น้ำตกตาดกวางสี สวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง

1

ประเทศลาว เป็นอีกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมแห่งทวีปเอเชีย เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ ภูมิประเทศมีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน อีกทั้งผู้คนและวัฒนธรรมอันเรียบง่ายแต่มากล้นด้วยเสน่ห์ แน่นอนว่า travel.mthai.com จะพาคุณไปเที่ยวลาว ขอพาคุณไปชมความงามของ น้ำตกตาดกวางสี สวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง

น้ำตกตาดกวางสี
สวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง

2 3

“น้ำตกตาดกวางสี” หรือ น้ำตกกวางสี น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง เป็นน้ำตกหินปูน สูงราว 70 เมตรมีสองชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตกและสามารถเลาะข้างน้ำตกไปชมน้ำตกชั้นบนสามมารถเล่นน้ำบริเวณลำธารได้ นอกจากจะชื่นชมความงามของน้ำตกแล้ว ยังหาซื้อของที่ระลึกที่ทางเข้าน้ำตก ซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ทำจากไม่ไผ่เป็นของใช้หลายชนิด และมีร้านอาหารตามสั่งให้บริการอยู่หลายร้าน น้ำตกกวางชีมีน้ำตลอดปี ในฤดูร้อนน้ำจะน้อย

4 5 6

น้ำตกกวางสี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวแถบยุโรปนิยมมาผจญภัยกัน น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากหลวงพระบางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 30 กิโลเมตร เสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 กีบ (ประมาณ 40 บาท) โดยจะเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.30 น.

7 8

ขอบคุณรูปภาพจาก :

คุณมนัส ฟักศรี : www.facebook.com/moomor  /  คุณพชร เกรียงเกร็ด : www.facebook.com/littlesk8er

ข้อมูลจาก : www.oceansmile.com  /  เรียบเรียงโดย : Travel MThai 

 

ชวนเที่ยว กาฬสินธุ์ กับ 3 ถิ่นสุดยอดแดนอีสาน

1

กาฬสินธุ์ เป็นถิ่นได้โนเสาร์ แต่คราวนี้ เราไม่ได้แวะไปพิพิธภัณฑ์ชมไดโนเสาร์ แต่เรามาเก็บบรรยากาศธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ดีๆ ให้ชุ่มฉ่ำตา ชุ่มฉ่ำปอด เพราะในดินแดนอีสานแห่งนี้ มีอะไรน่าท่องเที่ยวกว่าที่คุณคิด

ชวนเที่ยว กาฬสินธุ์ กับ 3 ถิ่นสุดยอดแดนอีสาน

2

ภาพจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ที่รอยต่อระหว่าง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กับ อำเภอหนองกุงศรี และอำเภอยางตลาด มีเขื้อนกั้นลำน้ำแห่งหนึ่ง ที่แสนจะสวยคลาสิค เพราะเป็นลักษณะของเขื่อนดิน รูปทรงธรรมชาติ สวยงาม สูงขึ้นมาจากท้องน้ำ ราวๆ 30 เมตร เขื่อนที่ว่านั่นก็คือ “เขื่อนลำปาว”

การเดินทางไป ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 209 ทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แยกขวามือเข้าเขื่อนลำปาวตามถนนลาดยาง 26 กิโลเมตรสันเขื่อนยาว 7.8 เมตร กว้าง 8 เมตร

3

ภาพจาก kruyuyi.blogspot.com

เขื่อนนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยาง และเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้แก่ หาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน

ใครจะเชื่อว่าอีสานก็มีชายหาด แม้จะไม่ใช่ทะเล แต่ก็เป็นหาดที่นี่เป็นแหล่งตากอากาศของชาวบ้านกาฬสินธุ์ได้ อารมณ์ก็เหมือนได้ไปเที่ยวชายทะเล หลายคนเวลามาก็จะมานั่งหามุมร่ม ๆ ปูเสื่อสั่งอาหารมาทานกันก็ได้ เสื่อบริการฟรี ถ้าสั่งอาหารกับเจ้าไหน เขาจะตามเอาเสื่อมาปูให้

4

ภาพจาก http://travelinkalasin.com

หาดดอกเกด อยู่บริเวณทะเลสาบตรงหัวเขื่อนติดกับ สนง.โครงการเขื่อน เป็นชายหาดกรวด ไม่ลึกชัน น้ำใสสะอาดในฤดูแล้งหาดจะกว้างใหญ่ขึ้น บรรยากาศที่นี่ดูไปก็คล้ายบางแสนก่อนที่จะปรับปรุงล่าสุด ที่นี่ในวันหยุดมีผู้คนไปพักผ่อนเล่นน้ำกันมาก มีทั้งร้านอาหารและเครื่องเล่นทางน้ำหลากชนิดบริการ และมีศาลาพักร้อนเถียงนาน้อย ซุ้มดอกเห็ด แวดล้อมไปด้วยสวนหย่อม ปลูกไม้ดอกไม้ ประดับสวยงาม ร่มรื่นดี

เหตุที่ได้ชื่อ “หาดดอกเกด” ก็เพราะมีต้น “การะเกด” ซึ่งเป็นไม้ พื้นเมืองปลูกปะปนอยู่กับต้นไม้อื่นเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อเวลาออกดอกจะส่งกลิ่นหอมอบอวลชวนชื่นใจยิ่งนัก

ใครจะไปหาดดอกเกด ก็ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 209 (กาฬสินธุ์-มหาสารคาม) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถใช้ได้ คือ เส้นทางสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ แยกเลี้ยวซ้ายผ่านอุทยานสัตว์ป่าลำปาว โดยใช้ถนนบนสันเขื่อน หรือถนนแนวหลังสันเขื่อนได้อีกเส้นทางหนึ่ง

5

ภาพจาก http://travelinkalasin.com

เที่ยวกันจนเกือบเย็นย่ำ ไม่รอดูพระอาทิตย์ลับของฟ้านั้นก็กะไรอยู่ แล้วที่กาฬสินธุ์นี่ ก็มีเป็นผืนดินที่ยื่นเข้าไปในบริเวณอ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สุดแสนจะโรแมนติคไม่แพ้แหลมพรหมเทพเลยทีเดียว

ชาวบ้านเรียกที่ตรงนี้ว่า “แหลมโนนวิเศษ” พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่สวยงาม มีลักษณะเป็นผืนดินยื่นเข้าไปในเขื่อนลำปาวน้ำก็ล้อมเข้ามาแล้วท่วมไม่ถึงเนินดินที่สูงขึ้นซึ่งมีลักษณะเป็นแหลม คำว่าโนน(ภาษาถิ่น)มาจากคำว่าเนิน เป็นลักษณะของดินที่สูง จึงเรียกแหลมโนนวิเศษ ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นแหลมโนนวิเศษเนื่องจากการกร่อนเสียงของภาษาจาก “พิเศษ” เป็น “วิเศษ” โดยมีความหมายใกล้เคียงกัน และวิเศษมีความหมายที่ดี ชาวบ้านจึงเรียก “แหลมโนนวิเศษ” มาจนถึงปัจจุบันนี้

6

ภาพจาก nonburee.com

ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามเหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะที่จะพาสมาชิกในครอบครัวมาเที่ยวและมาปิกนิก ทุกช่วงเย็นในฤดูร้อนและฤดูหนาวจะมีผู้มาเที่ยวตากอากาศพักผ่อน เล่นน้ำ บ้างก็เล่นกีฬาทางน้ำ ตกปลา หาหอยน้ำจืดเพื่อมาบริโภค นับว่าเป็นทรัพยากรทางน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำจืดนานาพันธ์

เมื่อมองมาทางทิศตะวันออกจากแหลมโนนวิเศษสามารถมองเห็นภูกุ้มข้าวและภูสิงห์ ถือเป็นที่ปิดท้ายความประทับใจของการมากาฬสินธุ์ครั้งนี้เลย

ที่มา : emaginfo.com

เรียบเรียงโดย : Travel MThai

 

หนีไปใช้ชีวิตคูลๆ กับ 10 ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน

1

หนีไปใช้ชีวิตคูลๆ กับ 10 ที่เที่ยว
เดือนพฤศจิกายน

สายฝนเริ่มจางลง ลมหนาวก็เข้ามาทักทาย ใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เรามีตัวเลือกมาให้เลือกกันตามชอบ แต่ละที่เรียกได้ว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น ไม่ไปไม่ได้ เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งขึ้นเขา ดูหมอก สูดกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้ และยังมีวิวสวยๆ หน้าหนาวให้ได้เก็บภาพจนจุใจ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

  1. ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ
    จังหวัดแม่ฮ่องสอน

2

ดอกบัวตองนั้นงามอยู่บนยอดดอย~~ … เทศกาลทุ่งบัวตองกำลังจะเวียนมาอีกครั้ง ที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะบานสะพรั่งสีเหลืองอร่ามทั่วทั้งภูเขาช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มาพร้อมกับลมหนาว สัญญาณเตือนของการออกเที่ยวขึ้นเหนือ นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครอยากเห็นกับตาต้องจัดสรรเวลาไปให้เหมาะไม่งั้นต้องรอถึงปีหน้าเชียวนะ

จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมความสวยของ ทุ่งบัวตอง คือ บริเวณยอดดอยซึ่งมีความสูง 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สามารถขึ้นไปกางเต็นท์ค้างแรมบนยอดดอย ถ้าโชคดีอาจได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชนท้องถิ่นที่มาเสริมสร้างให้บรรยากาศสนุกสนานเป็นพิเศษ

*******************************************************************

  1. เทศกาลลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ
    จังหวัดสุโขทัย

3

ขอบคุณรูปภาพจาก: งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2560

“เทศกาลลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ” ประเพณีเก่าแก่ยาวนานของจังหวัดสุโขทัย จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2560 เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่หลายคนอยากมาชมความวิจิตรตระการตาที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัยก็คือ กระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีลักษณะเป็นยอดดอกบัวตูม ประดิษฐ์ตามแบบเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ต้นแบบสุโขทัย นอกจากนี้ภายในงานยังคึกคักด้วยบรรยากาศตลาดโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้ออาหารคาวหวานพื้นเมือง มีกิจกรรมขบวนแห่นางนพมาศ ประกวดกระทงเล็ก-กระทงใหญ่ และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก

4 5

*******************************************************************

  1. ฟลอร่า พาร์ค & โรส พาร์ค
    จังหวัดนครราชสีมา

6

มหกรรมงานดอกไม้ประดับนับล้านๆ ดอก “ฟลอร่า พาร์ค & โรส พาร์ค” (Flora Park & Rose Park) พร้อมเปิดสวนให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 – 30 เมษายน 2561 ภายใต้ธีม “ดอกไม้ เทพนิยาย สายรุ้ง” สวนสวยกลางหุบเขาและไอหมอกแห่งวังน้ำเขียว มีเนื้อที่กว่า 70 ไร่ เราจะรู้สึกตัวเล็กลงทันทีเมื่อเข้ามาเยือน ด้านในมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้แอคได้หลายท่า หลายมุม บรรยากาศโรแมนติกเหมือนอยู่ในเทพนิยายจริงๆ มีทั้งดอกไม้เมืองหนาว อาทิ เทียนฝรั่ง ซัลเวีย บานชื่น พิทูเนีย บีโกเนีย ฟอเก็ตมีน็อต ฯลฯ ซุ้มอุโมงค์ไม้ไผ่ที่มีไม้เลื้อยพันรอบเป็นเถาวัลย์ แปลงองุ่นสายพันธุ์แบล็คโอปอร์ รูทเพอร์เรท และเรดลิ้นจี่ แปลงกุหลาบ English Rose ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วไร่ จุดไฮไลท์คือ หอชมวิวฟลอร่า (Flora Tower View) เมื่อมองลงมาจะเห็นเป็นเขาวงกตดอกไม้หลายสีสันสวยงามละลานตา พร้อมชมทัศนียภาพรอบสวนแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมี “โครงการศูนย์เรียนรู้ฟลอร่าพาร์ค” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้เราเรียนรู้การเพาะพันธุ์และผลิตดอกไม้ประดับ การเลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผักออแกนิค ที่สำคัญอย่าพลาดชิม เมล่อนสายพันธุ์ฟ้าประทาน ซึ่งทางไร่คอนเฟิร์มว่าหวาน หอม กรอบ อร่อย!!

7 8

*******************************************************************

  1. ดอยหลวงเชียงดาว
    จังหวัดเชียงใหม่

9

เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของหมู่วัยรุ่นคงหนีไม่พ้นจังหวัดเชียงใหม่ และแน่นอนว่า ดอยหลวงเชียงดาว ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คนรักทะเลหมอกอยากขึ้นมากอดลมหนาว สูดอากาศเย็นๆ ดื่มดับธรรมชาติแบบหนำใจ บนความสูง 2,225 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เมื่อขึ้นมาบนยอด คุณจะพบกับอีก 2 ดอยอยู่เบื้องหน้า นั่นก็คือ ดอยสามพี่น้อง และดอยพีรามิด เป็นภาพที่งดงามจับตา ในส่วนของที่พัก มีทั้งแบบกางเต็นท์ และโฮมสเตย์หลายหลัง ให้คุณได้มาพักผ่อนฟินๆ มีทะเลหมอกมาปลุกถึงเตียง และที่พักส่วนมากจะมีบริการอาหารเย็นด้วย เป็นอาหารเย็นพื้นเมืองแบบขันโตก ยกมาเสิร์ฟไว้หน้าที่พัก คุณจะได้นั่งทานข้าวไปพร้อมๆ กับชมบรรยากาศรอบๆ ตัว ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจและอิ่มท้องในคราวเดียวกัน

10 11

*******************************************************************

  1. เขาสันหนอกวัว
    จังหวัดกาญจนบุรี

12

เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยานฯ มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ คำว่าสันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนก หรือหนอก

13

วิวบนยอดเขา เป็นภูเขาหญ้า คล้ายเขาช้างเผือก มีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บังทัศนียภาพ จึงสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้สุดลูกหูลูกตา เห็นทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ และภูเขาสลับซับซ้อนเบื้องล่าง

*******************************************************************

  1. เขาพะเนินทุ่ง
    จังหวัดเพชรบุรี

14

เขาพะเนินทุ่ง แหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงฯ อยู่ในอุทยานแห่งแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูลวงตา” ด้วยเพราะมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี จนไม่สามารถมองเห็นภูเขาเบื้องหน้าได้ และหมอกเปลี่ยนทิศทางอยู่เป็นประจำ ทำให้ยากต่อการจดจำว่าเป็นเขาลูกไหน ซึ่งมีลักษณะเหมือนโดนบังตา หรือลวงตานั่งเอง

15

โดยทะเลหมอกเกิดขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นไม้ ที่คลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนกลายเป็นทะเลหมอกหนาตา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันในช่วงเช้า เมื่อหมอกเริ่มจาง ป่าดงดิบเบื้องล่างและต้นไม้น้อยใหญ่ก็ค่อย ๆ ปรากฏพร้อมกับภาพทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 สำหรับช่วงที่ทะเลหมอกถูกยอมรับว่าสวยที่สุด และมีอากาศเย็นสบายที่สุด คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกัน

*******************************************************************

  1. อุทยานแห่งชาติภูเรือ
    จังหวัดเลย

16

ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ต้นคริสต์มาสจะเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีแดงสดพร้อมๆ กัน ซึ่งในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย แหล่งปลูกและจำหน่ายต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะมีสีสันมากขึ้นจากสีแดงของต้นคริสต์มาส โดยที่ลานต้นคริสต์มาส บริเวณถนนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ จะถูกประดับประดาตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสจนกลายเป็นทุ่งคริสต์มาสที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จนถึงปลายเดือนมกราคมของทุกปี

*******************************************************************

  1. ทุ่งทานตะวัน
    จังหวัดลพบุรี

17

เมื่อถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เจ้าดอกทานตะวันนับแสนต้นก็พร้อมใจกันเชิดหน้าชูคอท้าพระอาทิตย์ เหลืองอร่ามไปทั่วจังหวัดลพบุรี มีไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปอยู่ 2 จุด คือ ทุ่งทานตะวันที่บ้านหัวดง และเขาจีนแล แต่และแห่งสวยงามแตกต่างกันไป อย่างที่เขาจีนแล ซึ่งได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยที่สุดของจังหวัดลพบุรี ดอกทานตะวันบานสะพรั่งกลางหุบเขา มีแบล็คกราวน์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวอยู่ไกลลิบๆ ประดิษฐานอยู่บนเขา ซึ่งเป็นพระพุทธรุปของวัดเวฬุวัน คนที่มาเที่ยว ณ จุดนี้ จึงมีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการด้วย ส่วนที่บ้านหัวดงนั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยภูมิทัศน์ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาเตี้ย ๆ มีทุ่งนา ทุ่งข้าวโพด กระท่อมปลายนาเป็นฉากหลัง หวนให้นึกถึงบรรยากาศแบบลูกทุ่ง แต่แฝงไปด้วยความร่วมสมัย ทำให้อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้ดู ช่วงเวลาแนะนำคือช่วงเช้าตรู่ไปจนถึง 10 โมงเช้า

18 19

*******************************************************************

  1. ทุ่งดอกเก๊กฮวย
    จังหวัดเชียงใหม่

20 21

ทุ่งดอกเก๊กฮวย สีขาวนวลสวย ที่เบ่งบานรับลมหนาวอยู่นี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านอมลอง ต.แม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ดอกเก๊กฮวยจะออกดอกบาน ช่วงปลายๆ เดือนตุลาคม ถึง กลางเดือนธันวาคม เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และบานที่สุดในช่วงพฤศจิกายน บรรยากาศดูน่ารัก โรแมนติก เคล้าไปกับกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวย บอกเลยว่าคนชอบ (เป็นนางแบบ) ถ่ายภาพต้องชอบแน่ๆ ซึ่งถ้าใครมีโอกาสเจอเจ้าของสวนกำลังเก็บดอกเก๊กฮวยอยู่ละก็ สามารถเข้าไปช่วยเขาเก็บได้ค่ะ แต่ต้องขออนุญาตก่อน เพื่อให้เขาสอนวิธีการเก็บที่ถูกต้อง

*******************************************************************

  1. ภูลังกา บ้านสวน
    จังหวัดพะเยา

22 23

ภูลังกาบ้านสวน อีกหนึ่งที่พักหน้าหนาว ยืนดูทะเลหมอกชิลๆ หน้าห้องพัก หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นหูดีคือ ภูลังการีสอร์ท บ้านพักขนาดกระทัดรัด ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา บนเขาภูลังกา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของจังหวัดพะเยา ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่าย มีวิวด้านล่างเป็นแอ่งกระทะ และเขาหินปูนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายสลับกัน ไฮไลค์ของการมาพักผ่อนคือการตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นหน้ารีสอร์ท ที่ส่องแสงกระทบกับทะเลหมอกในแอ่ง เกิดภาพสวยงามเกินจินตนาการ

ได้จุดเช็คอินแจ่มๆ รับลมหนาวแรกของปีกันแล้ว ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งหงอยอยู่ในบ้าน จับมือเพื่อน ควงแขนแฟน ออกไปเที่ยวกินฟินยาวๆ กันทั้งเดือน ช้าหมดอดเห็นวิวแจ่มไม่รู้ด้วยนะ