ความท้าทายที่เริ่มมาจากความกล้าที่จะลอง ลองที่จะทำอะไรในแบบที่ยากสุดขั้วดูสักครั้ง จนตอนนี้ใครๆ ก็หลงเชื่ออย่างสนิทใจไปแล้วว่า อดีตหนุ่มนักกีฬามาดแมนเพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข คือ “กัส” ไอดอลสาวประเภทสองคนดังในซีรีส์Diary of Tootsies

คุณเชื่อมั้ย? อดีตเพชร คือ นักกีฬาประจำโรงเรียน

ตอนอยู่กรุงเทพคริสเตียนเป็นนักกีฬาบาสฯ พอจะเลือกเรียนมหา’ลัย ก็เลยเลือกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ม.มหิดล คือมันเป็นการเรียนทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ เพราะผมมาทางสายศิลป์ ก็เลยเลือกเข้าในส่วนของศิลปศาสตร์บัณฑิต มันเป็นการเรียนกึ่งๆ แพทย์ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ด้านโภชนาการ การดูแลสุขภาพ ซึ่งก็กว้างและลึก ค่อนข้างต้องใช้ความจำมากๆ มีช่วงหนึ่งที่เข้าวงการตอนปี 2 ก็ทำให้เกรดตกจนเกือบโดนไทร์เหมือนกัน เลยต้องเริ่มกลับมาพยายามไม่ขาดเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์ตอนสอนนี่สำคัญที่สุด สุดท้ายปีหลังๆ เกรดก็ค่อยๆ ขึ้นมาจนสามารถจบได้

บัณฑิตนักกีฬา ศาสตร์การกีฬาที่ได้รับตลอด 4 ปี 

สิ่งที่เราได้จากการเรียน 4 ปี มันมีประโยชน์กับเรามาก แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำงานทางด้านนี้ แต่ว่าเราสามารถนำความรู้มาดูแลตัวเองได้ ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไรให้แข็งแรง เวลาบาดเจ็บเราจะปฐมพยาบาลตัวเองยังไง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคนใกล้ตัวเรา ที่เราสามารถจะแนะนำเขาได้

โอกาสความท้าทายเข้ามาในจังหวะที่พอดิบพอดี

จากที่ได้ประกวด KPN ตอนปี 2 ช่วงระหว่างนั้น ผมก็สนใจการแสดงด้วย จนกระทั่งมีโปรเจคคัดเลือกนักแสดง Diary of Tootsies ตอนแรกก็ลำบากใจแต่ผมไปเปิดดูเพจของคุณช่า เขามีเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ที่สำคัญค่าย GDH เป็นค่ายหนังที่ดีมากๆ ถ้าเรามีโอกาสที่ได้ร่วมงาน มันก็เป็นการต่อยอดชีวิตเรา และท้าทายความสามารถตัวเองด้วย ผู้กำกับก็พูดว่า คนก็รู้อยู่แล้วว่าเพชรไม่ได้เป็นตุ๊ด ถ้าเราทำให้ดูเชื่อได้ มันคือความAmazing ตอนแสดงผมก็พยายามรู้สึกจากข้างในว่าผมเป็นจริงๆ เข้าใจถึงแบ็คกราวน์หรืออดีตของตัวละครให้มากที่สุด

เราทำมันได้แล้ว เทคนิคพิชิตความท้าทายที่เราอยากจะฝาก

ผมว่า ก่อนอื่นต้องรักในสิ่งที่ทำก่อนครับ เหมือนเราจะจีบใครสักคน เราต้องลงทุนไปรับไปส่งนะ ไม่ใช่คุณอยากได้อะไรก็แบมือขออย่างเดียว ทุกอย่างมันไม่ได้มาง่ายๆ เราต้องลงทุน และตั้งใจทำมัน แต่ที่สำคัญ คือคุณต้องกล้าลองทำก่อน เพราะหลายๆ คนมีความฝันความตั้งใจ แต่มีความกลัวที่จะทำ ไม่กล้าสู้ดู ถ้าเราไม่กล้า เราก็จะไม่มีวันได้สัมผัสสิ่งๆ นั้นที่เราอยากได้แน่ๆ อย่างน้อยต้องลงมือทำ ที่สุดแล้วมันก็คุ้มกับชีวิตที่ครั้งหนึ่งคุณได้ลองสู้มาแล้ว

(1) นิเทศฯ มีชื่อไม่แพ้ใคร

คือตอนแรกเลยก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเรียนที่ ม.หอการค้าไทยโดยตรงครับ มีคิดถึงที่อื่นไว้เหมือนกัน แต่พอได้เห็นหนังสั้นของ ม.หอการค้าไทย แล้วก็เกิดสนใจขึ้นมา เป็นหนังสั้นที่ดีมากนะ ทำให้ผมรู้สึกประทับใจที่นี่ ซึ่งจริงๆ แล้วสไหรับที่นี่เองเขาก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่บ้างเหมือนกันนะ อุปกรณ์การเรียนการสอนก็แน่นไม่แพ้ที่อื่นเช่นกันครับ

(2) ฝันเป็น DJ.

ตั้งแต่เด็กๆ เลยอาจารย์จะชอบถามโตขึ้นอยากเป็นอะไร คนอื่นเขาอาจจะอยากเป็นหมอ ทหาร นักบิน เป็นอะไรที่ฮิตๆ แต่ผมก็จะบอกไปเลยครับว่า อยากเป็นดีเจ ซึ่งตอนนั้นจริงๆ อาชีพนี้ยังไม่ได้ดังอะไรเลย ไม่ได้บูม แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนนั่งรถบ่อย ก็จะได้ฟังวิทยุบ่อยๆ แล้วรู้สึกว่าเราอยากทำแบบนี้นะ เป็นอาชีพในฝันที่อยากทำมาตลอด

(3) ไอดอลในมหา’ลัย

ผมมีความสนใจอยากจะจัดรายการวิทยุ เป็นดีเจ แล้วพอเรียนที่นี่ก็มีโอกาสได้เจอพี่นุ้ย พี่บุ๊คโก๊ะซึ่งพี่ๆ เขาเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ เคยได้เข้าคลาสเรียนที่เขามาบรรยายพิเศษ 2 ครั้ง ก็รู้สึกประทับใจมาก เหมือนมีพี่เขาเป็นแบบอย่าง อยากจะเก่งให้ได้แบบพี่ๆ เขา

(4) โยนโบว์ลิ่งยามว่าง

ปกติจะเป็นคนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนเท่าไหร่ครับ แต่ที่ชอบไปประจำเลยก็คือ ไป Blu-O โยนโบว์ลิ่ง ผมจะเป็นคนที่ชอบโยนโบว์ลิ่งมาก ถ้าว่างๆ ก็ไป 3 ครั้งต่ออาทิตย์เลย ที่ไปเล่นประจำก็จะเป็นที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า เอสพานาส หรือไม่ก็พารากอน แต่ก็ไม่ใช่คนที่เล่นเก่งมากนะครับ น่าจะกลางๆ แบบพอเล่นได้

(5) โดนแกล้งหนักมาก

ไม่ค่อยมีใครแกล้งผมเท่าไหร่ ปกติจะเป็นคนแกล้ง นอกจากเรื่องหนึ่งที่เพื่อนๆ จะแกล้งผมได้ คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมไม่ค่อยเซลฟ์กับการถอดเสื้อเท่าไหร่ เพื่อนๆ ก็แกล้งจะถอดเสื้อผมให้ได้ ตอนนั้นอยู่ช่วงซ้อมกิจกรรมดาว-เดือนด้วย ก็โดนรุมถอดเสื้อ จับแก้ผ้าหมดเลยเหลือแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว ผมต้องวิ่งหาชุดคืน ไม่ใช่คืนแบบธรรมดาด้วย มีแบบใบ้คำให้ตามหาชุดตามจุดต่างๆ กว่าจะหาครบก็นานอยู่ครับ

(6) น่ารักแบบนี้ก็แห้วมาแล้ว

เคยจีบรุ่นพี่ตอนเข้ามหา’ลัยใหม่ๆ การจีบของผมก็คือขอไลน์เขาครับ พยายามขอเขาอยู่หลายครั้งมากนะ แต่เขาก็ไม่ให้ ตอนนั้นผมก็มั่นใจในตัวเองระดับหนึ่งนะว่าผมก็โอเคอยู่ ส่วนตัวเขาก็มีคนชอบเยอะเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นเพราะผมไม่ตรงสเปกเขามากกว่าก็โอเคไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่ชอบที่เราเป็นตัวเราก็ถอยดีกว่า

(7) สาวยิ้มง่ายอย่างแพทตี้

ผมจะชอบผู้หญิงตัวเล็ก ร่าเริงครับ ยิ้มง่าย ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วรู้สึกสบายใจจะโอเคมาก ไอดอลตามสเปกที่ชอบก็จะเป็นพี่แพทตี้ อังศุมาลินครับ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เคยมีโอกาสได้เจอตัวจริงด้วย รู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารักสดใส ยิ้มเก่งๆ ตรงตามสเปกเลย

ชื่อ : เอริท-ธฤต พลอยเพ็ชร์

การศึกษา : ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้าไทย

วันเกิด : 2 มกราคม 2538

ส่วนสูง : 181 ซม.

หนัก : 66 กก.

สีที่ชอบ : สีแดง

อาหารที่ชอบ : ไข่ยัดไส้

กิจกรรมยามว่าง : อ่านนิยาย

ความสามารถพิเศษ : ฉ่อย, ลิเก

คติประจำใจ : ชีวิตคือการเดิมพัน

ผลงาน : โฆษณาหนังสั้น สมูทอี, โฆษณา ทิวลี่, แกสบี้ แว็กซ์, ซีรี่ส์ พี่ชาย

IG : earththarit

MODEL : THARIT PLOYPHET

PHOTOGRAPHER : CHAIMONGKOL PAWASUTTIKARN

แพทตี้ พัทธกานต์ กฤตภาธร สาวสวยแห่ง วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล  ดูภายนอกหลายคนอาจจะเห็นเธอเป็นคนสวย น่ารัก สเป็คสุดๆ แต่ข้างในจิตใจของเธอก็สวยไม่แพ้กันเลยนะคะ เธอเรียนที่ วิทยาลัยราช ที่สอนเกี่ยวกับล่ามภาษามือ นอกจากจะมีชื่อเสียงใน วิทยาลัยราชสุดา ในเพจคนน่ารัก MU แล้ว  เธอก็ยังเป็นขวัญใจชาวโซเชียล เป็น เน็ตไอดอล สุดน่ารักอีกหนึ่งคนด้วย