แนะนำเทคนิคการเรียนที่น้องๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักสื่อสารมวลชนต้องไม่พลา

สองหนุ่มสาวนักนิเทศศาสตร์รุ่นใหม่ ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทิวลิป-รวิตา เหล็กกล้า และ อะโอม-ธนายุทธ ผดุงเวียง 

เหตุผลที่เลือกก้าวมาเป็นเด็กนิเทศฯ รุ่นใหม่
ทิวลิป : หนูเป็นคนชอบทำกิจกรรม ก็เลยเลือกสาขาวิชาวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อดิจิทัลของที่นี่ เพราะคิดว่ามันกว้าง อยากเรียนด้านตัดต่อ ทำรายการต่างๆ แล้วที่นี่ก็มีทุนการศึกษาหลายประเภท ก็เลยลองสอบมาเป็นทุนศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งแต่ละประเภททุนเราก็จะได้ทำอะไรมากกว่านั้น อย่างหนูนอกจากรำไทยก็จะได้ในส่วนร้องเพลง เต้น ก็เป็นสิ่งที่หนูชอบอยู่แล้ว
อะโอม : ผมเข้ามาด้วยทุนศูนย์ข่าวเยาวชนอาเซียน ด้วยความเป็นนักข่าวมาตั้งแต่ม.ปลาย ก็ติดเข้ามากับเพื่อนสองคน แต่เลือกสาขาวิชาสื่อสารการแสดงร่วมสมัย เพราะอยากลองเรียนทางด้านนี้ดู เป็นคนชอบดูหนัง เห็นนักแสดงแล้วทำไมดูเท่จัง ก็อยากลองทำเหมือนเขาดูบ้าง ส่วนทางด้านสายข่าวเราก็ยังมีทำกิจกรรมให้ที่มออยู่ด้วย

แรกเข้ามาเป็นน้องใหม่
ทิวลิป : ก่อนเข้ามาเรียน หนูได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานรุ่นพี่อยู่แล้ว มาช่วยออกกอง ทำรายการ พอมาได้เรียนเต็มตัวก็เลยสนิทกับพี่ๆ ไวหน่อย รู้สึกว่ามันเป็นการเรียนที่ใช่ ค้นพบว่าตัวเองชอบทางสายพิธีกร ชอบทำงานเบื้องหน้า ส่วนเบื้องหลังก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติมให้มากขึ้น
อะโอม : ตอนแรกที่เข้ามาด้วยความที่ผมไม่รู้จักใครเลย มีแค่เพื่อนที่ได้ทุนมาด้วยกัน แต่ด้วยความเป็นนิเทศฯ จะมีกิจกรรมรับน้อง ทำให้เราสนิทกันได้เร็วขึ้น ก็เริ่มชอบตั้งแต่ตรงนี้ การเรียนก็ชอบตรงที่ได้เรียนปฏิบัติไม่น่าเบื่อ ทุกคนได้ช่วยกัน อย่างนักแสดงก็จะเป็นสาขาผม ผู้กำกับก็เป็นสายฟิล์มไป เรื่องเดียวกัน ก็ดึงมาช่วยกันได้การแสดงก็สนุกตรงที่เราได้เล่นเป็นคนอื่น อยู่ดีๆ ก็เล่นเป็นคนบ้า ทั้งๆ ที่ไม่ได้บ้า ร้องไห้ แต่ไม่ได้เสียใจ แต่มันก็ยากที่เราต้องแสดงให้คนรู้สึกว่าเราบ้าจริงๆ ต้องมีสมาธิในการแอกติ้งออกมา

จุดเด่นความเป็นนิเทศฯ KBU
ทิวลิป : ของหนู อาจารย์จะให้ทำรายการ โดยให้คิดรายการเอง คืออาจจะแค่มีหัวข้อให้เรากลับไปคิดต่อยอดไอเดียแล้วมาขายงานอาจารย์ให้ผ่าน เช่นคิดมา 10 ข้อ เขาอาจจะชอบแค่ 5 เราก็ต้องไปคิดอีก 5 ใหม่ ไปหาความรู้เพิ่มเติม พอเวลาถึงถ่ายทำ อาจารย์ก็จะลงมาลุยกับเด็กด้วย ไปออกกองกับเรา แต่จะแค่คอยแนะนำ แล้วปล่อยให้เราทำด้วยตัวเอง
อะโอม : ปี 1 ผมจะได้ทำละครเวทีเลย ได้ทำทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง อย่างฉากอาจารย์ก็จะให้เด็กลงมาทำฉากเอง การแสดงก็จะให้เด็กได้ลงละครเลย เริ่มตั้งแต่อ่านบท แบ่งว่าใครเล่นเป็นใคร ส่งบทตั้งแต่ 20% ไปจนถึง 80% ทำให้เรารู้สึกว่ามันสนุก ไม่น่าเบื่อ ให้เห็นถึงความคืบหน้า มีการพัฒนาความยากขึ้นเรื่อยๆ

เทคนิคการเรียนในแบบสาวสวยหนุ่มหล่อ
ทิวลิป : เวลาเรียนคือจะใช้ทุกอย่างในชีวิตประจำวันที่เราดู อย่างหนูเน้นทำรายการ เอ็มวี หนังสั้น อาจารย์จะให้ไปฟังเพลงนี้มา ลองไปแปลงเพลงแล้วก็มาทำเอ็มวีเป็นของตัวเอง หรือลองไปถ่ายเอ็มวีทุกช็อตให้เป๊ะตามนั้น ซึ่งหนูชอบนะ มันท้าทายเหมือนเป็นสิ่งที่มืออาชีพเขาทำไว้ แล้วเราต้องไปหาแรงบันดาลใจจากเขาแล้วมาประยุกต์กับตัวเองให้ได้
อะโอม :เน้นดูหนัง ดูละคร ดูซีรีส์ ดูการ์ตูน คือพยายามดูเยอะๆ ว่าเขาเล่นยังไง หรือปรึกษารุ่นพี่ เพื่อนที่เป็นนักแสดง เราก็ใช้มาจากชีวิตประจำวันเราด้วย สมมุติเราอกหัก คนอกหักมันเป็นยังไง เราก็จะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน

คำฮิตติดปากชาวสาขา
ทิวลิป: ส่วนใหญ่วิทยุจะค่อนข้างลุยๆ อาจารย์ก็เหมือนกัน ก็จะเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งในทีมงาน อยู่ใน Production House ของเราด้วย คำที่ติดปากจะชอบพูดว่า “เบาวซ์ว่ะ” หมายถึงอย่าเงียบได้มั้ย เพื่อนพูดอะไรก็นิ่ง มันทำให้มีเดดแอร์
อะโอม : ของผมจะสไตล์เฮฮา กล้าแสดงออก เล่นใหญ่ไว้ก่อน (หัวเราะ) คือส่วนใหญ่อยู่เบื้องหน้าก็ต้องเล่นใหญ่จัดเต็ม คำที่ชอบพูดกันจะเป็นเรื่องการแต่งตัวแสดง จะพูดประมาณว่าวันนี้แต่งหน้า “บ้ง” มาก คือเราต้องแต่งหลากหลาย แต่งเป็นคนแก่บ้าง แต่งเป็นผีบ้าง อะไรแบบนี้

รอน้องๆ มาเป็นชาว CA รุ่นต่อไป
ทิวลิป : สำหรับน้องๆ ที่สนใจด้านนี้ ก็อยากให้หาความชอบของตัวเองให้เจอก่อนว่า 6 สาขาของคณะเรา ชอบสาขาไหนมากที่สุด หรือสาขาไหนที่เป็นตัวเองมากที่สุด แต่ว่าเอาจริงๆ ถ้าเข้ามาเรียนแล้วรู้สึกไม่ชอบ มอเราก็ให้โอกาสโยกย้ายสาขาได้ อยากให้ลองมาเรียนดู มันดีจริงๆ ที่นี่เรามีบุคลากรและห้องปฎิบัติการครบครัน แล้วจากที่เคยได้ยินรุ่นพี่หรือคนอื่นบอกกันว่า เรียนมหา’ลัยน่ากลัว อาจารย์ไม่ตามงาน ไม่สนิทกับเด็กหรอก แต่หนูว่าไม่จริงเลยค่ะ เพราะที่นี่อาจารย์ทุกคนเป็นกันเอง คอยช่วยเหลือพวกเราตลอด เราอยู่กันแบบครอบครัว หนูว่าบางอย่างมันก็สนุกเทียบเท่ากับมัธยมได้เลย