5 ที่พักหลักร้อยกรุงเทพฯ พักสบายๆ ในราคาพอเพียง

สำหรับใครก็ตามที่กำลังเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ด้วยการมาสักการะและลงนามถวายความอาลัยแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง นอกจากจะต้องเช็คเส้นทาง เตรียมการแต่งกายกันให้ดีๆ แล้ว หากการมาครั้งนี้ของคุณไม่สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ เราจึงนำ 5 ที่พักหลักร้อยกรุงเทพโดยทราเวลโลก้า ผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำมาแนะนำกัน รับรองเลยว่าพักสบายๆ ได้ในราคาพอเพียง

1. Bangkok Bed and Bike

Bangkok Bed and Bike

ห้องพัก Bangkok Bed and Bike Hostel

เราขอยกให้ที่นี่เป็นที่พักกรุงเทพฯ ที่เดินทางได้สะดวกที่สุดสำหรับการไปถวายความอาลัยในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากพระบรมมหาราชวังเพียง 700 เมตรเท่านั้น “แบงค็อก เบด แอนด์ ไบค์” เป็นที่พักแบบโฮสเทลราคาประหยัด โดยมีห้องแบบแยกชายหญิงไปจนถึงห้องรวม และห้องพักแบบส่วนตัว โดยมีราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อคืนเท่านั้น นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันทั้ง เครื่องปรับอากาศ อินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) และอื่นๆ

2. The Secret Service Bed and Breakfast

The Secret Service Bed and Breakfast

ห้องพัก The Secret Service Bed and Breakfast

ยังอยู่ในจุดที่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวังมากนักกับ “เดอะซีเคร็ท เซอร์วิส เบด แอนด์ เบรคฟาสต์” ที่พักในเขตพระนคร โดยตั้งอยู่ใกล้กับถนนข้าวสารและวัดชนะสงคราม ที่นี่มีราคาห้องพักแบบส่วนตัวไม่ถึงหนึ่งพันบาท แถมยังพักได้ถึง 2 ท่าน ภายในห้องพักก็ยังเรียบง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นและมินิบาร์ ห้องน้ำส่วนตัว ทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สาย เครื่องปรับอากาศ และอื่นๆ เอาเป็นว่าสะดวกสบาย ในราคาเป็นกันเองแน่นอน

3. The Motley House

The Motley House

ห้องพัก The Motley House

“เดอะ มอตลีย์ เฮาส์” ที่พักกรุงเทพราคาหลักร้อยในย่านพญาไท ที่รับรองว่าเดินทางสะดวกไม่แพ้ที่อื่นๆ แถมยังมีราคาพอเพียง โดยมีห้องพักแบบส่วนตัวพักได้ 2 ท่านในราคาประมาณ 9XX บาทเท่านั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือคอนเซ็ปต์สไตล์โรงเรียนประจำที่เรียกได้ว่าไม่เหมือนที่ไหนๆ โดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบโคโลเนียลยุค ร.5 เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบวินเทจ พักผ่อนสบาย ได้บรรยากาศ แถมราคาพอเพียงไปอีก

4. Chao Hostel

Chao Hostel

Chao Hostel

เป็นที่พักใจกลางเมืองที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีราคาประหยัดขนาดนี้ “เชาว์ โฮสเทล” เป็นโฮสเทลที่อยู่บนชั้น 8 ของโรงแรม Siam@Siam ย่านปทุมวัน โดยมีห้องพักแบบ Dorm ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 600 บาท ให้คุณได้พักผ่อน ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นที่พักกรุงเทพราคาหลักร้อยที่เรียกได้ว่าเดินทางได้สะดวกสุดๆ แล้ว ยังมีคอนเซ็ปต์ในการออกแบบตกแต่งแบบไทยๆ เน้นวิถีชีวิตริมน้ำ มีการใช้วัสดุไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถมานั่งชิลๆ พักผ่อนได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด

5. The Cube Hostel

The Cube Hostel

ห้องพัก The Cube Hostel

ปิดท้ายด้วยที่พักย่านธุรกิจอย่างแถวสีลม ในราคาเริ่มต้น 400 – 500 บาทต่อคืนกับ “เดอะ คิวบ์ โฮสเทล” ที่พักที่คล้ายๆ กับโรงแรมแคปซูลของญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตามที่พักแห่งนี้ก็สามารถทำให้คุณพักผ่อนได้อย่างสบายๆ กับการตกแต่งที่เน้นโทนสีขาว ทำให้ดูสบายตา ผสานกับการดีไซน์ที่ดูทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับการพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ตไร้สาย ทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตู้นิรภัย เครื่องปรับอากาศ และอื่นๆ

นอกจากที่พักหลักร้อยนี้แล้ว Traveloka ยังขออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ ในช่วงเวลานี้ ด้วยส่วนลด 20% หรือสูงสุด 400 บาท สำหรับการจองโรงแรมและที่พักทุกแห่งในกรุงเทพเช่นกัน ตั้งแต่การจองวันนี้ถึง 30 ตุลาคม 2016 ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/promotion/octo-bkk

ขอบคุณข้อมูลจาก: Travel MThai

“ร้านคราม” อาหารไทยรสชาติไม่ธรรมดา ในซอยสุขุมวิท 39

เสร็จจากการใช้พลังงานไปอย่างหนักหน่วง ซึ่งจะตอบแทนได้ดีก็คือการกิน และถ้านึกถึงร้านอาหารเย็นๆ ถึงหัวค่ำที่ใกล้ที่สุดของเราขณะนี้คงหนีไม่พ้นถนนเยาวราช แต่อีกใจก็นึกอยากไปกินที่อื่น ระหว่างที่ค้นๆ อินสตราแกรมอยู่นานสองนาน สายตาไปสะกิดกับภาพของเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งอัพรูปอาหารไทยหน้าตาดีในโทนสีอบอุ่นๆ บวกกับแคปชั่นที่อ่านแล้วชวนทาน เราก็ไม่รออะไรอีกแล้ว ลากเพื่อนช้างๆ ไปลุยด้วยกันที่ คราม ร้านอาหารไทยในซอยพบมิตร สุขุมวิท 39

แค่บริเวณหน้าร้านที่เป็นบ้านสองชั้นทรงโบราณก็ดูสวยคลาสสิคกินขาดใจ พอก้าวผ่านประตูเข้าไปเจอกับบรรยากาศง่ายๆ สบายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์โต๊ะ เก้าอี้ไม้วินเทจ ผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ บาร์ขนาดพอเหมาะที่เรียงรายไปด้วยเครื่องดื่มนานาชนิด ไปจนถึงการตกแต่งจัดวางอย่างเรียบง่าย

สำหรับเมนูอาหารดูเหมือนง่ายๆ แต่ผสมผสานศิลปะ ตั้งแต่เรื่องรสชาติ รูปลักษณ์ ผิวสัมผัสของภาชนะใส่อาหารที่มีรายละเอียดชวนมองทุกใบ ทั้งรูปทรง พื้นผิว ลวดลาย สื่อถึงความพิถีพิถัน บางจานสวยงามจนไม่กล้าจับตะเกียบ (แต่จับช้อนส้อมแทน) จานแรกที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คือ แกงคั่วปูใบชะพลู เนื้อปูชิ้นใหญ่เต็มคำ มีรสเผ็ดนำจากเครื่องแกงใต้ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติจะยิ่งพอดีขึ้น

ต่อด้วยปลาหมึกพริกขี้หนูทอดกระเทียม เมนูนี้เรากรี๊ดมาก ชอบความกรึบๆ และความกรอบของกระเทียม แถมเสริมรสเผ็ดจากพริกขี้หนูเป็นความกลมกล่อมหาใครเปรียบยาก

เขยิบมาที่เมนูสามชั้นทอดผัดพริกขิง รสกลมกล่อมถึงเลเยอร์หมูสามชั้นทุกอณู

แต่เรายังไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ยังได้ลิ้มลองเมนูใหม่ ยำตำลึงไข่ดาวทอดกรอบ ที่ต้องยกนิ้วให้กับความกรอบของใบตำลึง ความนุ่มของไข่ดาว และรสเปรี้ยวอมหวานของน้ำยำที่อัดแน่นด้วยกุ้ง หมูสับ

ตบท้ายส้มตำยอดมะพร้าว รสเปรี้ยวแซมหวาน ได้เนื้อกุ้งเด้งๆ เพิ่มรสสัมผัสเข้ามาเคี้ยวเพลินใช่เล่น เมนูของร้านครามไม่ใช่เมนูหากินยาก

แต่ต้องยอมรับเรื่องรายละเอียดและรสสัมผัสที่คิดว่าอย่างดีแล้วทุกจาน นับว่าเป็นมื้อเย็นอีกมื้อที่เราไม่อยากจากลา แต่การจากลานี้ไม่ใช้เรื่องเศร้า กลับเป็นอะไรที่หัวใจพองโตกับรสชาติและความเอาใจใส่ในทุกสิ่งอันของทางร้านมากกว่า

ลายแทง

ซอยพบมิตร สุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท วัฒนา กรุงเทพฯ

เปิด:อังคาร-ศุกร์ 11.30-14.30 น. และ 17.30-22.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-23.00น.

ปิด: วันจันทร์

ราคาเฉลี่ยต่อคน 350 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก: Travel MThai

ช่างภาพเสี่ยงตาย เพียงเพราะอยากถ่ายภาพ ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์ รวมกันอยู่ในภาพเดียว!

เห็นแล้วต้องร้องว้าว! เมื่อ Mike Mezeul ช่างภาพชาวอเมริกันที่รักการถ่ายภาพและชอบการผจญภัย เดินทางไปยัง Volcanoes National Park ที่ตั้งอยู่บนเกาะในฮาวาย ไมค์ต้องเดินทางประมาณ 13 ไมล์ หรือเกือบๆ 21 กิโลเมตร ขึ้นไปยังภูเขาไฟที่ยังมีลาวาร้อนระอุไหลอยู่พื้นดินใต้ล่าง เพื่อจับภาพความงามของธรรมชาติทั้ง ลาวา ดาวตก ทางช้างเผือก และดวงจันทร์ ให้ทั้งหมดอยู่รวมกันในภาพๆ เดียว!

ซึ่งเขาเสี่ยงชีวิตมากๆ เพราะสามารถที่จะอยู่บนนั้นได้เพียงไม่กี่วินาที เพื่อถ่ายภาพที่ต้องการ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะถูกความร้อนจากลาวาเผาไหม้ซะเอง >,< ไมค์บอกว่า “นี้เป็นภาพเอ็กซ์ตรีมสุดๆ เท่าที่เคยถ่ายมา” ก็น่าจะใช่แหละไมค์ !!

กล้องที่ใช้ : Nikon D810 /เลนส์ Nikkor 14-24mm / ISO 2500, f/2.8, and 25 seconds.

ขอบคุณข้อมูล: http://www.mikemezphotography.com/

เรียบเรียงโดย: Travel MThai