ผจญภัยสุดขอบฟ้า ดอยภูแว จังหวัดน่าน

image001

ดอยภูแว ตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตามเส้นทาง ปัว-บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ เป็นยอดเขาทุ่งหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีความงดงาม รูปทรงแปลกตา เต็มไปด้วยหินผา ทุ่งหญ้าที่เกาะกุมยอดเขาสูงนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดน่าน เล่าขานกันมาว่าเขาสูงที่หนาวเย็นแห่งนี้ เป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษชาวน่าน หนทางแม้จะเหน็ดเหนื่อยยาวไกล แต่สิ่งที่นักผจญภัยจะได้พบ ย่อมคุ้มค่า

image002

ด้วยความสูง 1,837 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง ในระยะทางกว่า 8 กม. กว่า คุณจะพบกับจุดชมวิว 360 องศา กับทะเลหมอกสุดแสนตระการตา ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวบนยอดภู พร้อมกับอากาศสุดหนาวเหน็บ แค่นี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อย ที่นักผจญภัยทุกท่านจะต้องประทับใจ

image003

ดอยภูแว เป็นยอดเขาที่สวยที่สุดของเทือกเขาภูคา มีทางเดินขึ้น 2 เส้นทาง คือทางบ้านด่าน ทางสูงชันแต่ใกล้ และทางบ้านปางควาย ทางไม่สูงชัน แต่ไกลกว่า ไฮไลท์สำคัญอยู่ในช่วงบ่ายแก่ๆ ทุ่งหญ้าสีเขียวสดยามโดนแดดส่อง จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองตามแสงแดด เป็นภาพที่คุณจะไม่มีวันลืม

image004

image005

การเดินทาง

จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 (ไปอำเภอปัว) ระยะทาง 35 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว – บ่อเกลือ – เฉลิมพระเกียรติ) ถึงกิโลเมตรที่ 24 – 25 เลี้ยวซ้ายเข้าที่ทำการอุทยานฯ รวมระยะทางจากตัวเมืองน่าน 60 กิโลเมตร

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 5473 1623, 0 5470 1000, 08 2194 1349

4 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง

image001

  1. ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งยอดฮิตของภาคเหนือ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และดอยปุย ที่นี่มีที่พักคอยให้บริการ แต่ควรสอบถามล่วงหน้าก่อน ที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944053 หรือ 053-222014

image002

  1. ขุนแม่ยะ จ.แม่ฮ่องสอน

ขุนแม่ยะ หรือเป็นที่รู้จักในนาม “หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ อยู่ในเส้นทางหลวง 1095 แม่มาลัย-ปาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 053-248491, 053-819349 หรือ ททท. เชียงใหม่ โทร. 053-2761640

image003

  1. สถานีเกษตรหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่

เป็นโครงการหลวงที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ การเดินทางให้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรที่ 31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง จากนั้นเลี้ยวขวาไป 18 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานีเกษตรหลวงขุนวาง ชมดอกซากุระให้เต็มอิ่ม หากต้องการที่พัก ที่นี่ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ที่ ติดต่อได้ที่ 053 114 133 , 081 960 2033

image004

  1. สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.นาน้อย จ.น่าน เลยจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ประมาณ 2 กิโลเมตรภายในถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ชมพูสะพรั่งเต็มไปหมด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทร. 081-6023199, 088-8055928, 090-0501049

image005

 

ที่มา http://travel.mthai.com/

ชวนเที่ยว กาฬสินธุ์ กับ 3 ถิ่นสุดยอดแดนอีสาน

image001

ที่รอยต่อระหว่าง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กับ อำเภอหนองกุงศรี และอำเภอยางตลาด มีเขื้อนกั้นลำน้ำแห่งหนึ่ง ที่แสนจะสวยคลาสิค เพราะเป็นลักษณะของเขื่อนดิน รูปทรงธรรมชาติ สวยงาม สูงขึ้นมาจากท้องน้ำ ราวๆ 30 เมตร เขื่อนที่ว่านั่นก็คือ เขื่อนลำปาว

การเดินทางไป ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 209 ทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แยกขวามือเข้าเขื่อนลำปาวตามถนนลาดยาง 26 กิโลเมตรสันเขื่อนยาว 7.8 เมตร กว้าง 8 เมตร

image002

เขื่อนนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยาง และเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้แก่ หาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน

ใครจะเชื่อว่าอีสานก็มีชายหาด แม้จะไม่ใช่ทะเล แต่ก็เป็นหาดที่นี่เป็นแหล่งตากอากาศของชาวบ้านกาฬสินธุ์ได้ อารมณ์ก็เหมือนได้ไปเที่ยวชายทะเล หลายคนเวลามาก็จะมานั่งหามุมร่ม ๆ ปูเสื่อสั่งอาหารมาทานกันก็ได้ เสื่อบริการฟรี ถ้าสั่งอาหารกับเจ้าไหน เขาจะตามเอาเสื่อมาปูให้

image003

หาดดอกเกด อยู่บริเวณทะเลสาบตรงหัวเขื่อนติดกับ สนง.โครงการเขื่อน เป็นชายหาดกรวด ไม่ลึกชัน น้ำใสสะอาดในฤดูแล้งหาดจะกว้างใหญ่ขึ้น บรรยากาศที่นี่ดูไปก็คล้ายบางแสนก่อนที่จะปรับปรุงล่าสุด ที่นี่ในวันหยุดมีผู้คนไปพักผ่อนเล่นน้ำกันมาก มีทั้งร้านอาหารและเครื่องเล่นทางน้ำหลากชนิดบริการ และมีศาลาพักร้อนเถียงนาน้อย ซุ้มดอกเห็ด แวดล้อมไปด้วยสวนหย่อม ปลูกไม้ดอกไม้ ประดับสวยงาม ร่มรื่นดี

เหตุที่ได้ชื่อ “หาดดอกเกด ก็เพราะมีต้น การะเกด ซึ่งเป็นไม้ พื้นเมืองปลูกปะปนอยู่กับต้นไม้อื่นเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อเวลาออกดอกจะส่งกลิ่นหอมอบอวลชวนชื่นใจยิ่งนัก

ใครจะไปหาดดอกเกด ก็ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 209 (กาฬสินธุ์-มหาสารคาม) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถใช้ได้ คือ เส้นทางสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ แยกเลี้ยวซ้ายผ่านอุทยานสัตว์ป่าลำปาว โดยใช้ถนนบนสันเขื่อน หรือถนนแนวหลังสันเขื่อนได้อีกเส้นทางหนึ่ง

image004

เที่ยวกันจนเกือบเย็นย่ำ ไม่รอดูพระอาทิตย์ลับของฟ้านั้นก็กะไรอยู่ แล้วที่กาฬสินธุ์นี่ ก็มีเป็นผืนดินที่ยื่นเข้าไปในบริเวณอ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สุดแสนจะโรแมนติคไม่แพ้แหลมพรหมเทพเลยทีเดียว

ชาวบ้านเรียกที่ตรงนี้ว่า แหลมโนนวิเศษ พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่สวยงาม มีลักษณะเป็นผืนดินยื่นเข้าไปในเขื่อนลำปาวน้ำก็ล้อมเข้ามาแล้วท่วมไม่ถึงเนินดินที่สูงขึ้นซึ่งมีลักษณะเป็นแหลม คำว่าโนน(ภาษาถิ่น)มาจากคำว่าเนิน เป็นลักษณะของดินที่สูง จึงเรียกแหลมโนนวิเศษ ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นแหลมโนนวิเศษเนื่องจากการกร่อนเสียงของภาษาจาก “พิเศษ” เป็น “วิเศษ” โดยมีความหมายใกล้เคียงกัน และวิเศษมีความหมายที่ดี ชาวบ้านจึงเรียก แหลมโนนวิเศษ มาจนถึงปัจจุบันนี้

image005

ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามเหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะที่จะพาสมาชิกในครอบครัวมาเที่ยวและมาปิกนิก ทุกช่วงเย็นในฤดูร้อนและฤดูหนาวจะมีผู้มาเที่ยวตากอากาศพักผ่อน เล่นน้ำ บ้างก็เล่นกีฬาทางน้ำ ตกปลา หาหอยน้ำจืดเพื่อมาบริโภค นับว่าเป็นทรัพยากรทางน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำจืดนานาพันธ์

เมื่อมองมาทางทิศตะวันออกจากแหลมโนนวิเศษสามารถมองเห็นภูกุ้มข้าวและภูสิงห์ ถือเป็นที่ปิดท้ายความประทับใจของการมากาฬสินธุ์ครั้งนี้เลย

ที่มา

http://travel.mthai.com/