สำนักข่าวซินหัว เผยแพร่ภาพความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงพยาบาลหั่วเสินซาน ขนาด 25,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางเพื่อการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แห่งแรก ในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน

โดยโรงพยาบาลหั่วเสินซานจะมีเตียงผู้ป่วยราว 1,000 หลัง คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ โดยอ้างอิงรูปแบบการก่อสร้างจากโรงพยาบาลเสี่ยวทังซาน ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเคยใช้รักษาผู้ป่วยโรคซาร์ส ที่ระบาดอย่างรวดเร็วในจีนเมื่อปี 2003

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้กล่าวถึงมาตรการในการควบคุมไวรัสในครั้งนี้ ว่า ประชาชนควรเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าการตรวจด่วน การรายงานด่วน การกักกันด่วน การวินิจฉัยด่วน และการรักษาผู้ป่วยด่วน เป็นวิธีที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

โดย อู๋ฮ่าว ผู้อำนวยการศูนย์บริการสุขภาพชุมชนฟางจวงในกรุงปักกิ่งกล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ว่าตามที่สื่อได้รายงานสถานการณ์ของโรคอย่างต่อเนื่อง ประชาชนควรตระหนักถึงความเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาด เนื่องจากการจัดการด้านสุขภาพในชุมชนยังคงต้องการแรงขับเคลื่อนจากสังคมทั้งหมด

“มาตรการป้องกันและควบคุมที่ครอบคลุมดังกล่าวเป็นหนทางที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในที่สุด”อู๋กล่าว

ทั้งนี้ อู๋ยังได้แนะนำวิธีการปฏิบัติในการร่วมกันป้องกันโรค และกล่าวว่ารัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเสริมมาตรการมากมายเพื่อช่วยให้พลเมืองตระหนักว่าความไม่สะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและครอบครัว นอกจากนี้ การให้ความร่วมมือถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่ประชาชนพึงมี

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าได้รับรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า อีก 6 ราย เมื่อวานนี้หลังหัวไกด์พาลูกทัวร์มาตรวจ และได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้ทราบแล้ว

ซึ่งทั้ง 6 คน เป็นเครือญาติกันและเดินทางมาในกรุ๊ปทัวร์เดียวกัน ส่วน 8 คน เดิมที่ทางกระทรวงสาธารณสุขดูแลอยู่ ขณะนี้หายเดินทางกลับไปแล้ว 3 อีก 2 รายกำลังจะกลับ ส่วนอีก 3 ราย ได้รับรายงานว่าหายแล้ว แต่ต้องรอผลการตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันว่าหายเป็นปกติหรือไม่

การพบผู้ป่วยเพิ่ม คือการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ยังได้กล่าวต่ออีกว่า ขออย่ามองว่าการที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นความล้มเหลว แต่ในทางการแพทย์ยิ่งพบเยอะขึ้น ถือเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อรักษาและควบคุมไม่ได้

แต่ตอนนี้ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขเอาอยู่ แต่สิ่งสำคัญคือกำลังใจ ขออย่าดุด่าว่ากล่าวเพราะไม่สร้างสรรค์ อาจจะแนะแนวตำหนิได้และพร้อมรับฟังเมื่อมีเหตุผล

คาดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา น่าจะไม่เกิน 6 เดือน

นายอนุทิน ยังได้ประเมินร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา น่าจะกินเวลาไปประมาณ 6 เดือน เพราะโรคซาร์และเมอร์สก็แพร่ระบาดประมาณ 9 เดือน แต่ไวรัสโคโรนาทางประเทศต้นทางมีการปิดเมือง ก็คาดว่าน่าจะควบคุมได้เร็วกว่า

ยืนยัน การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามหลักสากล แต่ไม่สามารถห้ามผู้ป่วยเดินทางได้ และระหว่างเดินทางอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่ตอนนี้ยังสามารถควบคุมได้ ที่สำคัญเชื้อไวรัสโคโรนาเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับโรคซาร์สและเมอร์ส ยังอันตรายเท่า

สำหรับคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ได้มีการเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พี่เคยทำงานร่วมกันในสมัยโรคซาร์สและหวัดนกระบาด แต่ยอมรับ ส่วนตัวไม่สามารถสั่งการได้ทุกคน แต่หากใครไม่ทำงานจะฟ้องนา

ยันเป็นไปไม่ได้ นทท. ป่วยแต่ไม่เข้ารับการรักษา

สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษา คนไทยไม่ต้องกังวล เพราะว่ามีสิทธิ์ประกันสุขภาพ แต่สำหรับชาวจีน เราก็ดูแล หากเขาจ่ายได้ก็จ่าย แต่หากจ่ายไม่ได้ก็ถือว่าเป็นการดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อต่อ

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังปฏิเสธว่า เป็นไปไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวพบว่าตัวเองมีอาการป่วยและจะไม่เดินทางมาโรงพยาบาล เพราะเมื่อเขามีปัญญาเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็ถือว่าต้องมีวุฒิภาวะพอ ว่าเมื่อเกิดอาการจะต้องทำอย่างไร และต้องไปรักษาที่ไหน