วางเรื่องเครียดตรงหน้า แล้วพักชมสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ นี่มันไม่ใช่การโฆษณา แต่เรากำลังเสนอ สถานที่ทางธรรมชาติ ที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แม้เราจะไม่ค่อยมีเวลาออกเดินทางเพื่อไปพบเห็นด้วยตาตัวเอง แต่เราก็สามารถชมความสวยงามของธรรมชาติเหล่านั้นได้ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ภาพถ่าย … และนี่คือ 22 ภาพถ่ายสุดตระการตาที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ แล้วคุณจะรู้ว่า โลกนี้น่าอยู่กว่าที่คิด

22 สถานที่ทางธรรมชาติ สวยจนตะลึง
ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้

1. BENAGIL SEA CAVE, โปรตุเกส

ชายหาดที่ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบภายในถ้ำของเมืองอัลกราเว่ โปรตุเกส ปากถ้ำหันหน้าออกสู่ทะเล เหมาะกับใครที่อยากหลบความวุ่นวายมาพักใจแบบเป็นส่วนตัว

2. น้ำพุร้อนในเขตที่ราบสูง ประเทศไอซ์แลนด์

3. ทะเลสาบเนตรอน ประเทศแทนซาเนีย

หรือเรียกอีกชื่อว่า ทะเลสาบแห่งความตาย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ น้ำในทะเลสาบจะมีสารและแร่ธาตุหลายชนิดไหลลงมารวมกัน

4. หินยักษ์ ในเขตคาบสมุทรเหนือ ประเทศไอซ์แลนด์

5. ไร่ชา ในหมู่บ้าน KOLUKKUMALAI
ประเทศอินเดีย

6. ถ้ำติดทะเล FINGAL’S CAVE
บนเกาะร้าง STAFFA ประเทศสกอตแลนด์

7. ดินแดนหิ่งห้อย
รัฐตลัซกาลา ประเทศเม็กซิโก

8. ทะเลสาบ HILLIER ทะเลสาบสีชมพู
ประเทศออสเตรเลีย

9. เกาะภูเขาไฟ AOGASHIMA
ประเทศญี่ปุ่น

10. แม่น้ำหลากสี CANO CRISTALES
ประเทศโคลอมเบีย

11.  GIANT’S CAUSEWAY ประเทศไอร์แลนด์เหนือ

การเรียงตัวของหินบะซอลต์ กว่า 40,000 ก้อน ที่โผล่พ้นพื้นดินทอดตัวยาวลงไปในทะเลขึ้นมาจนกลายเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ

12. SALAR DE UYUNI ประเทศโบลิเวีย

ทะเลทรายเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบได้ที่เทือกเขาแอนดีส ประเทศโบลิเวีย โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร!! เมื่อฝนตกน้ำขัง มวลทรายจะถูกปกคลุมไปด้วยผืนน้ำ เปรียบได้กับกระจกบานยักษ์ ที่สะท้อนให้เห็นผืนฟ้าอันกว่างใหญ่

13. HUACACHINA โอเอซิสกลางทะเลทราย
ประเทศเปรู

14. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย
ประเทศจีน

15. น้ำตกตาดกวางสี ประเทศลาว

16. เหมือง NAICA ‘ถ้ำคริสตัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก’
ประเทศเม็กซิโก

17. อุทยานแห่งชาติ CANAIMA
ประเทศเวเนซุเอลา

18. ทะเลสาบ BAIKAL ในฤดูหนาว
ประเทศรัสเซีย

19. ไร่นาในเขต YUANYANG ประเทศจีน

20. ถ้ำ WAITOMO GLOWWORM
ประเทศนิวซีแลนด์

เพดานของถ้ำดูเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มดาว คล้ายกำลังส่องแสงวิบวับยามค่ำคืน

21. ต้น DRACAENA CINNABARI
บนเกาะ SOCOTRA ประเทศเยเมน

22. DEAD VLEI ดินแดนอันแสนแห้งแล้ง
ของประเทศนามิเบีย

Source : brightside

สะพานบุญโขกู้โส่  สะพานบุญแห่งแรงศรัทธา วางตัวทอดยาวเหนือท้องนา กลางวงล้อมของหุบเขา อยู่ในหมู่บ้านแพมบก ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เที่ยวปายมุมใหม่ กับ “สะพานบุญโขกู้โส่”
ทอดน่องชมนาข้าว แบบกว้างไกล

หลายคนอาจมองว่าปายกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบที่หามุมสงบ วัฒนธรรมท้องถิ่น คงไม่ได้แล้ว แต่จริง ๆ ปายยังมีอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่เราจะได้พบเจอชีวิตเรียบง่ายของคนในชุมชน อย่าง บ้านแพมบก หมู่บ้านเล็กๆ ของชาวไต หรือ ชาวไทยใหญ่ และยังเป็นที่ตั้งของ “สะพานบุญโขกู้โส่” ซึ่งใช้เชื่อมระหว่างหมู่บ้านกับวัดห้วยคายคีรี

คำว่า โข แปลว่า “สะพาน” กู้โส่ แปลว่า “กุศลหรือบุญ” โขกู้โส่จึงหมายถึง “สะพานบุญ” สร้างขึ้นมาด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวปาย เพื่อให้พระสงฆ์ที่พุทธอุทยานห้วยคายคีรี ใช้เดินลัดทุ่งนาออกมาบิณฑบาตรได้ใกล้กว่าเส้นทางเดิม โดยไม่เหยียบย่ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวข้ามไปทำบุญ ไหว้พระ พร้อมชมธรรมชาติสวยๆ ของป่าเขาและนาข้าวระหว่างทางอีกด้วย

“โขกู้โส่” สะพานไม้ไผ่นี้ มีความยาวทั้งหมด 815 เมตร สร้างขึ้นจากโครงปูนและเหล็ก ใช้ไม้ไผ่สานเป็นพื้นด้านบน สองฟากฝั่งทางเดินเป็นนาข้าวขั้นบันไดที่กว้างไกลสุดลูกตา มีทางแยกออกไปหาร้านกาแฟ ร้านค้าชนเผ่า และโฮมสเตย์ของชาวบ้าน ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวไทยไต เรียนรู้การตำข้าว, การทำไม้กวาด, การทำนา, การทำหลังคาด้วยใบตองตึง ซึ่งปัจจุบันมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวเพียง 5 หลังเท่านั้น

โดยในวันงานบุญใหญ่ หรือ วันสำคัญๆ เช่น วันแม่ จะมีการทำบุญตักบาตรช่วงเช้าประมาณ 7  โมง และนอกจากสะพานบุญ นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะไปเที่ยวชมที่เที่ยวอื่นๆ ในหมู่บ้านได้อีก อย่าง ดอยเมี่ยง เป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร มองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์ของเมืองปายได้แบบ 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาวเย็นและทะเลหมอกสุดอลังการ

การเดินทาง : จากที่ว่าการอำเภอปาย ตามเส้นทาง 1095 มาทางสะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย) ประมาณ 4.5 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตรงสถานีทวนสัญญาณ บ้านทุ่งโป่ง เข้าไปตามป้ายบอกทางอีกประมาณ 6 กิโลเมตร จอดรถได้ที่วัดแพมบก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสะพานฝั่งชุมชน รถยนต์เข้าได้ มอเตอร์ไซค์เข้าถึง ระหว่างทางมีน้ำตกแพมบก เย็นชื่นใจให้นอนแช่ก่อนกลับ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและภาพจาก : การท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านแพมบก, ART of Traveler

ตึกสูงๆ ก็ย่อมต้องคู่กับวิวสวยๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เมืองใหญ่ๆ ในโลกจะเต็มไปด้วย ตึกระฟ้า ดีไซน์สวยมากมาย ที่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ต่างกัน Emporis องค์กรข้อมูลอาคารโลก จึงจัดอันดับเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า โดยใช้จำนวนและความสูงของอาคารในแต่ละเมืองเป็นเกณฑ์ (40 ชั้นขึ้นไป) ซึ่งตึกสูงที่ได้รับการจัดอันดับนี้ ไม่ได้สร้างความรำคาญตาแต่อย่างใด แต่กลับทำให้เมืองนั้นๆ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจ มาดูกันว่าจะมี เมืองตึกระฟ้า ประเทศไหนติดอันดับกันบ้าง

ยิ่งสูงยิ่งสวย! 15 เมืองตึกระฟ้า
ที่ได้รับการจัดอันดับให้ดีที่สุดในโลก

อันดับที่ 1 ฮ่องกง
มีอาคารสูง 7,827 แห่งใน 1,053 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 2 นครนิวยอร์ก 
มีอาคารสูง 6,202 แห่งในพื้นที่ 800 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 3 เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน
มีอาคารสูง 1,732 แห่งในพื้นที่ 82,403 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 4 เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน
มีอาคารสูง 1,107 แห่งในพื้นที่ 2,020 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 5 กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
มีอาคารสูง 4,397 แห่งในพื้นที่ 616 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 6 สิงคโปร์
มีอาคารสูง 5,283 แห่งในพื้นที่ 710 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 7 เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
มีอาคารสูง 2,858 แห่งในพื้นที่ 527 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 8 เมืองกวางโจว ประเทศจีน
มีอาคารสูง 915 แห่งในพื้นที่ 7,434 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 9 กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย
มีอาคารสูง 11,702 แห่งในพื้นที่ 1,080 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 10 เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
มีอาคารสูง 1,082 แห่งในพื้นที่ 3,885 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 11 เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล
มีอาคารสูง 6,391 แห่งในพื้นที่ 1,523 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 12 เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
มีอาคารสูง 1,495 แห่งในพื้นที่ 6,638 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 13 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
มีอาคารสูง 1,681 แห่งในพื้นที่ 1,568 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่ 14 เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา
มีอาคารสูง 1,175 แห่งในพื้นที่ 589 ตารางกิโลเมตร

อันดับที่15 เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
มีอาคารสูง 2,140 แห่งในพื้นที่ 1,029 ตารางกิโลเมตร

ที่มา : thisisinsider, wegointer