[รีวิว] French Village Bana Hills เมืองเทพนิยาย แห่งดานัง เวียดนาม

เที่ยวเวียดนาม พาไปชมบรรยากาศด้านบน French Village Bana Hills แบบเงียบสงบ ไร้ผู้คน แต่กว่าจะได้ภาพเหล่านี้ ต้องพักค้างคืนด้านบน เพื่อเก็บภาพในช่วงค่ำและเช้าตรู่ เพราะช่วงกลางวัน คนเยอะวุ่นวายมาก

[รีวิว] French Village Bana Hills 
เมืองเทพนิยาย แห่งดานัง เวียดนาม

Bana Hills เป็นที่เที่ยว สวนสนุก หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส และมีโรงแรมชื่อ Mercure Bana Hills อยู่บนบนยอดเขาสูง ในเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม วิธีการขึ้นไปบนบานาฮิลล์ก็คือนั่งกระเช้าไฟฟ้า ที่สูงและยาวที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ถ้าอยากไป French Village Bana Hills แบบไร้ผู้คนแออัด ให้ไปค้างงงงงง !!!!
ทริปนี้เราตั้งใจไปค้างที่ Mercure Bana Hills เพราะต้องการซึมซับบรรยากาศทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยเราเสียค่าตั๋ว Cable Car เพียง 400.000 VND จากราคาเต็ม 700.000 VND เท่านั้น !!! ราคาห้องพักต่อคืน 2,800 บาท จองผ่าน booking.com

ที่นี่ช่วงกลางวันคนจะเยอะมาก เข้าร้านอาหารด้านบนต้องรอคิวนาน โดยเฉพาะ BBQ แต่ก็เห็นบรรยากาศด้านล่างชัดเจน มองไปไกลๆ จะเห็นทิวเขาสีเขียวสบายตา ช่วงบ่ายอากาศจะเริ่มปิด หมอกเริ่มมาปกคลุมจนไม่สามารถเห็นด้านล่างได้เหมือนเคย อากาศด้านบนมีแดด แต่เย็นสบาย เหมือนอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา

บริเวณ Golden Bridge สะพานลอยฟ้าสีเหลืองทอง คนล้นหลามมาก ถ่ายรูปติดผู้คนมากมาย เราเลยตั้งใจจะมาถ่ายภาพอีกทีช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็นที่คนทยอยกลับลงไปหมดแล้ว

พอตกเย็น เราเริ่มรู้สึกว่า เมืองทั้งเมืองเป็นของเรา เหมือนอยู่ในเมืองเวทย์มนต์ มีแต่แขกที่เข้าพักในโรงแรมเท่านั้น เป็นเวลาของเราที่จะไปเก็บภาพทุกๆ มุมยามค่ำคืน

เราตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อไปเดินสวยๆในเมืองแห่งเวทย์มนต์นี้อีก 3 รอบ !! 5555 และเก็บภาพมุมต่างๆ ก่อนลงเขา

ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวดานัง ประเทศเวียดนามครั้งแรกของเรา โชคดีเราได้คนขับรถ Taxi ดี แนะนำเส้นทาง บริการดีมาก เป็นกันเอง ไว้ใจได้ ที่สำคัญราคาถูกและไม่โกง ขนาดเราวางกระเป๋าไว้ในรถแล้วเดินลงไปซื้อกาแฟ เค้าก็ไม่ชิ่งหนีเราไป 5555 พอตอนหลังเพิ่งมาคิดได้ว่า ไม่ควรทิ้งของไว้แบบนั้น เพราะเราอาจไม่ได้เจอคนดีแบบครั้งนี้ เรา contact taxi ก่อนบิน จองรถเอาไว้ผ่าน line)

ปิดท้ายทริปด้วยการเปิดโลกของเรามากคือ Taxi แนะนำของอร่อย ซึ่งอร่อยจริงๆ ขอบอกว่า must have, must try ถูกใจสายกินอย่างเรามาก Taxi พาไปร้าน Cong Caphe’ เป็นร้านกาแฟที่มีสไตส์ร้านคล้ายยุคคอมมิวนิส recommend ของร้านนี้คือ Coconut Milk Coffee ซึ่ง Taxi บอกต้องลองให้ได้ก่อนกลับ กาแฟหอมกรุ่น กลิ่นมะพร้าวอ่อนๆ หวาน มัน เข้ม กลมกล่อม very good

ขอบคุณข้อมมูลและภาพจาก : เที่ยวเหอะ

ร้อนนี้ไปชมนก ดูผีเสื้อ ที่ แคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เทศกาลดูผีเสื้อ แคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ในเดือนเมษายน – มิถุนายน 2562 เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด

ร้อนนี้ไปชมนก ดูผีเสื้อ 
ที่ แคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ร้อนนี้ชวนเพื่อนเดินเข้าป่า ไปสัมผัสความเงียบสงบของธรรมชาติ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมกับชมฝูงผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์กว่า 200 ชนิด บริเวณด้านหลังแคมป์บ้านกร่าง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมผีเสื้ออันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว

นักท่องเที่ยวสามารถชมผีเสื้อบินสยายปีกโชว์สีสัน ความสวยงาม และเกาะกินโป่งกินน้ำหวาน อยู่แถวบริเวณลำธาร เมื่ออากาศร้อนจัด และแหล่งน้ำแห้งเหือด บรรดาเหล่าผีเสื้อนานาชนิด จะพากันมาหากินเกลือตามดินโป่ง หรือ แหล่งน้ำแฉะๆ บางครั้งก็อาจพบการอพยพของฝูงผีเสื้อนับแสนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดูผีเสื้อ คือเวลา 8.00 – 14.00 น. แต่เราขอแนะนำเป็นช่วงเช้า แสงแดดอ่อนๆ 08.00 – 10.00 น. จะดีที่สุด

นอกจากผีเสื้อแล้ว แคมป์บ้านกร่างยังเป็นแหล่งอาศัยของนกหายากมากมาย เช่น
กกะลิงเขียดหางหนาม นกพญาปากกว้างสีดำ นกหัวขวานใหญ่หงอนเหลือง นกเขียวคราม ฯลฯ รวมไปถึงสัตว์ป่าต่างๆ ทั้ง ค่างเเว่นถิ่นใต้ ชะนีมือขาว หรือถ้าโชคดีอาจได้เจอเสือดาว  หรือสัตว์ใหญ่อื่นๆ

พอตกกลางคืน มองไปบนท้องฟ้า ก็เห็นดวงดาวนับล้านส่องเเสงสกาวสดใส เพราะไม่มีเเสงไฟจากเมืองรบกวน แถมอากาศก็เย็นสบาย หากวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ใครยังไม่มีแพลนไปเที่ยวไหน มากางเต็นท์นอนฟินๆ อิงแอบแนบชิดชายป่า ที่แคมป์บ้านกร่างกันนะคะ

ขอบคุณรูปภาพจาก : 
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – Kaeng Krachan National Park ,
เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน รถรับจ้าง

เปิดพิกัด สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ภูมิภาคชูบุสัมผัสธรรมชาติเต็มอิ่ม

ใครที่กำลังหาสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ต้องห้ามพลาดกับ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ที่ภูมิภาคชูบุ ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับแก๊งเพื่อน คนรู้ใจ หรือครอบครัวก็สามารถสัมผัสความญี่ปุ่นแบบครบรส พร้อมต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาเยือนในไม่ช้า ที่สำคัญมีเที่ยวบินตรงสู่ สนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ นาโกย่า ถึง 5 เที่ยวบินต่อวัน กับสายการบินหลักอย่าง TG, JAL, Air Asia X และ Thai Lion Air เดินทางง่ายขนาดนี้ เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเลยดีกว่า

1. สวนสาธารณะอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาททาคาโตะ (Takato Joshi Koen) จังหวัดนากาโนะ

สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ไม่ควรพลาดกับจุดชมดอกซากุระ ติดอันดับ 3 ของญี่ปุ่น พร้อมตื่นตา ตื่นใจ กับความสวยงามของต้นซากุระจำนวนมากกว่า 1,500 ต้น โดยเฉพาะความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธุ์หายากที่มีขนาดเล็กและสีเข้ม บางต้นมีอายุมากกว่า 130 ปี ภายในสวนสาธารณะอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาททาคาโตะ หรือสวนสาธารณะทาคาโตะโจชิ  (Takato Joshi Koen) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี ปัจจุบันยังคงเหลือซากฐานหินของตัวปราสาทอยู่ไม่มากนัก ซึ่งอุทยานรอบปราสาททาคาโตะยังคงความงดงามของธรรมชาติมากมาย

2. สวนสาธารณะริม แม่น้ำมัตสึคาวะ (Matsukawa Park) จังหวัดโทยามะ

แม่น้ำมัตสึคาวะที่ไหลผ่านข้างสวนสาธารณะของปราสาทเมืองโทยามะ เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมือง และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยสงบ ทั้งยังเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีให้ชมมากกว่า 470 ต้น ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดของที่นี่คือ สามารถนั่งเรือเล็กล่องไปตามแม่น้ำมัตสึคาวะ ถือเป็น สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า ที่พร้อมเพลิดเพลินไปกับดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งริมฝั่งแม่น้ำสุดโรแมนติก

3. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) จังหวัดไอจิ

นอกจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวในประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง และอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า พื้นที่รอบปราสาทมีจำนวนต้นซากุระเรียงรายให้ชมมากกว่า 1,000 ต้นในหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงซากุระพันธุ์หายาก ชื่อว่า Gioiko เมื่อซากุระบานสะพรั่งไล่ระดับตั้งแต่สีขาวไปจนสีชมพูเข้ม บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิที่ทุกรอคอยมาทั้งปี คนญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเดินทางมาชมความงามนี้ ทั้งยังมีการประดับไฟช่วงกลางคืน เป็นซากุระไลท์อัพ และยังสามารถมาพบปะกับเหล่านินจาตัวจริงที่คอยออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

4. เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) จังหวัดโทยามะ – นากาโนะ

เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ อยู่บนพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ สัตว์ป่า ซึ่งมีทิวเขาลักษณะคล้ายเทือกเขาแอลป์แห่งทวีปยุโรป จนได้รับขนานนามว่า เจแปนแอลป์ การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟทาเตยามะ ไต่ระดับความสูงด้วยรถรางไฟฟ้า Tateyama Cable Car แล้วเดินทางต่อกันด้วยรถบัส Tateyama Highland Bus บนที่ราบสูงทาเตยามะ ตลอดระยะทางคดเคี้ยวผ่านทัศนียภาพของต้นสนอายุกว่าพันปีเรียงรายสองข้างทาง มีหิมะปกคลุมทิวเขาอัลไพน์ให้ตื่นตาตื่นใจ เพื่อเดินทางสู่บริเวณจุดสูงสุดของเส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ คือ มูโรโด (Murodo) ที่ความสูง 2,450 เมตร นั่งรถบัสผ่านกำแพงหิมะหรือมีอีกชื่อว่า “ยูคิโนะ โอตานิ” (Yuki-no Otani) สถานที่ที่มีหิมะตกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทับถมโดยเฉลี่ยสูง 7 – 20 เมตร ในปีที่ตกหนัก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการเจาะส่วนที่เป็นถนน และละลายหิมะนั้นเกิดเป็นกำแพงหิมะ ตื่นตากับวิวหิมะสีขาวโพลนล้อมรอบกาย มองไปทางใดก็เห็นสีขาวสุดลูกหูลูกตา

เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ – คุโรเบะ เปิดให้เที่ยวชมช่วงกลางเดือนเมษายน – พฤศจิกายน สามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดการเดินทางที่ www.alpen-route.com/th/

5. ชมทุ่งทิวลิปที่สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) จังหวัดมิเอะ

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่บนเนื้อที่ราว 3 แสนตารางเมตร เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่ผลิบานตามฤดูกาลตลอดทั้งปี ใครที่ชื่นชอบดอกไม้ต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง ไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดคือ ทุ่งทิวลิปแสนสวยหลากหลายสีสันสุดลุกหูลูกตา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ ประมาณปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม และนอกจากนี้ สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นยิ่งใหญ่อลังการที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปียาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โดยแต่ละปีจะมีธีมของการประดับไฟแตกต่างกันไป โดยเฉพาะทางเดินในอุโมงค์ไฟที่มีบรรยากาศแสงไฟระยิบระยับรอบตัวสวยงามราวกับอยู่ในความฝัน

6. นิทรรศการ Flight of Dreams

นิทรรศการสำหรับคนที่มีความฝันวัยเด็กเกี่ยวกับเครื่องบิน หรือ Flight of Dreamsโซนใหม่บริเวณสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านการบิน ด้วยเทคนิคแสงสีและเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ออกมาได้อลังการ โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ FLIGHT PARK ที่ต้องซื้อบัตรเข้าชม เป็นการแสดง แสง สี เสียง อิลลูมิเนชันที่ออกแบบโดย teamlab จะมีการฉายภาพแสงสีไปที่เครื่องบิน Boeing 787 การแสดงยาวประมาณ 8 นาที ก่อนไป Sketch Airplane ระบายสีเครื่องบิน และตกแต่งเป็นเครื่องบินที่เราออกแบบเองมีลำเดียวในโลก ส่วน SEATTLE TERRACE เป็นส่วนร้านค้าการตกแต่งจะเป็นสไตล์อเมริกา บริการอาหารหลากหลายเมนู อาทิ อาหารญี่ปุ่น อาหารอเมริกันสไตล์ ให้อิ่มอร่อยกัน

วิธีการเดินทางจากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ เข้าสู่เมืองนาโกย่า
รถไฟ – เดินทางด้วยรถไฟสาย Meitetsu Railways จากสนามบิน (สถานี Central Japan International Airport) ไปยังสถานี Nagoya (ไม่มีรถไฟ JR ให้บริการ) ใช้เวลาเดินทางดังต่อไปนี้

รถด่วน  “μ-SKY” (อ่านว่า MU-Sky) ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที

รถไฟ Limited Express ใช้เวลาเดินทาง 35 นาที

รถไฟ Semi Express ใช้เวลาเดินทาง 48 นาที

รถบัส – เดินทางเข้าเมืองนาโกย่าและเมืองอื่นด้วยรถบัส Meitetsu Bus ซึ่งสามารถเลือกปลายทางในเมืองได้ 2 แห่ง คือ สถานีรถบัส Meitetsu Bus Center ติดกับสถานีรถไฟ Nagoya และสถานีรถบัส Sakae Bus Terminal (ตึกโอเอซิส 21) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

รถแท็กซี่ – การเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ ไปยังย่านกลางเมืองนาโกย่า จะเสียค่าโดยสารประมาณ 13,000 เยน โดยรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่นสามารถโดยสารได้สูงสุด 4 ท่าน

เดินทางง่าย สถานที่สวยงาม เต็มอื่มกับธรรมชาติแบบจุกๆ เตรียมวางแพลนล่วงหน้าไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินใกล้นาโกย่า กันได้เลย และสามารถติดตามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ อีกได้ที่ >>> https://www.facebook.com/ChubuNagoya.th/