ก็แอบแก้ตัวไปค่ะ”

มิ้ง

 

“มิ้ง” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

มิ้ง-ลลิดา วัชรกรโยธิน ปี 2 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จะเป็นลมทั้งที ขอเป็นลมแบบสวยๆ ก็ไม่ได้ เป็นลมต่อหน้าอาจารย์ใหญ่ซะงั้น

“ตอนปี 1 สิ่งที่เด็กแพทย์ทุกคนต้องเจอ แล้วต้องทำก็คือ การเจออาจารย์ใหญ่ครั้งแรกค่ะ เราต้องเข้าไปไหว้อาจารย์ใหญ่พร้อมกัน ตอนแรกก่อนไปมิ้งก็คิดภาพไว้ในหัวแล้วล่ะค่ะว่าจะเป็นยังไงบ้าง ทั้งห้องนั้นเป็นยังไง บรรยากาศเป็นยังไงบ้างอะไรแบบนั้น คิดว่าเราไม่กลัวนะ แต่พอเข้าไปจริงๆ กลิ่งฟอร์มาลีนมันแรงมากเลยค่ะ มิ้งก็ยังหันไปคุยกับเพื่อนบอกเพื่อนว่า กลิ่นฟอร์มาลีนที่นี่แรงมากจริงๆ เลยเนอะ แล้วก็เดินเข้าไปอีกหน่อย ช่วงที่ยืนเรียงแถวกันตรงหน้าอาจารย์ใหญ่นั่นแหละค่ะ มิ้งก็เป็นลมล้มพับลงไปเลย เพื่อนๆ ต้องรีบพาออกมาข้างนอก ก็รู้สึกอายนิดๆ นะคะตอนนั้น จริงๆ ก็ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะเราใส่ผ้าคาดปาก แล้วก็อากาศไม่ถ่ายเท และต้องทนกลิ่นที่รุนแรงของฟอร์มาลีนอีกก็เลยเป็นลม แต่พอได้เข้าไปบ่อยๆ ก็กลายเป็นชินค่ะ เด็กแพทย์ส่วนใหญ่ก็เป็นกันหลายคนอาการแบบนี้”