เนื่องด้วยประเทศจีน มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น ชายฝั่งทะเลในจีนจึงไม่ค่อยมีความสวยงามมากนัก ชาวจีนจึงนิยมมาเที่ยวทะเลในประเทศไทย พักผ่อนให้ร่างกายได้รับไออุ่น สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติเมืองร้อน ลิ้มรสอาหารรสเลิศ โดยเฉพาะผลไม้ คนจีนจะชอบมาก อีกทั้งตลาดน้ำ วัดวาอารามต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

กรุงเทพมหานคร

ภูเก็ต

เชียงใหม่

เกาะสมุยสุราษฎร์ธานี

พระนครศรีอยุธยา

พัทยา ชลบุรี

เชียงราย

หมู่เกาะพีพี กระบี่

อัมพวา สมุทรสงคราม

กาญจนบุรี

ข้อมูลอ้างอิง : www.thaibizchina.com  เรียบเรียงโดย : Travel MThai

เจพาร์ค (J-Park) เป็น คอมมิวนิตี้มอลล์หรือห้างสรรพสินค้าสไตล์อเวนิว ที่จำลองบรรยากาศหมู่บ้านญี่ปุ่นย่อมๆ ให้มีลักษณะรูปแบบเหมือนสมัยเมืองเอโดะของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ

J-Park ตั้งอยู่ที่ย่านถนนสายศรีราชา-หนองค้อค่ะ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์คือสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เหมือนเราได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปสมัยซามูไร

ทั่งบรรยากาศทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกไม้และโคมไฟกระดาษญี่ปุ่น มันทำให้เราอย่างเดินเล่นชมอารยธรรมดั้งเดิม ที่ถูกถ่ายทอดมาไว้ใน J park แห่งนี้

บรรยากาศของที่นี่ นอกจากจะตกแต่งด้วยต้นซากุระจำลองและโคมไฟญี่ปุ่นแล้ว ยังจะมีตกแต่งอาคารต่างๆ ของประดับอย่างตุ๊กตาดะรุมะ ซึ่งเป็นตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่นมีลักษณะกลมไม่มีแขนและขา โดยหน้าตาจะคล้ายคลึงกับพระโพธิธรรม (ซึ่งชื่อว่าดะรุมะในภาษาญี่ปุ่น) มีหมวดและเครา โดยส่วนมากตุ๊กตาดะรุมะจะมีสีแดง แต่อาจจะมีสีอื่นบ้างตรงบริเวณคางจะมีการเขียนคำขอพรไว้

หรือแม้กระทั่งสวนหย่อม ก็ตกแต่งเป็นแบบของญี่ปุ่นดั้งเดิมเป๊ะๆ และด้วยย่านนี้เป็นแหล่งรวมของชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในศรีราชา ทำให้ตกเย็นจะมีคนญี่ปุ่นออกมาเดินเล่นกันเยอะแยะทีเดียว ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนรู้สึกว่าอยู่ในประเทศญี่ปุ่นจริงๆ

จากบริเวณด้านหน้า ก็เดินมาถึงด้านหลังจะเห็นปราสาทโบราณสีทองสวย สะดุดตาค่ะ ยอดโดมมีรูปปั้นวัวตั้งสง่าโดดเด่นอยู่ตรงกลางในแบบฉบับพระราชวังญึ่ปุ่น ราวกับเป็นแลนมาร์คของที่นี่มีสระน้ำล้อมรอบมี สะพานสีแดงสร้างให้เดินข้ามแม่น้ำแล้วก็มีม้านั่งสำหรับนั่งพักชมวิวดูปลา

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะมีสองชั้น โดยชั้นล่างเป็นร้านขายของ Daiso และร้านขายของอื่นๆ อย่าง Max Value กับร้านขายยาญี่ปุ่นชื่อทรึรุฮะ (Tsuruha Drug Store) ที่เป็นทั้งร้านขายยาและเป็นทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เลย

ที่นี่ยังมีร้านอาหารทั้งซูชิราเมนบุฟเฟต์ ชาบูขนมหวานเค้ก และก็มีร้านขายของเบ็ตเตล็ด ให้เดินช้อปปิ้งซึมซับบรรยากาศกันได้ไม่มีเบื่อ

แล้วมานั่งเล่นเดินเล่นในบรรยากาศบ้านโอนิซึกะโซเรียวดูสักครั้ง อาจจะติดใจกลับไทยไม่ถูกเลยทีเดียว

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com

ดอยเมี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน

ดอยเมี่ยง สวรรค์แห่งใหม่แห่งเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นดอยสูงประมาณ 1,600 เมตร ภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้นและภูเขาสลับซับซ้อน อุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เช่น ต้นสน และต้นมะค่า มีจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นเมืองปายได้แบบ 360 องศา มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่คุณไม่ควรพลาด

แก่งชมดาว จ.อุบลราชธานี

แก่งชมดาว ตั้งอยู่ที่ อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เป็นแก่งหินที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำวน จนเกิดเป็นผาหินและแอ่งหลุมรูปทรงแปลกตาซึ่งจะมีน้ำสีเขียวใสปรากฏให้เห็นอยู่ตลอด ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ยามเช้าและช่วงโพล้เพล้ เพราะแสงจะสวยมากๆ  ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาเที่ยวคือ ตั้งแต่เดือน มกราคม – มิถุนายน

เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต

หลังจากถูกปิดไว้นานนับสิบปี เกาะสวรรค์แห่งนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว เกาะเล็กๆ บรรยากาศโรแมนติกเงียบสงบเป็นส่วนตัว จนได้รับฉายาว่า Honeymoon Private Island เหมาะกับคู่รักที่จะมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อย่างยิ่ง ด้วยน้ำทะเลสีเขียวใสบริสุทธิ์ และความสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะ รวมทั้งโลกใต้ทะเล ที่รอให้คุณมาแหวกว่ายจนชุ่มฉ่ำ รับรองจะต้องติดใจจนไม่อยากกลับบ้านเลย

วัดม่วง จ. อ่างทอง

สักการะ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ พระ พุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ก่อสร้างเป็นคานคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นชั้นๆ แบบโครงสร้างตึกสูง 93 เมตร เที่ยบเท่าตึก 32 ชั้น ก่ออิฐถือปูนฉาบทาสีทอง ตลอดทั้งองค์ ภาพแบบนี้ หาดูที่ไหนไม่มีแน่นอน วัดม่วงตั้งอยู่ที่ ต.หัวสะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

น้ำตกถ้ำพระภูวัว  บึงกาฬ

น้ำตกถ้ำพระ หรือชื่อเต็มว่า น้ำตกถ้ำพระภูวัว อยู่ระหว่างรอยต่อของอำเภอเซกา กับอำเภอบึงโขงหลง น้ำตกที่นี่มีความสวยงามมาก น้ำที่ไหลมาตามชั้นหินสีเทาสลับน้ำตาล ที่ลดหลั่นกันไปลงมาสู่บริเวณลานกว้าง และมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังคงอยู่ น้ำตกจะมี 3 ชั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ นิยมที่จะเล่นน้ำ ณ บริเวณชั้นที่ 2 เพราะจะมีลานกว้างแมกไม้ดอกไม้ป่านานาพันธุ์ผลิดอกออกช่ออย่างสวยสดงดงาม