ลาวสั่งล็อกดาวน์ทั้งประเทศ สกัดแพร่โควิด-19

นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ออกประกาศคำสั่งพิเศษ เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้ (จันทร์ที่ 30 มีนาคม) ถึง 19 เมษายน หรือจนกว่าจะมีประกาศใหม่ โดยมีข้อความระบุว่า

1.ให้ข้าราชการ (คนงานของรัฐ) ทำงานจากที่บ้าน ยกเว้นทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ไฟฟ้า (สาธารณูปโภค) พนักงานของบริษัท บุคลากรการแพทย์ พยาบาล อาสาสมัคร และบุคคลอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานเพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของโควิด-19

2.ห้ามประชาชนทุกคนออกจากบ้าน ยกเว้นไปซื้ออาหาร ไปหาหมอ ไปทำการเกษตร และไปสถานที่อนุญาตให้ไปได้

3.ห้ามเดินทางข้ามไปจังหวัดอื่นหรือไปพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ ยกเว้นการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ ไปหาหมอ แต่ต้องมีเอกสารรับรองและผ่านการตรวจสุขภาพจากจุดคัดกรองเข้าออกของจังหวัด ซึ่งบริการขนส่งผู้โยสารจะถูกระงับชั่วคราว

4.ห้ามกักตุนหรือเพิ่มราคาสินค้า ที่จำเป็นต่อการป้องกันไสรัส เช่น หน้ากาก เจลล้างมือ ยา อุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ข้าว อาหาร น้ำ โดยตำรวจต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น ใครฝ่าฝืนโดนปรับและโทษทางกฎหมายอื่นๆ

5.ห้ามเผยแพร่ข่าวและข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและตื่นตระหนกในสังคม

6.ห้ามจัดงานที่รวมตัวกันเกิน 10 คนขึ้นไป อาทิ งานแต่งงาน,งานบุญปีใหม่ลาว,งานประเพณี,งานเลี้ยงสังสรรค์ และกิจกรรมทางศาสนา ยกเว้นงานศพ

7.ปิดสถานบันเทิง คาราโอเกะ ร้านเบียร์ ร้านนวด สปา ฟิตเนส ตลาดกลางคืน โรงงานทอผ้า และโรงงานผลิตขนาดใหญ่ ยกเว้นโรงงานที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ

8.ธุรกิจและบริการที่อนุญาตให้เปิด ดังนี้ ธนาคาร สถาบันการเงิน ตลาดหลักทรัพย์ โรงพยาบาล, คลินิกการแพทย์, ร้านขายยา, ทีมกู้ภัย (อุบัติเหตุฉุกเฉิน), ที่ทำการไปรษณีย์, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, สาธารณูปโภค (ไฟฟ้าและน้ำ)

บริการกำจัดขยะ ตลาดเกษตร ร้านค้าสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหารและคาเฟ่ โรงแรมและรีสอร์ตอาจดำเนินการได้ แต่จะต้องให้บริการเฉพาะที่พักและอาหารเท่านั้น

9.ปิดด่านประเพณี ด่านท้องถิ่น สำหรับด่านสากล ยังเปิดแบบมีเงื่อนไข

พระเอกหนุ่ม ศรราม ลั่นไม่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย

หลังจากที่ ติ๊ก กนิษฐรินทร์ และ หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ถูกคู่กรณีไปแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงหน้ากากอนามัย เป็นเงินเกือบล้านบาท ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. หนุ่ม ศรราม ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ว่า

การจะทำผิดคดีฉ้อโกง ผมและภรรยาจะต้องมีสินค้าเยอะๆ ที่บ้าน มาขายทางออนไลน์ แล้วมีคนมาร้องเรียน นั่นคือสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย ภรรยาผม ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมทางภาครัฐ ผมพูดตรงๆ ผมรับแทนภรรยา ตอนแรกจะขายหน้ากาก แต่ถ้าผิดกฎหมายเราไม่ทำ เราเลยยอมเสียเงินค่ามัดจำ เพื่อทำตามนโยบายภาครัฐ

ภรรยาผมก็พยายามติดต่อคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย พยายามโทรศัพท์ไปบอกคู่กรณีว่าเงินมัดจำที่ส่งมา ไม่ใช่เงินของเรา เงินของเรา เรายอมทิ้ง เพราะไม่ได้อยากทำผิดกฎหมาย เราอยากจะขายของ แต่เมื่อผิดกฎหมายเราก็หยุด

แต่คู่กรณีอยากได้เงินคืน เราก็พยายามโทรหา แต่อีกฝ่ายไม่รับโทรศัพท์ และบอกให้ติดต่อทนายความ จนถึงวันนี้ เราเพิ่งได้รับจดหมายและข้อความ แต่เรารอจะชำระค่าเสียหาย 9 แสนบาท

กระทั่ง วันนี้คู่กรณีไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ภรรยาผมก็ติดต่อพันตำรวจโท ที่ สน.หัวหมาก เพื่อให้ท่านช่วยประสานงานกับคู่กรณี ให้มาเอาเช็ค ผมไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ผมไม่มีทางทำ

ผมขอฝากไปถึงคู่กรณี ถ้าได้รับข้อความแล้วให้มารับเงินคืน 9 แสนบาท ติดต่อมาทางใดทางหนึ่งที่คุณทำเหมือนตอนอยากได้หน้ากาก คุณทำอย่างนั้นแหละ เพราะทางเราไม่สนับสนุนที่ผิดกฎหมาย

ในเรื่องของการฉ้อโกง เราไม่เคยมีเจตนาแบบนั้น เราพยายามติดต่อแต่คุณไม่ได้รับสายเลย เงิน 9 แสนที่เตรียมไว้ก็มาเอาได้เลย บ้านผมอยู่ลาดพร้าวสามารถมาตรวจดูการสต็อกหน้ากากอนามัยได้เลย ว่าไม่มี ผมไม่ได้ทำอะไรเลย โดนผลกระทบเหมือนทุกคน แต่ที่ไลฟ์เพราะอยากให้เข้าใจว่าผมสับสนมากกับสำนักงานทนายความ และผมก็หาตัวคู่กรณีไม่เจอ จริงๆ