ใครที่กำลังหาสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ต้องห้ามพลาดกับ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ที่ภูมิภาคชูบุ ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับแก๊งเพื่อน คนรู้ใจ หรือครอบครัวก็สามารถสัมผัสความญี่ปุ่นแบบครบรส พร้อมต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาเยือนในไม่ช้า ที่สำคัญมีเที่ยวบินตรงสู่ สนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ นาโกย่า ถึง 5 เที่ยวบินต่อวัน กับสายการบินหลักอย่าง TG, JAL, Air Asia X และ Thai Lion Air เดินทางง่ายขนาดนี้ เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเลยดีกว่า
1. สวนสาธารณะอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาททาคาโตะ (Takato Joshi Koen) จังหวัดนากาโนะ
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ไม่ควรพลาดกับจุดชมดอกซากุระ ติดอันดับ 3 ของญี่ปุ่น พร้อมตื่นตา ตื่นใจ กับความสวยงามของต้นซากุระจำนวนมากกว่า 1,500 ต้น โดยเฉพาะความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธุ์หายากที่มีขนาดเล็กและสีเข้ม บางต้นมีอายุมากกว่า 130 ปี ภายในสวนสาธารณะอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาททาคาโตะ หรือสวนสาธารณะทาคาโตะโจชิ (Takato Joshi Koen) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี ปัจจุบันยังคงเหลือซากฐานหินของตัวปราสาทอยู่ไม่มากนัก ซึ่งอุทยานรอบปราสาททาคาโตะยังคงความงดงามของธรรมชาติมากมาย
2. สวนสาธารณะริม แม่น้ำมัตสึคาวะ (Matsukawa Park) จังหวัดโทยามะ
แม่น้ำมัตสึคาวะที่ไหลผ่านข้างสวนสาธารณะของปราสาทเมืองโทยามะ เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมือง และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยสงบ ทั้งยังเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีให้ชมมากกว่า 470 ต้น ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดของที่นี่คือ สามารถนั่งเรือเล็กล่องไปตามแม่น้ำมัตสึคาวะ ถือเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ที่พร้อมเพลิดเพลินไปกับดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งริมฝั่งแม่น้ำสุดโรแมนติก
3. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) จังหวัดไอจิ
นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวในประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง และอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า พื้นที่รอบปราสาทมีจำนวนต้นซากุระเรียงรายให้ชมมากกว่า 1,000 ต้นในหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงซากุระพันธุ์หายาก ชื่อว่า Gioiko เมื่อซากุระบานสะพรั่งไล่ระดับตั้งแต่สีขาวไปจนสีชมพูเข้ม บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิที่ทุกรอคอยมาทั้งปี คนญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเดินทางมาชมความงามนี้ ทั้งยังมีการประดับไฟช่วงกลางคืน เป็นซากุระไลท์อัพ และยังสามารถมาพบปะกับเหล่านินจาตัวจริงที่คอยออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
4. เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) จังหวัดโทยามะ – นากาโนะ
เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ อยู่บนพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ สัตว์ป่า ซึ่งมีทิวเขาลักษณะคล้ายเทือกเขาแอลป์แห่งทวีปยุโรป จนได้รับขนานนามว่า เจแปนแอลป์ การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟทาเตยามะ ไต่ระดับความสูงด้วยรถรางไฟฟ้า Tateyama Cable Car แล้วเดินทางต่อกันด้วยรถบัส Tateyama Highland Bus บนที่ราบสูงทาเตยามะ ตลอดระยะทางคดเคี้ยวผ่านทัศนียภาพของต้นสนอายุกว่าพันปีเรียงรายสองข้างทาง มีหิมะปกคลุมทิวเขาอัลไพน์ให้ตื่นตาตื่นใจ เพื่อเดินทางสู่บริเวณจุดสูงสุดของเส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ คือ มูโรโด (Murodo) ที่ความสูง 2,450 เมตร นั่งรถบัสผ่านกำแพงหิมะหรือมีอีกชื่อว่า “ยูคิโนะ โอตานิ” (Yuki-no Otani) สถานที่ที่มีหิมะตกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทับถมโดยเฉลี่ยสูง 7 – 20 เมตร ในปีที่ตกหนัก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการเจาะส่วนที่เป็นถนน และละลายหิมะนั้นเกิดเป็นกำแพงหิมะ ตื่นตากับวิวหิมะสีขาวโพลนล้อมรอบกาย มองไปทางใดก็เห็นสีขาวสุดลูกหูลูกตา
เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ เปิดให้เที่ยวชมช่วงกลางเดือนเมษายน – พฤศจิกายน สามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดการเดินทางที่ www.alpen-route.com/th/
5. ชมทุ่งทิวลิปที่สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) จังหวัดมิเอะ
สวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนเนื้อที่ราว 3 แสนตารางเมตร เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่ผลิบานตามฤดูกาลตลอดทั้งปี ใครที่ชื่นชอบดอกไม้ต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง ไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดคือ ทุ่งทิวลิปแสนสวยหลากหลายสีสันสุดลุกหูลูกตา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ประมาณปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม และนอกจากนี้ สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นยิ่งใหญ่อลังการที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปียาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โดยแต่ละปีจะมีธีมของการประดับไฟแตกต่างกันไป โดยเฉพาะทางเดินในอุโมงค์ไฟที่มีบรรยากาศแสงไฟระยิบระยับรอบตัวสวยงามราวกับอยู่ในความฝัน
6. นิทรรศการ Flight of Dreams
นิทรรศการสำหรับคนที่มีความฝันวัยเด็กเกี่ยวกับเครื่องบิน หรือ Flight of Dreamsโซนใหม่บริเวณสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านการบิน ด้วยเทคนิคแสงสีและเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ออกมาได้อลังการ โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ FLIGHT PARK ที่ต้องซื้อบัตรเข้าชม เป็นการแสดง แสง สี เสียง อิลลูมิเนชันที่ออกแบบโดย teamlab จะมีการฉายภาพแสงสีไปที่เครื่องบิน Boeing 787 การแสดงยาวประมาณ 8 นาที ก่อนไป Sketch Airplane ระบายสีเครื่องบิน และตกแต่งเป็นเครื่องบินที่เราออกแบบเองมีลำเดียวในโลก ส่วน SEATTLE TERRACE เป็นส่วนร้านค้าการตกแต่งจะเป็นสไตล์อเมริกา บริการอาหารหลากหลายเมนู อาทิ อาหารญี่ปุ่น อาหารอเมริกันสไตล์ ให้อิ่มอร่อยกัน
วิธีการเดินทางจากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ เข้าสู่เมืองนาโกย่า
รถไฟ – เดินทางด้วยรถไฟสาย Meitetsu Railways จากสนามบิน (สถานี Central Japan International Airport) ไปยังสถานี Nagoya (ไม่มีรถไฟ JR ให้บริการ) ใช้เวลาเดินทางดังต่อไปนี้
รถด่วน “μ-SKY” (อ่านว่า MU-Sky) ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที
รถไฟ Limited Express ใช้เวลาเดินทาง 35 นาที
รถไฟ Semi Express ใช้เวลาเดินทาง 48 นาที
รถบัส – เดินทางเข้าเมืองนาโกย่าและเมืองอื่นด้วยรถบัส Meitetsu Bus ซึ่งสามารถเลือกปลายทางในเมืองได้ 2 แห่ง คือ สถานีรถบัส Meitetsu Bus Center ติดกับสถานีรถไฟ Nagoya และสถานีรถบัส Sakae Bus Terminal (ตึกโอเอซิส 21) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
รถแท็กซี่ – การเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ ไปยังย่านกลางเมืองนาโกย่า จะเสียค่าโดยสารประมาณ 13,000 เยน โดยรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่นสามารถโดยสารได้สูงสุด 4 ท่าน
เดินทางง่าย สถานที่สวยงาม เต็มอื่มกับธรรมชาติแบบจุกๆ เตรียมวางแพลนล่วงหน้าไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า กันได้เลย และสามารถติดตามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ อีกได้ที่ >>> https://www.facebook.com/ChubuNagoya.th/