ทำความรู้จักกับเซียงเซียง สาวม.ปลายจากโรงเรียนไทยคริสเตียน ชั้น 5 ลูกครึ่งจีน แถมยังโดนฉายาว่าคนจีนจากเพื่อนๆ อีก ก็แหม! ขาวน่ารักแบบนี้
Monthly Archives: May 2018
รู้จักกันยัง! นักแสดงคลื่นลูกใหม่ แดนนี่-สรพล ลูเซียโน่ จากละครวัยแสบสาแหรกขาด ภาค 2
(1) จากสายคอมฯ มาเป็นนิเทศฯ
ก่อนหน้านี้ก็เรียน ปวช. เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ครับ เราก็ไม่ได้เรียนเก่งเท่าไหร่ด้านวิชาการ เลยเรียนพวกคอมฯ ดีกว่า พอจะเข้ามหา’ลัยเราก็พื้นฐานคอมฯ การตัดต่อ หรืออะไรมาบ้างเลยคิดว่าอยากจะเลือกนิเทศฯ เรียนไปทำงานเบื้องหลังแล้วก็ได้มาสรุปเป็นนิเทศฯ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
(2) เบื้องหลังกับเบื้องหน้า
ตอนนี้ก็มีโอกาสได้ทำงานจริงๆ ได้เดินแบบ ถ่ายงาน ถือเป็นงานเบื้องหน้าที่พอได้ทำแล้วก็รู้สึกชอบครับ แต่ที่ชอบที่สุดคงเป็นการแอคติ้ง ชอบที่เวลาเราแสดงอะไรออกไปแล้วได้รับการตอบรับกลับมา ชอบที่จะสร้างความสุขให้กับผู้อื่น เห็นคนอื่นสนุกหรือมียิ้มเพราะเราแล้วมันรู้สึกดี
(3) ความท้าทายกับงานแรก
เรื่องแรกที่ได้เล่นเป็นละครเวทีพระร่วงเดอะมิวสิคัล คือได้เล่นเป็นอมาตสุโขทัย ชาวบ้านเมืองละโว้ เล่นครั้งแรกก็เกร็งๆ บ้าง แต่ว่าได้รับความรู้ในการแสดงจากเรื่องนี้เยอะเลย ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ในกองหลายคน เพิ่มศักยภาพด้านการแสดงของเราได้มากทีเดียว เพราะละครเวทีเป็นการเล่นที่ต้องสื่อให้ถึงคนดูที่นั่งอยู่ทั่วทั้งฮอลล์
(4) หนุ่มลูกครึ่งกับสเวตเตอร์ตัวโปรด
สไตล์การแต่งตัวผมก็จะชอบใส่เป็นเสื้อเชิ้ตข้างใน แล้วก็ใส่สเวตเตอร์ทับอีกที ใส่กับกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ตลอด จะเป็นคนชอบใส่สเวตเตอร์มาก รู้สึกมันเข้ากับตัวเอง แต่ถ้าร้อนมากๆ ก็ใส่เสื้อยืดสบายๆ ไปเลย
(5) สถานที่พักผ่อนในฝัน
ความฝันของผมเลยคือ อยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ครับ ไปเที่ยวพักผ่อน เพราะว่าเป็นประเทศบ้านเกิดของคุณพ่อผมด้วย อยากไปเจอหิมะเย็นๆ ไม่ได้คิดว่าอยากไปที่ไหน เมืองไหนนะ แต่รู้สึกว่าอยากไปสวิสเฉยๆ เป็นประเทศในฝันเลย
(6) ไม่ต้องสวยก็ตรงสเปกแดนนี่ได้
ไม่ค่อยชอบคนที่สวยหรือว่าหน้าตาดีมาก ผมจะดูที่นิสัย ขอให้เขาเป็นคนดีจริงๆ นิสัยดี รักเราแบบที่ไม่ใช่ว่ารักเราแค่รูปลักษณ์ภายนอก ชอบคนที่เราได้พูดคุยด้วยแล้วเข้ากันได้ อยู่ด้วยกันแล้วมันมีความสุขก็โอเคแล้วครับ ส่วนแบบที่ไม่ชอบก็คนที่ดูถูกคนอื่น พูดจาแย่ๆ กันคนอื่นนี่จะไม่ชอบเลย
ประวัติ
- ชื่อ : แดนนี่-สรพล ลูเซียโน่
- การศึกษา : ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
- วันเกิด : 12 สิงหาคม 2542
- ส่วนสูง : 180 ซม.หนัก : 70 กก.
- กิจกรรมยามว่าง : เล่นฟุตบอล, เล่นกีฬา, นั่งสมาธิ
- ความสามารถพิเศษ : รำโขน, การแสดง
- ฉายา : ฝรั่งดอง
- คติประจำใจ : ถ้าเชื่อในตัวเอง ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
- ผลงาน : ละครเวที พระร่วงเดอะมิวสิคัล, ละคร วัยแสบสาแหรกขาด ภาค 2 ช่อง 3
- IG : danny_lcn
MODEL : SORRAPOL LUCIANO
PHOTOGRAPHER : CHAIMONGKOL PAWASUTTIKARN
อ้ำ-ทัพพ์ธัญ นายแบบสุดหล่อแชร์ประสบการณ์อาชีพในฝัน”สถาปนิก”
“สถาปนิก” ยังคงเป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ แต่เส้นทางนี้จะเท่เรียบหรูดูดีอย่างภาพลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นกันหรือไม่วันนี้นายแบบสุดหล่อเจ้าของตำแหน่งผู้ชนะเลิศ Men’s Fitness Cool Guy Search 2017 by AMERICAN EAGLE OUTFITTERS และ Architectบริษัท Palmer & Turner (Thailand) Ltd.อย่างอ้ำ-ทัพพ์ธัญ วิภวศุทธิ์เจริญ จะมาแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆ ฟัง
INSPIRATION
อ้ำ-ทัพพ์ธัญ เรียนจบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ม.อัสสัมชัญและปริญญาโทด้านบริหารจาก ม.แอสตัน ประเทศอังกฤษแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้เลือกเรียนด้านสถาปัตย์ก็คือการได้ไปเห็นโครงสร้างการออกแบบตึกช้าง แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้หนุ่มคนนี้อยากจะกลายเป็นบุคคลที่ได้ออกแบบตึกสวยๆดีไซน์ใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
HOW TO WORK
ก่อนจะมาเป็นสถาปนิกมือใหม่
“ตอนเรียนเลือกสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพราะสนใจพวกรูปลักษณ์หน้าตาของตึก ตอนเด็กๆ เรามองว่ามันไม่ได้ต่างกันขนาดนั้น แต่จริงๆ แต่ละตึกมันมีความยูนีคของมัน มีองค์ประกอบ เรื่องของไซส์ กฎหมาย ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งพอมาได้เรียนจริงๆ มันก็ยาก เรามองว่าแบบนี้สวยงาม แต่เราต้องมีเหตุผลมาแข็งมายันให้ Advisor เข้าใจว่าทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ตึกทุกตึกมันมี Logic ของมัน สิ่งที่อยู่ในตึก Space ข้างใน ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นยังไง มันถึงจะ Formออกมาเป็น Shape ของตึกได้”
สามปีแรกเข้าสู่โลกความเป็นจริง
“จบแล้วผมก็เริ่มทำงานที่แรกเป็นบริษัท Firm เล็ก เพราะยังไม่มีประสบการณ์มาก เข้าไปตอนแรกเป็นเด็กจบใหม่ที่ดื้อเลยแหละ แล้วไม่ได้ทำงานอย่างที่ตัวเองคิด เพราะเราไม่ใช่คนที่อยู่นิ่งๆ แต่ต้องไปทำงานหน้าคอมทั้งวัน ก็ทำอยู่ได้สักพักออกมาอีกที่ คราวนี้คือเข้าใจเลยว่าตอนเรียนกับการทำงานจริงมันไม่เหมือนกัน ที่นี่คือเปลี่ยนชีวิตผมเลย มันกดดันกว่าที่แรก แล้วที่นี่มันเป็นFirmกลาง เขามีโปรเจกต์ มีความเครียดข้างในเยอะกว่า แล้วทีนี้ผมมาจากที่ๆ เขาไม่ได้กวดขันมาก พอมาทำที่นี่ผมก็ทำงานชิลๆ ของผม ไม่ได้เร่งตามเวลา สุดท้ายเจ้านายเรียกไปด่า เขาไม่ได้ด่าคำหยาบนะ แต่มันมีคำพูดที่กระแทกเข้าไปในใจผม รู้สึกตัวเองโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ผมจำคำนั้นไปทั้งอาทิตย์ แล้วคือมันจะมีคนอยู่สองประเภท ถ้าโดนด่าแล้วกลับบ้านหาพ่อแม่ พ่อแม่ให้ออกมาทำที่บ้าน มันจะเป็นเด็กที่สบาย ไม่มีความคิดที่จะอยากพัฒนาตัวเอง แต่ผมเจอตอนแรกคิดว่าไม่อยากทำแล้ว กลับมาบอกพ่อแม่ที่บ้าน เขาบอกเลยว่ามันคือความจริงที่ต้องเจอ ยังไงต้องฝืนทน ต้องเอาชนะให้ได้ หลังจากนั้นผมก็อยู่ทำงานจนดึกเกือบเที่ยงคืนทุกวัน ใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ รู้สึกว่าผมต้องไม่ยอมนะ ต้องสู้ ถ้าอ่อนปวกเปียกร้องไห้กลับบ้าน สุดท้ายคุณก็ไม่เก่ง ไม่โตสักที”

ทีมเวิร์กในการทำงานสำคัญที่สุด
“ตอนนี้งานที่ทำจะเป็นสเกลโปรเจ็กต์ใหญ่ ตึกสูง ซึ่งไซส์ใหญ่ขนาดนี้เราทำคนเดียวไม่ได้ ตึกมันมีดีเทลเยอะ ทีมเวิร์กเลยสำคัญกว่าการทำงานคนเดียว คือจะต้องเริ่มจากโปรเจคที่บริษัทได้รับมา ทำแบบร่างขั้นต้นและการคำนวณจุดคุ้มทุน (Project Feasibilty)เสร็จแล้วส่งไปทาง Director Design ที่จะดีไซน์หน้าตึกทำกราฟิก หลังจากลูกค้าโอเคเรื่องรูปแบบ เขาก็จะส่งมาให้เราขึ้นแบบก่อสร้าง ซึ่งการเขียนแบบมันจะมีแปลนรูปด้านรับตัดขยายโน่นนี่ เราต้องคุยกับทีมให้รู้เรื่อง ต้องวางแผนกันว่าใครจะทำพาร์ทไหนของตึก แล้วก็การเซ็ทเวลาสำคัญที่สุด เพราะตึกๆ หนึ่งใช้เวลากว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์หลายปีกฏของสถาปนิกไม่ใช่แค่การทำแบบก่อสร้างการทำ Project Feasibiltyหรือการทำกราฟิกดีไซน์อย่างเดียวแต่มันคือขั้นตอนการก่อสร้างทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องรู้ คนอาจจะมองว่างานสถาปนิกสวยหรู แต่จริงๆ ต้องทำงานแข่งกับเวลา สิ่งที่ผมได้จากการทำงานเป็นสถาปนิกเลย คือ ความอดทนเป็นอย่างแรก”

THINKING TO CAMPUS
“ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจในอาชีพนี้ ไม่ได้อยากบอกให้เตรียมตัวอะไร เอาจริงๆเด็กๆ ถ้าจะบอกให้เตรียมตัว เขาคิดไม่ได้ถึงขนาดนั้น อยากให้ทำไปตามธรรมชาติ อย่าไปฝืน ถ้ามันเป็นที่ๆใช่จริงๆ มันก็จะอยู่ของมันไปได้เอง สำหรับเด็กรุ่นใหม่ ถ้าผมจะเลือกรุ่นน้องเข้ามาทำงานสักคน ผมจะมองที่ทัศนคติของเขาก่อน ว่าอนาคตของวิชาชีพเขาต้องการแบบไหน แล้วก็อยากให้คนนั้นมีความแตกต่างที่แบบสเปเชียลอะ ไม่ใช่การท่องหนังสือมาตอบ อยากให้เด็กรุ่นใหม่ทำงานด้วยความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบจนเกินไป”







