7 มนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี รับรองว่าคุณต้องหลงรัก

สังขละบุรี อำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ใครต่างเข้ามาก็เป็นอันต้องหลงรัก ด้วยวิถีชีวิตชาวมอญแบบเรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตร อากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าอัศจรรย์มากมาย travel.mthai.com ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ 7 มนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี ที่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้ง

7 มนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี 
รับรองว่าคุณต้องหลงรัก

สังขละบุรี มีแม่น้ำซองกาเรีย เป็นศูนย์รวมความมีชีวิตชีวา เพราะชีวิตต้องหล่อเลี้ยงด้วยสายน้ำ ชาวบ้านที่นี่มีความรักในถิ่นเกิดและธรรมชาติของพวกเขามาก เมื่อคุณไปคุณจะเห็นแววตาแห่งความสุขของพวกเขา เมื่อได้เล่าเรื่องราวถิ่นเกิดอันน่าประทับใจ …

1. พิธีตักบาตรมอญ

พิธีตักบาตรมอญ เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่ ทุกเช้าตรู่เวลาประมาณ 6.30 น. ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ต่างต่อแถวเนื่องแน่น เพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์ คุณจะพบรอยยิ้มของคนในชุมชน เด็กน้อยผู้นำโถข้าวมาซ้อนไว้บนศีรษะ หรือนักท่องเที่ยวที่สวมชุดมอญเดินถ่ายรูป เป็นภาพที่คุณไม่อาจเห็นที่ไหนในประเทศนี้

2. สะพานมอญ

สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์​ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อม ๆ กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดคือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสะพานที่เสมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทย ในดินแดนสุดขอบตะวันตกแห่งนี้

3. มัคคุเทศก์น้อย

แน่นอนว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลาย ๆ แห่ง ต่างมีเจ้าหนูมัคคุเทศก์น้อย ที่จะคอยเดินเข้ามาพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวของสถานที่เกิดของพวกเขา ด้วยความน่ารัก เป็นมิตร พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่เงินเป็นสิ่งตอบแทน แต่ต้องการจะสื่อสารกับผู้คนด้วยจิตใจรักบ้านเกิด ถ้าคุณมีโอกาสไป ลองมองตาพวกเขา แล้วจะรู้ว่าเด็กน้อยกลุ่มนี้ พวกเขามีเสน่ห์มากแค่ไหน …

4. จัมเปอร์แห่งลุ่มน้ำซองกาเรีย

“ต๋อง” เด็กหนุ่มผู้มีพลังแห่งความเยาว์วัย ด้วยท่าทียียวน บุคลิกที่ค่อนข้างไฮเปอร์ เขาจะคอยมอบความสุขให้กับผู้คน ด้วยการโชว์กระโดดสะพานมอญ ลงสู่แม่น้ำซองกาเรีย อันเป็นเหมือนบ้านในโลกบาดาลของเขา เด็กหนุ่มผู้ซึ่งปราศจากความกลัว  ผมเชื่อว่าเมื่อคุณได้เห็นสิ่งที่เขาทำ คุณจะได้รับแรงบันดาลใจอันมหาศาลอย่างบอกไม่ถูก

5. เจดีย์พุทธคยา

พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเรีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น วันสงกรานต์

6. วัดจมน้ำ เมืองบาดาล

วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นUnseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำเท่านั้น

7. จุดเล่นน้ำตกซองกาเรีย

จุดเล่นน้ำตกซองกาเรีย ตั้งอยู่บริเวณสะพานแม่น้ำซองกาเรีย อำเภอสังขละบุรี ห่งจากตัวเมืองเมืองสังขละ ประมาณ ​8 กิโลเมตร ขับรถไปทางชายแดนด่านเจดีย์สามองค์จะเห็นสะพานซองกาเรียทางขวามือ มีพื้นที่จอดรถ และมีบริการฝากรถเสียคันละ 20บาท พร้อมบริการเช่าห่วงยาง อันเล็ก 10 บาท อันใหญ่ 20 บาท ความน่าสนใจของพื้นที่บริเวณนี้ คือเป็นจุดเล่นน้ำ ที่มีน้ำไหล ใสและเย็น น้ำก็ไม่สูง เล่นน้ำสนุกมากครับ และมีซุ้มรับประทานอาหารริมน้ำ มีอาหารอีสานรสชาติจัดจ้านขายด้วย เป็นบรรยากาศปิคนิกที่เย็นสบายมาก

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : kanchanaburi.co/th , www.sadoodta.com

เรื่องและถ่ายภาพโดย : MuzTong – Travel MThai

ไฮไลท์ปลายฝน กับ 7 สุดยอดจุดชมวิวทะเลหมอก

เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบเต็มตัวแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงหนีไม่พ้นการชมวิวทะเลหมอกในที่ต่าง ๆ การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งการเดินป่า นอนเต๊นท์ ชมทุ่งดอกไม้ ตื่นมารับแสงยามรุ่งอรุณ หรือออกมาส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ล้วนแล้วแต่เป็นภาพแห่งความประทับใจ ในเราเก็บความรู้สึกเอาไว้ผ่านภาพถ่าย นี่ก็ใกล้จะหมดฝนแล้ว Travel MThai จึงอยากจะแนะนำ 7 สุดยอดจุดชมวิวทะเลหมอก ที่คุณควรไปชมก่อนสายฝนจะจากไป …

ไฮไลท์ปลายฝน กับ 7 สุดยอดจุดชมวิวทะเลหมอก ทั่วไทย

1. ภูทับเบิก

แม้จะถูกมนุษย์รุกพื้นที่ไปพอสมควร แต่ ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเพชรบูรณ์ ยังคงเป็นแหล่งชมทะเลหมอกยอดนิยมไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยภูมิประเทศมีความงดงามอย่างมาก เต็มไปด้วยทะเลภูเขา ป่าไม้และธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆ มองเห็นเป็นทะเลหมอกตัดกับยอดภูสีเขียว และยังเป็นเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย

2. ภูทอก

จุดชมวิวภูทอก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สถานที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสปุยของทะเลหมอกได้อย่างใกล้ชิดแบบสุด ๆ ถ้าหากมองในระยะไกลเบื้องหน้าจะเห็นวิวทะเลหมอกขาวโพลนตัดกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ซึ่งนอกจากวิวของทะเลหมอกแล้วยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิว 360 องศา แบบพาโนราม่าของเมืองเชียงคานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก่งคุดคู้และลำน้ำโขง ด้วยภูแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบบริบูรณ์ด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาการชมทะเลหมอก คือในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาวแบบนี้แหละ

3. เขาพะเนินทุ่ง

เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,207 เมตร มีทะเลหมอกให้ชมแทบจะตลอดปี ซึ่งเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นไม้ ที่พร้อมใจกันคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนกลายเป็นทะเลหมอกหนาตา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันอย่างเต็มที่ในช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มควันแห่งความหนาวสีขาวนวลปกคลุมทั่วหุบเขา เมื่อเริ่มจางลงบริเวณเบื้องล่างจะปรากฏภาพป่าดงดิบอันแสนชุกชุม มีเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตาอยู่ด้านหลังโดยจุดชมทะเลหมอกจะมีอยู่ 2 แห่งคือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่30 และ 36

4. ดอยผาตั้ง

ดอยผาตั้ง มีความสูงประมาณ 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นยอดดอยในเทือกเขาหลวงพระบาง เป็นเส้นแบ่งเขตไทย-ลาว อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 30 กิโลเมตร ดอยผาตั้ง ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ชาวท้องถิ่นที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ คือ ชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา เป็นหนึ่งสีสันแห่งวัฒนธรรมชนเผ่า

5. ดอยเมี่ยง

ดอยเมี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน สวรรค์เมืองหมอกป้ายแดง ที่ปักหมุดอยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร ในพื้นที่ป่าดิบชื้นและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพญาเสือโคร่ง ต้นมะค่า ความสุขโดยสัมผัส คือการไปยืน ณ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์ของเมืองปายได้อย่างสวยงาม แบบสุดสายตา 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดโชยสบายทุกฤดูกาล

6. ดอยแม่ระเมิง

 

ดอยแม่ระเมิง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย ที่คุ้มค่าน่าไปและไม่ไกลเหมือนจุดชมทะเลหมอกแห่งอื่น คือ ทะเลหมอกสวยในฝัน ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่มีผิดหวัง หากคุณไปตรงวันเวลา ถูกฤดูกาล ทุกเช้าก่อนรุ่งสางรอชมตะวันขึ้นกับทะเลหมอกมองได้ 180 องศา จุดชมวิวที่ดีที่สุดก็คือม่อนกิ่วลม ก่อนกลับแวะไปชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง 200 ปี เป็นของแถม จะรู้ว่าทำไมผู้คนอยู่ลึกกลางขุนเขาไม่เคยย้ายถิ่นฐานยาวนานถึง 200 ปี

7. เขาไข่นุ้ย

“เขาไข่นุ้ย” หรือ “ภูไข่นุ้ย“ จังหวัดพังงา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 200 เมตร ความสูงกำลังพอดีให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามในหน้าฝนและหนาวแบบไม่ต้องออกแรงมาก นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ซึ่งเวลานี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเพราะมีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ฤดูร้อน หากจะเดินทางมาชมทะหมอกแนะนำให้มาในช่วงที่มีคลื่นลมทะเลสงบเท่านั้น นักท่องเที่ยวถึงจะได้เห็นปุยขาวของทะเลหมอกบนเขาไข่นุ้ยแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

เรื่องและเรียบเรียงโดย : Travel MThai

รับส่วนลด 500 บาท! เมื่อพักที่ ฟูรามา เอ็กซ์คลูซีฟ แซนดารา ชะอำ (Furama Xclusive Sandara) จ.ประจวบคีรีขันธ์

ฟูรามา เอ็กซ์คลูซีฟ แซนดารา ชะอำ (Furama Xclusive Sandara) .ประจวบคีรีขันธ์

มอบส่วนลดทันที 500 บาท เมื่อจองโรงแรมนี้

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

ฟูรามา เอ็กซ์คลูซีฟ แซนดารา ชะอำ (Furama Xclusive Sandara) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นโรงแรมที่ทันสมัย ได้รับการออกแบบอย่างลงตัวและสวยงาม ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดที่มีทัศนียภาพที่สวยงามของหาดชะอำ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนของนักท่องเที่ยวที่มาเป็นคู่รัก ครอบครัว และยังเหมาะสำหรับการประชุมหรือจัดสัมมนาอีกด้วย ห้องพักได้รับการตกแต่งในโทนสีอบอุ่น ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว ยูนิโก้ แกรนด์ แซนดารา ชะอำ ยังโดดเด่นด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองทุกความต้องการ อาทิ ร้านอาหารและบาร์ที่หันหน้าสู่วิวทะเลที่สวยงามของอ่าวไทย ให้บริการอาหารหลากหลายเมนูทั้งอาหารไทยและตะวันตกรสชาติดีเยี่ยม เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มในบรรยากาศสบายๆ ริมชายหาดหรือในสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าที่หรูหรา ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า จากุซซี่กลางแจ้ง ห้องประชุมและจัดเลี้ยง อินเตอร์เน็ต โซนสำหรับเด็กและกิจกรรมขี่ม้าชมวิวริมทะเล

ข้อมูลห้องพัก

โรงแรม ฟูราม่า เอ็กซ์คลูซีฟ แซนดารา ชะอำ ชะอำ ให้บริการห้องพักแบบ

ห้องสไตล์ลิสต์ พูล วิว (Stylist Pool View) มีขนาด 40 ตร.ม. เข้าถึงด้วยระบบคีย์การ์ดอิเล็คทรอนิคส์, ตู้นิรภัยภายในห้องพัก, โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ, แอลซีดีทีวี ขนาด 36 นิ้ว พร้อมช่องสัญญาณดาวเทียม, เครื่องเล่นดีวีดี, อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง, มินิบาร์, เสื้อคลุมอาบน้ำ, รองเท้าแตะ, ชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำ, ไดร์เป่าผม, อุปกรณ์ในการชงชาและกาแฟ, ระเบียงส่วนตัวพร้อมเตียงนอนกลางวันสำหรับชมวิวสระว่ายน้ำ

ห้องสไตล์ลิสต์ พูล แอ็คเซส (Stylist Pool Access) มีขนาด 40 ตร.ม. เข้าถึงด้วยระบบคีย์การ์ดอิเล็คทรอนิคส์, ตู้นิรภัยภายในห้องพัก, โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ, แอลซีดีทีวี ขนาด 36 นิ้ว พร้อมช่องสัญญาณดาวเทียม, เครื่องเล่นดีวีดี, อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง, มินิบาร์, เสื้อคลุมอาบน้ำ, รองเท้าแตะ, ชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำ, ไดร์เป่าผม, อุปกรณ์ในการชงชาและกาแฟ, เตียงนอนกลางวันพร้อมระเบียงส่วนตัวที่เข้าถึงสระว่ายน้ำได้

บริการอื่นๆ
ซาวน่า ตั้งอยู่ถัดจากศูนย์ฟิตเนสและห้องเด็กเล่น ให้บริการแยกระหว่างชายและหญิง

จากุซซี่กลางแจ้ง อยู่ตรงใจกลางพื้นที่พักผ่อนของโรงแรม พร้อมด้วยการนวดแบบไฮดรอลิก

คิดส์เวิร์ล สามารถนำเด็กๆ ของคุณมาเล่นกันอย่างสนุกสนานในห้องลูกบอล วีดีโอเกมส์ ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป

ห้องอาหารและบาร์
เรส แอท ซี (Rest@sea) รองรับลูกค้าได้ถึง 110 ที่นั่ง หันหน้าไปทางอ่าวไทยซึ่งมีน้ำทะเลสีดุจดั่งพลอยสีฟ้าอ่อน ร้านอาหารให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าในสไตล์อเมริกัน รวมถึงอาหารฝั่งตะวันออกและตะวันตกที่ทำจากวัตถุดิบที่สดใหม่ และยังมีบาร์บีคิวทะเลไว้คอยให้บริการในตอนเย็นอีกด้วย เปิดบริการเวลา 06.30 – 01.00 น.

เดอะ กู้ด วิว พ้อยท์ แอท ล็อบบี้ ศาลา (The Good View Point @ Lobby Sala) ล็อบบี้เลาจ์นหน้าชายหาดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ลิ้มรสค็อกเทลสีสวยรสละมุน เครื่องดื่มเย็นๆ และอาหารว่างยอดนิยม ให้บริการเครื่องดื่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 24.00 น.

เดอะ พูลไซด์ บาร์ (The Pool Side Bar) ตั้งอยู่ใจกลางรีสอร์ทถัดไปจากจากุซซี่กลางแจ้ง ให้บริการทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไร้แอลกอฮอล์ ค็อกเทล เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น รวมทั้งอาหารว่างแบบเบาๆ เปิดบริการเวลา 09.00 – 19.00 น.

สถานที่ตั้ง

จากกรุงเทพฯ ตรงไปอำเภอชะอำใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เมื่อถึงสี่แยกชะอำ ให้เลี้ยวซ้ายจากสี่แยกไฟแดงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นหาดชะอำ ให้เลี้ยวซ้ายขับตรงไปอีกประมาณ 400 เมตร

ห้องพักแบบ Stylish Garden View

ห้องพักแบบ Stylish Pool View

ห้องพักแบบ Stylish Pool Access

ห้องพักแบบ Superior

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

เงื่อนไข:

-ห้องพักทุกประเภท 2 วัน 1 คืน จำนวน 1 ห้อง

-รับส่วนลด 500 บาท เมื่อมียอดชำระค่าห้องพักตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก Travel Guru เท่านั้น

-ราคาดังกล่าวรวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

-Check in 14.00 hrs and Check out 12.00 noon

-ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง (Long Weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ

-กรุณาสำรองห้องพักอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนเข้าพัก

-กรุณาสำรองห้องพักได้ที่ 02-100-7008 เท่านั้น

-ไม่สามาถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆหรือแลกเป็นเงินสดได้

-กรณีเลื่อนวันหรือยกเลิกการเดินทางต้องแจ้งก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำการ และ สามารถเลื่อนได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น

-หากของรางวัลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทจะหาของรางวัลที่มูลค่ามากกว่าหรือเทียบเท่ามาชดเชยให้

ระยะเวลา: วันนี้ – 31 ธ.ค. 61

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.hotelsthailand.com/thailand/khao-yai/kensington-english-garden-resort-khaoyai.html