สธ.สาวจีนเสียชีวิตเชียงใหม่ ไม่ใช่ติดไวรัสโคโรนา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์คนไทยในเมืองอู่ฮั่นของจีนรับมือไวรัสโคโรนาว่า ขณะนี้อาจจะอยู่ในสภาวะตึงเครียดจากสถานการณ์โรคปอดติดเชื้อจากไวรัสโคโรน่า 2019 แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีใครในประเทศจีนที่เป็นคนไทยป่วย

ซึ่งการจะดำเนินการไปรับกลับมายังประเทศไทยต้องมีขั้นตอนและกระบวนการตามระเบียบ ยืนยันทุกอย่างต้องมีการตรวจคัดกรองว่าปลอดเชื้อ 100% โดยยืนยันว่าการไปรับคนกลับมาจะต้องมีมาตรฐานที่ทำให้เกิดความมั่นใจตามมาตรฐานสากล ไม่มีการนำเชื้อไวรัสกลับมา

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอย้ำว่าให้ประชาชนติดตามการแถลงถึงสถานการณ์จากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ตนกลับมาจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นไปตามปกติ ประชาชนในจังหวัดมีความตื่นตัวและตระหนักถึงวิธีการป้องกันให้ตัวเองปลอดภัย

และยืนยันไม่มีผู้ป่วยที่เชื้อไวรัสโคโรน่าและเสียชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงในเขตจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนด้วย ซึ่งตัวเองเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อเช้านี้ ถ้ามีผู้เสียชีวิตจริงรัฐมนตรีเองและคณะทำงานจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

โดยขอให้ตรวจสอบว่าเป็นโพสต์จากไหน ในตอนนี้มีหน่วยแพทย์กระทรวงฯ และหน่วยแพทย์ทหารคอยพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขอฝากประชาชนอย่าตื่นตระหนกและมีความกังวล แต่เข้าใจว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้หลายคนอยู่ในภาวะตึงเครียด แต่ขอย้ำว่าทุกคนมีประสบการณ์สามารถรับมือในสถานการณ์นี้ได้

ทั้งนี้ หากมีชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ก็จะคัดกรองอย่างละเอียดและสามารถติดตามตัวได้ทุกคน ทุกคนได้รับการชี้แจงถึงข้อปฏิบัติระหว่างอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโรค ตัวเองในฐานะประธานคณะทำงานมีความมั่นใจอย่างมาก

สื่อจีนขอแจง ข่าวชาวอู่ฮั่นทะลักเข้าไทย 5 ล้านคน

จากกรณีที่เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังมีสื่อไทยนำเสนอข่าวอ้างเป็นถ้อยคำจากปากของนายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น พื้นที่ที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา ว่า มีประชาชนในเมืองกว่า 5 ล้านคน ออกนอกประเทศ โดยมีปลายทางที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ก่อนที่จะมีคำสั่งประกาศเปิดเมืองป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อชนิดนี้ จนสร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ที่ทราบข่าวจำนวนมากนั้น

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา เพจ จริยธรรมวารสารศาสตร์ ได้มีการโพสต์ข้อความจาก China Media Group ซึ่งเป็นสื่อทางการจีน ที่ได้ออกมาชี้แจ้งถึงเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า

ข้อมูลที่สื่อไทยได้นำเสนอไปมีความคลาดเคลื่อน เป็นอย่างมาก ซึ่งความเป็นจริงคือ มีคนจีนเดินทางมายังประเทศไทยจริง ในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 62- 22 ม.ค. 63 แต่ไม่ได้ระบุว่าคนจีนกลุ่มดังกล่าวเป็นประชาชนในเมืองอู่ฮั่น ที่หนีการระบาดของไวรัส ก่อนที่จะมีคำสั่งปิดเมือง

ขณะที่ข้อความทั้งหมดระบุว่า China Media Group ของทางการจีน แจ้งผ่านนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ว่า ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน ดังนี้

ตลอดช่วงระยะเวลาสัมภาษณ์สดในรายการความยาว 26:30 นาที นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น ไม่ได้พูดถึงประเด็นการเดินทางออกนอกเมืองของชาวอู่ฮั่นในช่วงเทศกาลตรุษจีนเลย
ข้อมูลทางการของจีนเอง ก็ไม่เคยกล่าวหรือระบุตัวเลขชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
ข้อเท็จจริงมีเพียงว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีน เชื่อว่ามีคนต่างเมืองที่ทำงานอยู่ในเมืองอู่ฮั่นราวร้อยละ 60 จากจำนวนหลายล้านคน เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาที่เป็นบ้านเกิดภายในมณฑลหูเป่ย

ส่วนที่เกี่ยวกับต่างประเทศนั้น มีข้อเท็จจริงยืนยันจากตารางเที่ยวบินที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติ “อู่ฮั่น เทียนเหอ” ระหว่าง 30 ธันวาคม 2562 ถึง 22 มกราคม 2563 มีสนามบินปลายทางที่อยู่ใน 20 อันดับ โดย 3 แห่ง อยู่ในประเทศไทย คือ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง และ ภูเก็ต เท่านั้น

ทั้งนี้ ไม่ได้ระบุจำนวนผู้โดยสารที่เป็นชาวอู่ฮั่นในเที่ยวบินดังกล่าว จึงยังไม่มีตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการว่า มีชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน ออกจากประเทศจีนก่อนช่วงตรุษจีนอย่างที่เป็นข่าว

เพื่อนร่วมวิชาชีพโปรดพิจารณาข้อทักท้วงนี้ด้วย

กรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
กรรมการควบคุมจรรยาบรรณ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
29 มกราคม 2563