Fisherman’s Market ยกเมนูปลามาขึ้นบก ห้องอาหารเดอะแสควร์ โนโวเทล เพลินจิต

image001

โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท ขอต้อนรับคุณด้วยบรรยากาศแบบหมู่บ้านชาวประมง พร้อมยกเมนูปลามาขึ้นบก กับเทศกาล Fisherman’s Market คัดเฉพาะปลาทะเลสด เนื้อแน่น มาให้คุณได้อิ่มอร่อยแบบสุขภาพดี ตลอดเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2558 นี้ ณ ห้องอาหารเดอะ แสควร์

พบกับสารพันเมนูปลาทะเลที่พร้อมเสิร์ฟในแบบเอเชียและยุโรป ไม่ว่าจะเป็นปลาสำลี ปลาดาบ หรือปลากระพงห่อใบตองย่างบนเตาถ่านหอมกรุ่นแบบไทยๆ พร้อมน้ำจิ้มรสจัดจ้าน หรือจะเลือกลิ้มรสปลาทะเลอบสไตล์ยุโรปก็ฟินน์ไม่น้อย

นอกจากนี้ ห้องอาหารเดอะแสควร์ยังเสริฟเมนูปลาดิบแบบญี่ปุ่น และอาหารเมนูปลาอีกมากมายในไลน์บุฟเฟต์ แล้วปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวานนานาชนิด ไอศครีม และผลไม้สด ให้คุณได้เลือกทานจนพอใจ Fisherman’s Market บุฟเฟต์มื้อค่ำ เสริฟทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี ระหว่างเวลา 18.00-22.00น. ในราคาเพียงท่านละ 960++ บาท พร้อมรับสิทธิ์ มา2จ่าย1 สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ สมาชิกบัตรแอคคอร์ แอดเวนเทจพลัสรับส่วนลด 50% สูงสุด 6ท่าน

“Fisherman’s Market” เทศกาล “ยกปลาทะเลขึ้นบก”– ห้องอาหารเดอะ แสควร์
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 5 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2558
เปิดให้บริการ: วันจันทร์- วันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 18.00-22.00 น.
ราคาต่อท่าน: 960++ บาท/ท่าน (พร้อมข้อเสนอ มา-2-จ่าย-1 สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
สมาชิกบัตรแอคคอร์ แอดเวนเทจพลัสรับส่วนลด 50% สูงสุด 6 ท่าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 02-305 6000 ต่อ 1632
หรือ www.novotelbangkokploenchit.com/th/special-offers/the- square/

 

ที่มา

http://food.mthai.com/

 

5 เมือง เชียง ที่น่าไปมากที่สุดแห่งปี

  1. เชียงคำ

อำเภอหนึ่งของจังหวัดพะเยา นามว่าเชียงคำ ที่กันว่าเป็นอำเภอที่มีความเจริญทางด้านต่างๆ เทียบเท่ากับตัวจังหวัด

image001

 

  1. เชียงม่วน

อีกหนึ่งอำเภอในพะเยา ที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้กันคือ เชียงม่วน สำหรับเชียงคำแล้ว คือเมืองวัฒนธรรม แต่สำหรับเชียงม่วน ถือเป็นเมืองธรรมชาติแห่งประวัติศาสตร์มากกว่า

ที่เที่ยวในเชียงม่วน ที่น่าสนใจจะมี ฝั่งต้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ฝั่งต้าไชยสถาน มีลักษณะของการกัดเซาะพังทลายของดินภูเขาเตี้ยๆ ทำให้เกิดรูปร่างคล้ายเสาแหลมๆเรียงรายติดต่อกันเป็นแนวยาวประมาณ 200 เมตร มีความสูงประมาณ 25 เมตร

image003

 

บนยอดเขาฝั่งต้าแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวและพักผ่อนได้ มีเนื้อที่ค่อนข้างราบประมาณ ๓ ไร่ สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามรอบด้าน ใกล้ๆกันมีสระน้ำอยู่ด้านหน้า มีสถานที่จัดไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ สามารถมองเห็นฝั่งต้าถัดไปจากสระน้ำแห่งนี้

ที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเชียงม่วน คือ วนอุทยานไดโนเสาร์เชียงม่วน-แก่งหลวง สถานที่ค้นพบไดโนเสาร์แห่งแรกที่ในภาคเหนือ

image004

มีคณะสำรวจเข้ามาทำการขุดค้นพบซากกระดูกไดโนเสาร์วางตัวเรียงต่อกันในแนว ทิศเหนือ-ทิศใต้ จำนวน ๑๐๔ ชิ้น เป็นซากไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีคอยาว หางยาว เดิน ๔ ขา และกินพืชเป็นอาหาร

ใกล้ๆ กันเป็นที่ตั้งของแก่งหลวง เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่ตั้งขวางลำน้ำยม ริมสองฝั่งเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ เป็นที่พักผ่อนของคนเชียงม่วน ช่วงฤดูฝนสามารถนั่งแพล่องแก่งได้

  1. เชียงคาน

image005

เชียงคาน เมืองเล็กๆ เมืองนี้เป็นที่คุ้นหูกันดี บอกเลยว่าใครที่ยังไม่เคยมา แนะนำให้รีบมา เชียงคานคือเมืองริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน

image006

 

บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอยเล็กๆ ตลอด ถนนศรีเชียงคาน ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโฮมสเตย์จำนวนมาก

ตกตอนเย็น ก็จะมีถนนคนเดินให้นักท่องเที่ยวได้มาช้อปปิ้งกัน มีสินค้าและของพื้นเมืองต่างๆ ให้คุณได้เลือกสรร มากมาย ท่ามกลางลมหนาว วิวทิวทัศน์ริมฝั่งโขงอันงดงาม

  1. เชียงของ

image007

เมืองเงียบๆ แต่วิวสวยเป็นบ้า บอกเลยว่า ต้องมา…เชียงของ บรรยากาศริมโขง และบ้านเรือนที่ปลูกสร้างกันตามไหล่เข้า ลดหลั่นเป็นชั้นสวยงาม ไอหมอกที่ฝั่งลาวลอยล่องอยู่ในหุบเขา สวยงามจับตามากๆ

อำเภอเชียงของ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 114 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอำเภอเชียงแสน-เชียงของ ทางหลวงหมายเลข 1129 เป็นทางเลียบฝั่งโขง นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างกับต้องมนต์แล้ว ยังมีที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นั้นคือบ้านหาดบ้าย

image008

บ้านหาดบ้าย เป็นหมู่บ้านของชาวไทยลื้อ ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ ถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีงดงามน่าสนใจ โดยเฉพาะฝีมือการทอผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงจากอำเภอเชียงของ หากจะไปเที่ยวชมวิถีชาวไทลื้อ ก็สามารถนั่งเรือหางยาวไปยังบ้านหาดบ้าย โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือบั๊ค ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง และยังได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งโขงอันสวยงามอีกด้วย ถือว่าคุ้มค่า

 

  1. เชียงแสน

เชียงแสน เมืองมนต์เสน่ห์แห่งชายแดน 3 ดินแดน ไทย ลาว พม่า

image009

จะมาเที่ยวเชียงแสนก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะ สบรวก หรือ ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ อยู่ห่างจากเชียงแสนไปทางทิศเหนือ ๙ กิโลเมตร ตามถนนเลียบริมแม่น้ำโขง

สบรวกเป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว มาพบกับแม่น้ำรวกซึ่งกั้นดินแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศพม่า จากจุดนี้จะมองเห็นดินแดนที่เรียกกันว่า สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเชื่อมดินแดน ๓ ประเทศ คือไทย ลาว พม่า เข้าด้วยกัน และถ้าจะนั่งเรือเช่าไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำก็ได้ ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที

นอกจากสบรวกแล้ว ถ้าอยากชมประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา แนะนำว่า ให้ไปเยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากบริเวณเมืองโบราณเชียงแสนและพื้นที่ ใกล้เคียง เช่น ลวดลายปูนปั้นฝีมือล้านนา พระพุทธรูปและศิลาจารึกจากเชียงแสนและจากจังหวัดพะเยา

image010

มีการจัดแสดงศิลปะพื้นบ้านของชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อและชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น เครื่องเขิน เครื่องดนตรี เครื่องประดับ นานาชนิด รับรองว่า อิ่มกับวัฒนธรรมในเชียงแสนไปแบบเต็มๆ

2 สถานที่ ดินเนอร์สุดสวีต ฉลองวันวาเลนไทน์

Vertigo Grill & Moon Bar

image001

“Vertigo” ต้นตำรับห้องอาหารกริลล์แบบเปิดโล่งบนชั้นดาดฟ้า จุดเด่นของที่นี่คือการรับชมทัศนียภาพ 360 องศาทั่วกรุง รวมถึงอาหารที่อร่อย เข้ากับบรรยากาศยามค่ำคืน และหลังจากทานเสร็จแล้วก็ไปชิลล์ต่อที่Moon Bar จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวจากมุมสูงที่ส่องแสงแพรวพราวระยิบระยับ ดูแล้วก็โรแมนติกไม่น้อย

สถานที่ตั้ง : ชั้น 61 โรงแรมบายันทรี ถนนสาทรใต้ เขตสาทร กรุงเทพ

เปิด-ปิด : 17.00 – 01.00 (บาร์) / 18.30 – 23.00 (ห้องอาหาร)

โทรศัพท์ : 02-6791200  เว็บไซต์ : www.banyantree.com

In the mood for love

image002

“In the mood for love” ซูชิบาร์แอนด์บิสโทร ร้านอาหารญี่ปุ่นเก๋ๆ ตกแต่งด้วยบรรยากาศที่ได้กลิ่นอายความเป็นจีนในยุค1960 หรือ สไตล์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้นั่นเอง ทำให้ที่นี่ดูมีเสน่ห์เฉพาะตัว สร้างความโรแมนติกได้อีกแบบ ส่วนอาหารจะเน้นเป็น Japanese fusion food ที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นดั้งเดิม แต่จะเป็นแบบไหน คุณต้องมาลองเอง

สถานที่ตั้ง : สุขุมวิท36 (ใกล้บีทีเอสทองหล่อ) ถนนสุขุมวิท วัฒนา กรุงเทพ

เปิด-ปิด : 17.30 – 24.00 (หยุดทุกวันจันทร์)

โทรศัพท์ : 02-661-5076  เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro