Monthly Archives: May 2015
เปิดกระเป๋าสาวสวย แซนดี้-ชลิดา
สาวคณะนิเทศศาสตร์ ม.เอแบค พิธีกรหน้าใสรายการ “ประกายดาว”
ทางช่อง 8 แซนดี้-ชลิดา กล่ำปาน กับกระเป๋าใบโปรดข้างกายที่ใช้พกพาไปมหาวิทยาลัย
และของติดตัวน่าสนใจที่สาวๆ ต้องไม่พลาด
“ใบนี้ตอนนั้นไปเรียนที่อเมริกา แล้วเห็นสวยดี เลยซื้อมาฝากคุณแม่ค่ะ ก็ซื้อมานาน
หลายปีแล้ว สุดท้ายก็ตกมาที่หนูใช้ต่อ 55 แต่ก็เป็นคนชอบกระเป๋าไซส์ขนาดนี้ แล้วก็สีประมาณนี้
อย่างสีขาว สีชมพูหรือสีนู้ดค่ะ ขนาดนี้ก็ใส่ของได้เยอะ แต่ถ้าไปทำงาน ส่วนใหญ่หนูจะเอากระเป๋า
ใบเล็กกว่านี้ เพราะว่าที่ทำงานเขาก็จะมีอุปกรณ์ให้เราพร้อมอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเรียนก็อาจจะใช้ใบ
ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพราะว่ามีอุปกรณ์การเรียนพวกสมุดโน้ต ชีทด้วยค่ะ อย่างตอนนี้หนูก็เพิ่งย้ายจาก
คณะบริหารมาเป็นนิเทศฯ เนื้อหาก็จะเปลี่ยนไปบ้าง เวลาเรียนก็จะชอบมีสมุดโน้ตไว้จด แล้วก็ค่อย
กลับไปรีเสิร์จเพิ่มทีหลัง เพราะว่าต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย”
สเปรย์น้ำแร่
เวลาไปเรียนจำเป็นมากเลยค่ะ เพราะเอแบคมีที่โล่งเยอะมาก แดดร้อนเลยแหละ เคยตั้ง
คำถามนะว่า ใครว่าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วจะขาวขึ้น เพราะว่าหนูไม่ได้จอดรถที่ตึกเลย ขนาดไปถึง
เก้าโมงเช้า ต้องไปจอดที่ซาฮารา ลานกว้างๆ แล้วต้องเดินไปที่ตึกเรียนต่ออีก 55
แว่นกันแดด
เอาไปใช้ทำงานบ้าง แล้วก็ใส่ตอนขับรถค่ะ เวลาเรียนก็เอาออกจากกระเป๋า เพราะไม่
ชอบขนเยอะ
เครื่องสำอาง
ถ้ามีเรียนเช้าก็ต้องตื่นมาเร็ว รีบกว่าคนอื่นหน่อย เพราะว่าหนูไม่ได้อยู่หอ ก็จะขับรถไป
กลับมากกว่า ส่วนใหญ่ก็เขียนคิ้ว เติมลิป แล้วก็ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น เพราะตาข้างขวาหนูไม่มีชั้น
เลยใช้ช่วยหน่อย คือที่โน่นก็เป็นมหาวิทยาลัยแฟชั่นหน่อยนะ จะไม่แต่งก็ไม่ได้เลยอะค่ะ 55
คอนแทคเลนส์
หนูเป็นคนตาดำเล็ก แล้วถ้าเวลานอนน้อยจะดูเหมือนตาปรือๆ บางทีเพื่อนๆ ก็ชอบถาม
ไหวมั้ย เลยต้องใส่นิดหนึ่ง
โทรศัพท์
หนูเป็นคนติดโทรศัพท์นะ ก็ติดเล่น IG ชอบไปฟอลโลว์ตามดาราหลายๆ คน แล้วก็ติด
เกมค่ะ 55 เช่น เกมทำอาหาร คือเล่นไปได้เรื่อยๆ ส่วนเพื่อนที่มอก็จะชอบเล่น Snapchat คุย
ระหว่างเรียนบ้าง แล้วก็ Line กรุ๊ปค่ะ
กระจก
มีพี่ซื้อมาให้จากญี่ปุ่น เวลาไปมอต้องพกไปเพราะแก๊งหนูก็เป็นประหนึ่งแก๊งหงหยก 55
ก็มีการหยิบยืมมาส่องเช็กดูความเรียบร้อยกันบ้างค่ะ
กระเป๋าสตางค์
หนูชอบทำกระเป๋าสตางค์หายบ่อย ขี้ลืมค่ะ อย่างอยู่บ้านก็ยังวางลืม มารู้อีกทีหมาที่บ้าน
คาบเอาไปซ่อน 55 แต่ที่มอไม่ค่อยหาย เพราะส่วนใหญ่หนูจะทิ้งไว้ในรถ เอาแต่เงินกับบัตร
นักศึกษาไปอย่างเดียว
ฝันเป็นจริง ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
Baifern – Pimchanok
ฝันที่กลายเป็นจริงของ “ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ” จากสาวที่ผ่านการแคสงานมา
แล้วอย่างนับไม่ถ้วน จนวันนี้สาวใบเฟิร์นกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน ที่ตั้งใจในเรื่องของ
การเรียนและการแสดง เห็นสวยๆ แบบนี้สาวใบเฟิร์นอยู่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกการแส
ดงกํากับการแสดงอีกด้วย และล่าสุดตอนนี้สาวใบเฟิร์นยังมีผลงานภาพยนตร์ 2 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
ภาพยนตร์คอมเมดี้-โรแมนติก CAT A WABB และ ภาพยนตร์เรื่อง 2538 อัลเธอร์มาจีบ
เพื่อนๆ อยากรู้กันมั้ยว่า ตอนเรียนสาวคนนี้จะน่ารักขนาดไหน??ถ้าอยากรู้ต้องติดตาม..
ชื่อ – นามสกุล : พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์
ชื่อเล่น : ใบเฟิร์น
วัน เดือน ปีเกิด : 30 กันยายน พ.ศ. 2535
ส่วนสูง : 165 cm
การศึกษา : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง:รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์
สาขาผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ผลงานที่ล่าสุด : ภาพยนตร์คอมเมดี้-โรแมนติก CAT A WABB,
ภาพยนตร์เรื่อง 2538 อัลเธอร์มาจีบ
จุดเริ่มต้นที่เข้ามาเป็นนักแสดง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
เอ๊ะ…มันเริ่มจากงงๆ นะคะ คือตอนแรกเฟิร์นเคยเรียนละครเวทีตอนเด็กๆ เลย เล่นเป็นกระต่าย,
ไก่ ประมาณนี้ค่ะ (หัวเราะ) แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มอยากเล่นเป็นคนบ้าง เรารู้สึกว่าตั้งแต่นั้นมาการ
แสดงก็สนุกดีนะ หลังจากนั้นเฟิร์นก็ไปเป็นนักกีฬายิมนาสติกอยู่พักนึงค่ะ แล้วก็มีโมเดลลิ่งไปเจอ
อยู่ตอนซ้อมที่ยิม พี่เค้าก็ชวนมาแคสงานต่างๆ ค่ะ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ แคสเยอะมาก 20 งาน จะได้
ซักงานนึง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มมาได้งาน MV นิดๆ หน่อยๆ แต่เราก็แคสมาเรื่อยๆ ทํางานมา
เรื่อยๆ ค่ะ ตอนนั้นคิดว่าได้งานก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ (ยิ้ม)
มีมุมมองตอนนี้ กับการนึกย้อนไปสมัยเด็กยังไงบ้าง ?
ตอนนี้เฟิร์นคิดว่าตัวเราได้เกินกว่าฝันแล้วค่ะ ภูมิใจนะ (ยิ้ม) เราไม่ต้องไปแคสงานเหมือนสมัย
ก่อนอีกแล้วนะ แล้วยิ่งเวลาเราเหนื่อย เราจะรู้สึกอดทนมากขึ้น เช่นวันนี้เราถ่ายละครเหนื่อยมากเลย
นะ แต่ลองมองย้อนไปเมื่อก่อนกว่าจะได้เล่นละครซักเรื่องนี่ยากน๊าา
ตอนเรียนมีกิจกรรมอะไรที่ประทับใจบ้าง ?
ที่ภูมิใจเลยน่าจะเป็นกิจกรรมรับน้องค่ะ ถึงเราไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมทุกครั้ง แต่เราไปเท่าที่เราว่าง
ตอนนั้นรู้สึกว่าพี่ว้ากนี่ดุมากๆ เลย บางวันคือกลับบ้านมานี่ร้องไห้ แต่คือตอนนั้นเราเห็นเพื่อนไปร่วม
กิจกรรม เราก็พยายามไปให้ได้มากที่สุด หรือตอนที่ได้ไปค่ายของมหาวิทยาลัย เฟิร์นกับเพื่อนๆ ก็
ไปช่วยดํานาที่จังหวัดสระแก้วกัน เป็นความรู้สึกที่พอนึกถึงก็จะรู้สึกดีค่ะ (ยิ้ม)
อยากจะบอกอะไรกับเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันในรั้วมหาวิทยาลัยบ้าง ?
เพื่อนนี่เป็นแรงใจของเราเลยค่ะ นอกจากได้เรียนคณะที่เราชอบ ที่เราอยากเรียนแล้ว ยังมี
เพื่อนที่น่ารักมากจริงๆ ค่ะ อยากไปมหาวิทยาลัยตลอด คือสนุกมากเวลาที่เราได้ทํากิจกรรมร่วมกัน
หรือเวลาที่เราเฮฮา แม้แต่ตอนที่เราทุกข์เพื่อนก็ยังอยู่กับเรา เรียกว่าติดเพื่อนเลยก็ว่าได้ค่ะ
มุมมองความรักในตอนเด็ก ?
สมัยเด็กเฟิร์นชอบหนุ่มๆ ที่ออกมาจากวอลต์ ดิสนีย์ ขี่ม้าขาวออกมา แสนสุภาพ ร้องเพลง
เพราะ เหมือนเจ้าชายในสโนว์ไวท์ แต่รักครั้งแรกของเฟิร์น คือ ไม่มีอะไรเป็นอย่างในฝันเลยจริงๆ
ความฝันก็คือความฝัน ซึ่งตอนนี้ก็ยังหวังที่จะได้หนุ่มๆ ในแบบฉบับของวอลต์ ดิสนีย์อยู่ เพื่อนๆ ก็
จะชอบหาว่า ติ๊งต๊อง เพ้อฝัน ยิ่งใครมาจีบเราเสี่ยวๆ หน่อยนี่คือชอบมากค่ะ (หัวเราะ) เป็นบทเป็นก
ลอน เราจะชอบแฮปปี้มาก
แล้วตอนนี้มีมุมมองความรักเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ?
เฟิร์นว่าความรัก “ไม่ทําให้เราขี้เกียจ” นะ มันเหมือนเป็นพลังที่ทําให้เราอยากที่จะตื่นเช้าค่ะ
สมมุติเวลาเราไปเรียน เฟิร์นคิดว่าสําหรับเราวันจันทร์จะไม่แย่ เราคงอยากตื่นเช้ามาโรงเรียน หรือ
แม้แต่เรื่องงาน เฟิร์นรักในงาน วันไหนที่เราได้ทํางาน เราก็จะรู้สึกอยากรีบตื่นมาทํา ไม่ใช่ว่ายังนอน
ขี้เกียจอยู่บนเตียง เป็นพลังที่ทําให้เราทําอะไรดีๆ ในวันต่อไป
มีแอบชอบรุ่นพี่บ้างรึเปล่า ?
โห เฟิร์นนี่มีบ่อยมาก ไม่หยุดอ่ะ (หัวเราะ) เราจะชอบคนที่มีบุคลิกดี หน้าตานี่ไม่ใช่ประเด็น
เลยค่ะ ชอบคนที่ตลก กวนๆ มากกว่า เฟิร์นแค่รู้สึกว่าถ้าเค้าเป็นคนตลก เอนเตอร์เทนเพื่อนๆ แล้ว
ยิ่งถ้าเพื่อนๆ ชอบเค้า แค่นี้มันก็คือ สเหน่ห์ แล้วค่ะ
Style การแต่งตัว ชอบแต่วตัวแนวไหน ?
เฟิร์นจะชอบแต่งตัวสบายๆ ค่ะ ถ้าวันไหนสบายๆ หน่อยก็เสื้อยืดค่ะ แต่ถ้าเรื่องงาน เวลาเราไป
งานเฟิร์นก็จะดูธีมของงาน แล้วก็แต่งตัวให้มีกาลเทศะมากที่สุดค่ะ
อะไรที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา ?
เอาจริงๆ เลยนะคะ เพื่อนเรียก “โก่ง” (หัวเราะ) คือตัวเราขาโก่งค่ะ แล้วพอเรามาเพื่อนก็จะ
เรียก โก่งมาแระ ทุกคนก็จะรู้ว่าเป็นเราค่ะ หรือไม่ก็จะมีอีกชื่อนึง เมื่อปีที่แล้วเลย เพื่อนจะเรียกว่า
“ปลาดอลลี่” คือเฟิร์นเรียนตอนเช้ามากค่ะ เราก็จะแต่งหน้าไม่ทันจริงๆ แล้วเราก็จะไม่มีคิ้วเลย
บางทีก็ผมเปียกๆ ไปเรียน เพื่อนก็เลยบอกว่า มันเหมือนกับเนื้อปลาดอลลี่ยุ่ยๆ ขาวๆ อ่ะ ที่ไม่มีสี
อะไรบนหน้าเลย ขนคิ้วเราก็ไม่มี, ขนตา, ขอบตา เราก็ไม่มี (หัวเราะ)
เรื่องเรียนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
โอเคเลยนะคะ ตอนนี้เรียนจบแล้วค่ะ ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปี 4 เอกการแสดงกํา
กับการแสดง ที่เริ่มเรียนที่นี่เพราะมีหลายคนในวงการชอบบอกเราว่า เด็กที่จบมศว.นี่เก่งน๊า ตอนนั้น
เราก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ ว่าจะเก่งยังไง จนเราได้คุยกับรุ่นพี่ เค้าก็บอกว่าคณะนี้ “เรียนเพื่อเป็น
นักแสดง ไม่ได้เรียนเอาความเป็นนักแสดงไปทําธุรกิจ” แต่ก็รู้นะว่าถ้าจบไปแล้วคงทํางานลํา
บาก แต่เราเชื่ออย่างนึงว่า ถ้าเราทํางานแล้วโฟกัสที่อะไรเราก็จะหลุดไปทางนั้น อย่างเช่นถ้าทํา
งานแล้วโฟกัสที่ “เงิน” การใช้ชีวิตหลังจากนี้ เราก็จะต้องทําทุกอย่างเพื่อเป็น “เงิน” แล้วอาจจะข้าม
อะไรบางอย่างไปก็ได้ แต่ถ้าเราทําอะไรด้วยความรู้สึกที่เราชอบจริงๆ หรืออยากเรียนรู้อะไรที่มาก
ขึ้น ก็จะได้เรียนรู้ก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินไม่จําเป็นน๊า เราก็ค่อยไปหาหลังจากนั้นเอาก็ได้
ดีกว่าเราใช้ชีวิตแต่ในทางนี้ทางเดียว (ยิ้ม)
ขอบคุณรูปภาพ จาก
picpost.postjung.com
topicstock.pantip.com
webboard.campus.sanook.com
www.nokiagang.com















