10 ที่เที่ยว เดือนมีนาคม ลุยแดด ท้าลมร้อน ไปพักผ่อนช่วงซัมเมอร์

เหมือนเพิ่งจะพ้นปีใหม่ได้ไม่นาน หลาย ๆ คน ก็คงไปเที่ยวหน้าหนาว สูดโอโซนซึมซับธรรมชาติ ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างเต็มอิ่ม มารู้ตัวอีกที ก็เข้าสู่เดือนที่ 3 ของปีแล้ว พ่วงด้วยฤดูร้อน ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแทนที่ฤดูหนาว Travel.MThai จึงขอแนะนำ 10 ที่เที่ยว เดือนมีนาคม ต้อนรับซัมเมอร์นี้ รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ เลือกไปพักร้อนกันมากมากมาย จะมีที่ไหนถูกใจใครบ้าง ดูกันเลยค่ะ

10 ที่เที่ยว เดือนมีนาคม ลุยแดด
ท้าลมร้อน ไปพักผ่อนช่วงซัมเมอร์

1. เขาช่องกระจก จ.ประจวบคีรีขันธ์

เขาช่องกระจก มีที่มาจากช่องโหว่ ที่ดูคล้ายกรอบของกระจก ซึ่งการเดินสู่ยอดเขาต้องขึ้นบันไดคอนกรีต 396 ขั้น ระหว่างทางเราจะเจอเจ้าจ๋อแสนซนวิ่งเข้ามาทักทายเต็มไปหมด ด้านบนประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง และพระบรมสารีริกธาตุ กราบสักการะเสร็จแล้ว สามารถยืนชมทัศนียภาพของเมืองประจวบฯ  รวมถึงอ่าวประจวบฯ ได้กว้างไกลและสวยงาม

2. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี

สายแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาด กับการพิชิตถ้ำใหญ่ยักษ์หลายถ้ำที่อุทยานแห่งชาติคำคลองงู หนึ่งในนั้นคือ ถ้ำเสาหิน ที่มีเสาหินปูนธรรมชาติสูงที่สุดในโลก และถ้ำนกนางแอ่น ที่มีประติมากรรมหินงอกหินย้อยสวยงาม ซึ่งทั้งสองถ้ำคุณต้องสวมชูชีพเดินลุยป่า ว่ายน้ำ กระโดดน้ำ ลอยคอ เดินทางราบสลับกับปีนป่ายโขดหินบ้าง เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างจะท้าทายอย่างมาก โดยจะเปิดให้เที่ยวชมเพียงปีละ 2 เดือน ในปีนี้ (2562) เปิดตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2562 ถึง วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 แค่วันเสาร์ อาทิตย์ อังคาร และพุธ เท่านั้น

3. ดอกเสี้ยวบาน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง

ใครว่าเข้าหน้าร้อนแล้ว จะหาดอกไม้สวย ๆ ดูไม่ได้ แนะนำให้มาเที่ยว เทศกาลดอกเสี้ยวบาน ณ บ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง จะพบกับดอกเสี้ยวสีขาวอมชมพู บานสะพรั่งเต็มสองฝั่งถนน โอบล้อมด้วยภูเขารอบด้าน พร้อมสัมผัสอากาศเย็นสบายของชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองอย่าง ยำใบเหมี้ยง ดอกเสี้ยวชุบแป้งทอด ไส้อั่วเห็ดหอม ฯลฯ จิบกาแฟสด ชิมชาใบเมี่ยง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สินค้าโอทอป ชมการแสดงจากชาวเขาเผ่าต่าง ๆ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง

โดยเทศกาลดอกเสี้ยวบาน ณ บ้านป่าเหมี้ยง ครั้งที่ 18 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2562

4. เกาะเสม็ด จ.ระยอง

อ่าวไผ่

หาดแสงเทียน

อากาศร้อน ๆ แบบนี้ หนีไปโดดลงน้ำทะเลที่ เกาะเสม็ด กันดีกว่า ซึ่งมีหาดต่าง ๆ มากมายถึง 16 หาดเลยทีเดียว เช่น  หาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว อ่าวกิ่ว อ่าวแสงเทียน อ่าวหวาย อ่าวทับทิม อ่าวนวล อ่าวน้อยหน่า ฯลฯ หากใครชอบความครึกครื้น ตกดึกมีโชว์ควงกระบองโฟ และเสียงเพลงจากผับ แนะนำให้ไปอ่าวไผ่ แต่ถ้าชอบความสงบ ทะเลใสสุด ๆ ก็ปลีกวิเวกมาอยู่อ่าวนวล หรือการนั่งชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่ อ่าวพร้าว กับแฟนสองต่อสอง ที่นักท่องเที่ยวหลายคนยืนยันว่าสวยจับใจ ก็เป็นช้อยส์ที่น่าสนใจไม่น้อยค่ะ

5. โดดน้ำ ล่องแพ จ.กาญจนบุรี

ไปเที่ยวกาญจนบุรี นอกจากจะได้มาซึมซับบรรยากาศดี ๆ และธรรมชาติที่สมบูรณ์แล้วนัน หนึ่งกิจกรรมที่เราต้องทำก็คือการโดดน้ำ ล่องแพ เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ซึ่งตอนนี้ก็มีที่พักลอยแพให้ได้เลือกกันหลากหลาย และแต่ละที่ก็จะมีกิจกรรมให้เราได้ทำกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย เลือกเอาที่ชอบตามนี้เลย

6. น้ำตกนางรอง จ.นครนายก

น้ำตกนางรอง เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีแอ่งให้ลงเล่นน้ำ สามารถเล่นได้ทุกฤดูกาล แต่หน้าฝนควรระมัดระมังเป็นพิเศษ เพราะกระแสน้ำจะเชี่ยวแรง ส่วนใครอยากชมวิวน้ำตก ต้องเดินไปตามสะพานที่สร้างเอาไว้ให้เราได้มายืนชมวิวอยู่ตรงกลางลำธาร เห็นสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากเขาอย่างสวยงาม

7. อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่ เป็นสถานที่ค้นคว้าและวิจัยในเรื่องระบบนิเวศทางธรรมชาติ ด้านในมีเส้นทางเดินชมป่า ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร มีศาลานั่งพักเป็นระยะ ตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ เช่น โกงกาง แสม ลำพู ฯลฯ พร้อมชมสัตว์น้ำตัวเล็ก ๆ อย่างปลาตีน ปูแสม และแมงดาทะเล จุดสำคัญสุดท้ายคือ ศาลาชมวิว ที่สร้างยื่นออกไปในอ่าว จากจุดนี้สามารถมองเห็นแนวป่าชายเลนที่ทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำอย่างสวยงาม

8. เกาะตาชัย จ.พังงา

จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของ “เกาะตาชัย” คือ หาดทรายขาวเม็ดละเอียด ซึ่งมีความยาวทอดตัวขนานกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินท่องป่า สัมผัสชีวิต ปูไก่ ปูน้ำจืด ส่วนใครที่ชอบอยู่ใต้น้ำต้องไม่ผิดหวังกับแนวปะการังที่ทอดตัวยาวตลอดหาด เป็นจุดดำน้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย “เกาะตาชัย” เหมาะกับการกางเต็นท์ นอนเล่น กินลม ชมทะเล สุขสงบจนลืมเสียงแตร ควันพิษ เลิกคิด เลิกเครียดกันไปเลย ช่วงเวลาที่งดงามที่สุด คือ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน หลังจากนั้นจะมีการปิดเกาะ 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู

9. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าโปร่ง มีต้นน้ำมาจากผืนป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบไปด้วยน้ำตกชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น สายน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาผ่านชั้นหิน ลักษณะคล้ายแก่งกว้าง ๆ ที่มีแอ่งน้ำตื้น ๆ รองรับหลายจุด สามารถลงเล่นน้ำ หรือ ปูเสื่อนั่งพักผ่อนริมลำธารกันตามอัธยาศัย

10. ล่องแพไม้ไผ่ บ้านวังหอน จ.นครศรีธรรมราช

ไปล่องแพไม้ไผ่ ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง ฟินไปกับสายน้ำเย็น ๆ ลำธารใส ๆ สีฟ้าเขียวของคลองวังหอน คลองธรรมชาติที่เกิดจากป่าต้นน้ำของเทือกเขาบรรทัดที่ไหลลงสู่แม่น้ำปากพนัง พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีกเพียบ เช่น ชมป่าต้นน้ำเขื่อน เที่ยวถ้ำ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชิมฝรั่งปลอดสารพิษ ทำอาหารจากผักที่ปลูกเอง เลี้ยงปลาไว้ทำอาหารเอง ฯลฯ และถ้าใครอยากพักผ่อนเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ  ก็มีทั้งเต็นท์ และกระท่อมไม้ไผ่ ให้เรานอนชิลล์ ๆ ท่ามกลางผืนป่าอันร่มรื่นอีกด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก : tat8, ล่องแพบ้านวังหอน Baan wang hon bamboorafting, อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park, wikipedia,

สุภัทรา ริเวอร์ เฮ้าส์

สุภัทรา ริเวอร์ เฮ้าส์ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับวัดระฆังโฆษิตาราม ความโดดเด่นของที่นี่คือบรรยากาศแบบไทยๆ ภายในร้านที่ปรับปรุงจากบ้านทรงไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ แบ่งที่นั่งออกเป็น 3 โซน คือ บ้านไทย 2 ชั้น เป็นที่นั่งในห้องแอร์เย็นสบาย ตกแต่งแบบไทยๆ และมีห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงด้วย บ้านคุณหญิง เป็นเรือนไทยริมน้ำบรรยากาศอบอุ่น และเทอเรซริมน้ำ โปร่งโล่ง นั่งสบายยามเย็น สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.30 น. (Last Order 14.00 น.) และ 17.00-23.00 น. (Last Order 22.00 น.)

ลาบเป็ดร่อน

น้ำพริกลงเรือปลาดุกฟู

ผัดพริกขิงหมูกรอบไข่เค็ม

ฟูจิครบุรี โคราช จุดเช็คอินแห่งใหม่ สุดชิลล์ วิวอย่างว้าว!

ท่าน้ำวัดตลิ่งชัน จุดชมวิวแห่งใหม่ ในอำเภอครบุรี โคราช มองเห็นลำน้ำมูล และยอดเขาจอมทอง ที่มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิ จึงถูกตั้งฉายาว่า ฟูจิครครบุรี สวยงามมากโดยเฉพาะยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ฟูจิครบุรี โคราช จุดเช็คอินแห่งใหม่
สุดชิลล์ วิวอย่างว้าว!

ณ บ้านตลิ่งชัน ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ผู้นำชุมชนและชาวบ้านช่วยกันแปลงสภาพท่าเรือบริเวณท่าน้ำวัดตลิ่งชัน ให้กลายเป็นสะพานไม้ไผ่ยกสูง ไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินชมแม่น้ำ หรือนั่งห้อยขารับลมเย็น ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแบบลูกทุ่ง ๆ ที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ  เมื่อมองไปข้างหน้าก็จะเห็น “เขาจอมทอง” ตั้งตระหง่าน รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายภูเขาไฟฟูจิที่ญี่ปุ่น คนที่นี่เลยตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า ฟูจิครบุรี ซะเลย

นอกจากที่ท่าน้ำวัดตลิ่งชันแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาจอมทอง ด้วยการเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 600 ขั้น ผ่านดงป่าไผ่ที่เขียวขจีบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์

ด้านบนมีพระพุทธชินราชองค์จำลองประดิษฐานอยู่ และไฮไลท์อีกอย่างคือช่องเขารูปหัวใจ ลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่สองก้อน วางชนกันจนเกิดเป็นช่องรูปหัวใจ ซึ่งบนยอดเขานี้ สามารถชมธรรมชาติด้านล่างได้มุมมอง 360 องศา ทั้งสันเขื่อนลำมูลบน รวมถึงแนวเขาสลับซับซ้อนในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ตอนเช้าถ้าอากาศดีก็อาจมีทะเลหมอกโผล่มาทักทาย

ขอบคุณรูปภาพจาก : ก๊ะนี่ครบุรี, Phimphakan Phumphuang, Wisut Singse