อาหารตามสั่งที่ให้เยอะที่สุดในโลก “ร้านยาโภชนา สั่งลุย”

อาหารตามสั่งที่ให้เยอะที่สุดในโลก ร้านยาโภชนา สั่งลุย

01

เวลาหิวๆ เวลาน้อยๆ “อาหารตามสั่ง” มักเป็นทางเลือกที่ใครหลายคนนิยมทาน มาดูอาหารตามสั่ง “ร้านยาโภชนา สั่งลุย” จ.นครราชสีมา หรือ โคราชบ้านเรา ขึ้นชื่อว่าให้เยอะมากๆ ทานจานเดียวอิ่มแน่นอน

02

03

ใครหลายคนบอกว่า ให้เยอะเป็น 2 เท่าของร้านอื่นเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าเปิดมานานถึง 8 ปี แล้ว ลูกค้าที่มาทานเสร็จแล้วจุกออกไปเกือบทุกคน เพราะเครื่องแน่นมาก กับข้าวกลบข้าวมิดแทบไม่เห็นข้าวเลย

04

05

ซึ่งเมนูยอดฮิตของคนไทยเราก็คงจะหนีไม่พ้น “ข้าวผัดกะเพรา” อย่างแน่นอน มีทั้งกะเพราะหมู ไก่ หมูกรอบ กลิ่นกะเพราหอมฉุยเลย สิ่งที่ทางร้านให้ความใส่ใจอีกอย่างคือ ความสด ใหม่ ของอาหารที่นำมาทำ ซื้อเป็นวันต่อวัน ไม่ใช้เนื้อสัตว์แบบค้างคืน

06

07

08

09

10

11

และเป็นธรรมดา เมื่อทางร้านให้เยอะขนาดนี้ จึงมีลูกค้ามาอุดหนุนกันอย่างมากมาย บางครั้งอาจต้องรอนานนิดนึง พี่เจ้าของร้านก็อยากขอให้ลูกค้าทุกท่านเห็นใจ แต่เชื่อว่าเมื่อได้ทานแล้วก็ต้องพูดว่า คุ้มค่ากับเวลาที่รออย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่ให้เยอะเพียงอย่างเดียว แต่รสชาติเข้มข้น ใครชอบรสจัดยิ่งถูกใจแน่นอน

ดูจากเมนูและราคา เทียบกับปริมาณที่ทางร้านให้ จานนึงอยู่ที่ 35-45 บาท ถือว่าคุ้มค่า สมราคามากๆ น้ำแข็งฟรีให้อีกด้วย

12

ใครไป ร้านยาโภชนา สั่งลุย ไม่ถูก เบอร์โทร: 090-603-3097

เวลา: 07.00 – 14.00 น.

แผนที่ร้าน

บ้านเกาะ ซอย 2 นครราชสีมา (จากถนนสุรนารายณ์ เข้ามาทางบ้านเกาะซอย 2  ข้ามทางรถไฟแล้วให้เลี้ยวขวา ตรงมาอีกเล็กน้อย จะเจอหอพักชมดาวอยู่ทางซ้ายมือ และร้านยาโภชนา สั่งลุยอยู่ทางขวามือ

 

 

 

 

 

แบกเป้ตะลุย “ม่อนปุยหมอก”

แบกเป้ตะลุย ม่อนปุยหมอก

01

รู้จัก “ม่อนปุยหมอกไหม? ที่ถามอย่างนี้กับทุกคนก็เพราะว่า แทบไม่มีใครรู้จักที่นี่เลย อาจเป็นเพราะยังไม่มีใครกล่าวถึงมากเท่าที่ควร ม่อนปุยหมอกจึงกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่เเซงหน้าสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เราอยากจะพาคุณไปสัมผัสขึ้นมาอย่างทันที

02

ม่อนปุยหมอกเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและอลังการของทะเลหมอก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก มีพื้นที่ติดกับชายแดนพม่าโดยมีแม่น้ำเมยเป็นเส้นกั้นเขตแดน นอกจากม่อนปุยหมอกแล้วอุทยานฯ แห่งนี้ยังมีม่อนครูบาใส ม่อนกระทิง ม่อนกิ่วลม และม่อนพูนสุดา ที่สามารถชื่นชมทะเลหมอกได้สวยงามไม่แพ้กันม่อนปุย หมอกที่ว่าใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-4ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 3.8 กิโลเมตร ทั้งขาไปและกลับ ที่พิเศษคือต้องเดินทางจากอุทยานฯ ด้วยเท้าเท่านั้น

03

04

จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงตั้งอยู่ละแวกเดียวกับ อุทยานแห่งชาติแม่เมย คนในชุมชนแทบทุกคนจะคุ้นชินกับทางขึ้นม่อนปุยหมอกชนิดหลับตาเดินยังได้ทางอุทยานฯจึงให้คนในชุมชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมารับหน้าที่ไกด์และลูกหาบ ถือเป็นรายได้เสริม ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือ เนินทุ่งหญ้าขนลิง มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสีทองกระจายอยู่ทั่วเนิน เป็นอีกจุดถ่ายรูปที่สามารถใช้เวลาได้สักพักใหญ่เลย

05

เดินทางมาไกลขนาดนี้ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การได้สัมผัสกับความสงบท่ามกลางทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ยามเช้าที่แสนจะเรียบง่าย ถือเป็นไฮไลท์เด็ดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงบรรยากาศดีขนาดนี้ก็คงต้องถามทุกคนใหม่แล้วว่า… “ไปเที่ยวม่อนปุยหมอกกันไหม?”

06

วิธีการเดินทาง

  • เดินทางจากบขส. หมอชิต-แม่สอด ใช้เวลารวม 7 ชั่วโมงต่อรถแดงแม่สอด-แม่เสรียง (ที่ บขส.แม่สอด) ใช้เวลาเดินทางต่ออีก 3 ชั่วโมง
  • อย่าลืมกำชับบอกน้าคนขับลงปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติแม่เมยด้วยนะ
  • หลังจากนั้นสามารถโบกรถขึ้นไปอุทยานแห่งชาติแม่เมยต่อได้เลย (ไม่มีรถโดยสารสาธารณะ)

ใครไม่คิดจะไปเช็คอินที่“ม่อนปุยหมอก” ก็คงถือว่าพลาดมากๆ เลยล่ะ…

เครดิตจาก: นิตยสาร Weekend ฉบับเดือนมิถุนายน 2016

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่: www.mbookstore.com

เรียบเรียงโดย: Travel MThai

 

 

 

เที่ยวสุดสวิง กับ ชิงช้าต้นไม้ เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

เที่ยวสุดสวิง กับ ชิงช้าต้นไม้ เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

สวัสดีฮะเพื่อน ๆ วันนี้ Travel.mthai.com มีแหล่งท่องเที่ยวและที่พักมาแนะนำ เหมาะกับการเที่ยวหน้าหนาวเป็นที่สุด มันจะเป็นยังไงหากเราได้โลดโผนโจนทะยานชมวิวภูเขาสุดอลังการ กับอากาศอันหยาวเย็น เราจะพาไปเล่นชิงช้าต้นไม้ ที่ บ้านชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กันฮะ

01

ที่บ้านชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักในตัวเดียวกันเลยล่ะ มันฟินตรงที่ได้ไปกางเต๊นท์นอนอยู่กลางต้นไม้ ท่ามกลางทิวทัศน์ป่าเขา ซึ่งที่นี่ก็มีทั้งแบบกางเต๊นท์และก็แบบที่เป็นบ้านพัก หรือถ้าไม่ได้พักเขาก็อนุญาตให้ไปถ่ายรูปเล่นบนชิงช้าต้นไม้ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 20 บาท

02

หากเพื่อน ๆ นำเต๊นท์มาเอง จะเสียค่าที่เพียง 100 บาท หรือถ้าใช้บริการเต้นท์ของรีสอร์ทจะราคา 200 บาท ถือว่าไม่แพงและคุ้มมาก ๆ กับวิวที่เราจะได้สัมผัส และที่สำคัญมันมีอยู่เพียงต้นเดียว ทำการการแข่งขันในการมาจองที่ค่อนข้างสูง จองก่อนมีสิทธิ์ก่อน ซึ่งคะเนจากสายตาแล้วน่าจะได้ประมาณแค่ 3 เต๊นท์เท่านั้น

03

04

ข้างบนต้นไม้นั้น ทางรีสอร์ทเขาได้ทำที่เสียบปลั๊กไว้ด้วย สามารถชาร์จแบตกล้อง หรือพาวเวอร์แบงค์ได้สบายสะดวกสบายสุด ๆ เลยฮะ แถมเปิดเต๊นท์มาตอนเช้า ๆ ยังมีโอกาสเจอกับทะลหมอกสวย ๆ อีกแน่ะ แอดมินขอบอกเลยว่าของถูกและดี ยังมีอยู่จริงแน่นอน

05

06

ชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ – บ้านชมวิว และโฮมสเตย์ บ้านรักไทย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากคุณ – Pukbung Ratchaporn

เครดิต: Travel MThai