แปลงโฉม! ห้างเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา เป็นอพาร์ทเมนท์สุดเท่

แปลงโฉม! ห้างเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา เป็นอพาร์ทเมนท์สุดเท่

เมื่อห้างเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ก่อสร้างในปี 1828 กำลังจะถูกปิดตัวลง สถาปนิกไอเดียเจ๋งก็ได้นำมาแปลงโฉมเป็นอพาร์ทเมนท์เท่ๆ สไตล์ cozy ที่เน้นความเรียบง่าย สบายๆ ซะเลย! แต่ที่นี่ยังคงความสวยงของตึกแบบดั้งเดิมอยู่

01

ห้างเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ก่อสร้างในปี 1828 นี้ ตั้งอยู่ที่ รัฐโรดไอแลนด์, อเมริกา ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นอพาร์ทเมนท์ราคาประหยัด (Low-Cost) ซึ่งราคาก่อสร้างเพียง 7 ล้านดอลลาร์ มีห้อง 48 ห้องซึ่งการตกแต่งเน้นแบบเรียบง่าย สไตล์ cozy แต่ยังคงความสวยงามของโครงสร้างดั้งเดิมของตัวห้าง ให้บรรยากาศเหมือนเราพักอยู่ในยุคก่อน โดยได้สถาปนิกจาก Northeast Collaborative Architects มาออกแบบโครงสร้างและตกแต่งภายใน

02

ส่วนราคาห้องพัก 1 ห้องนอน ราคา $550 ต่อเดือน แต่ละห้องประกอบไปด้วย ห้องครัว, ห้องอาบน้ำ, เตียงนอน, เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น และชั้นล่างของอาคารก็มีร้านอาหาร-บาร์ให้บริการ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บริการซักรีด, ที่จอดเก็บจักรยาน และที่จอดรถ

Sourc : www.boredpanda.com

03

ภาพห้างสรรพสินค้าในยุคก่อน

04

ปัจจุบัน

05

06

ภาพบรรยากาศห้องพัก

07

08

09

10

11

ขอบคุณข้อมูลจาก: http://travel.mthai.com/world-travel/140496.html

มาดู 3 ประเทศที่มี “ทะลสาบสีชมพู” มหัศจรรย์สีหวานจากธรรมชาติ!

มาดู 3 ประเทศที่มี ทะลสาบสีชมพูมหัศจรรย์สีหวานจากธรรมชาติ!

ถ้าพูดถึงเรื่องมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ คงมีหลายสถานที่ที่ทำให้เราได้แปลกใจ ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ เหมือนกับที่ Travel.Mthai นำมาฝากกัน กับมหัศจรรย์สีหวาน 3 ประเทศที่มี “ทะลสาบสีชมพู” บอกเลยว่าสวยงามมากๆ เป็นอีกหนึ่งความสวยงามที่ไม่ควรพลาด เก็บตังค์เที่ยวกัน!!!
1. ทะเลสาบสีชมพู เร็ตบา (Retba) ประเทศเซเนกัล

01

ทะเลสาบสีชมพู เร็ตบา (Retba) เรียกกันอย่างเป็นทางการในภาษาฝรั่งเศสว่า Lac Rose ดินแดนที่มีชื่อเสียงของกรุงดาการ์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา เซเนกัลยกให้ ทะเลสาบสีชมพูเร็ตบา เป็นมรดกของชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ นอกจากความงดงามทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชนท้องถิ่นยังส่งเสริมให้ทะเลสาบแห่งนี้มีคุณค่า

02

สีสันอันตื่นตาของ ทะเลสาบสีชมพู แห่งนี้ เกิดจากความเข้มข้นสูงของเกลือ ซึ่งสูงกว่า Dead Sea ประมาณหนึ่งเท่า จึงกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดยักษ์ของ ฮาโลแบคทีเรีย ซึ่งเป็น แบคทีเรีย halophile เซลล์เดียว ที่มีสีแดงหรือม่วง ชอบเจริญในบริเวณที่มีเกลือมาก โดยสีของ ทะเลสาบเร็ตบา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่สีม่วงไปจนถึงสีชมพูเข้ม ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงแดดที่ได้รับในแต่ละวัน

03

กิจกรรมหลักแห่งปี คือ การตกเกลือ โดยใช้เวลา 10-12 ชั่วโมงต่อวัน ในการขูดเกลือจากก้นทะเล ผู้ที่จะแช่ตัวใน ทะเลสาบสีชมพู แห่งนี้ ต้องทาเนยถั่ว Shea nut เพื่อป้องกันน้ำเกลือที่เค็มจัดสร้างผลเสียแก่ร่างกาย

04

2. ทะเลสาบสีชมพู (Lake Hillier) ของประเทศออสเตรเลีย

05

ทะเลสาบสีชมพู เลค ฮิลเลอร์ (Lake Hillier) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ตั้งอยู่ในเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะ Recherche Archipelago ที่ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย 105 เกาะ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย ถูกค้นพบครั้งแรกโดยกัปตัน Matthew Flinders ขณะเมื่อเขาขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเกาะในปี 1802

06

ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร มีขอบแคบๆ ที่ปกคลุมเนินทรายและต้นไม้ที่แยกทะเลสาบออกจากทะเลด้านนอก ขอบทะเลสาบปกคลุมไปด้วยแผ่นเกลือสีขาว ถัดขึ้นไปโดยรอบเป็นป่าต้น Paperbark และต้น Eucalypt ปกคลุมหนาแน่น ชมพูหวานเหมือนนมเย็นน้ำในทะเลสาบมีสีถาวร แม้ตักขึ้นมาเก็บไว้ในภาชนะสีก็ไม่จางหาย ซึ่งสีชมพูนี้เกิดจากความเข้มข้นสูงของเกลือ และแบคทีเรียเช่นกัน

3. ทะเลสาบสีชมพู Las Coloradas ประเทศเม็กซิโก

07

ทะเลสาบสีชมพู Las Coloradas แห่งนี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเล็กแห่งหนึ่งในรัฐยูกาตัง บนชายฝั่งตะวันออก คาบสมุทรยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก น้ำทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นสีชมพูนั้นเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น แพลงตอนสีแดง กุ้งทะเล และแบคทีเรีย ที่อาศัยอยู่ในน้ำ รวมถึงเกิดจากความเข้มข้นสูงของเกลือ เนื่องจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมเกลือขนาดใหญ่ของประเทศเม็กซิโกอีกด้วย

08

09

ขอบคุณข้อมูลจาก: http://travel.mthai.com/world-travel/140512.html

 

 

Sweet Pista Little Café คาเฟ่สไตล์โฮมเมด ไซส์มินิมอล

Sweet Pista Little Café คาเฟ่สไตล์โฮมเมด ไซส์มินิมอล

01

หากใครหลงรักญี่ปุ่น ประเทศบนเกาะเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ภาษา ผู้คน รวมทั้งอาหาร หากคุณมาที่นี่ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน เพราะมีคาเฟ่น่ารักๆ แห่งหนึ่งที่ให้บรรยากาศอบอุ่นๆ ร้านนี้มีชื่อว่า “Sweet Pista Little Café

02

ร้าน Sweet Pista Little Café ตกแต่งผนังด้วยปูนเปลือยผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่น พร้อมกับเสิร์ฟขนมโฮมเมด ซึ่งทำสดใหม่จากครัว อีกทั้งยังเปิดพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นบรรยากาศได้ทั้งหมด และเห็นวิธีทำขนมหวานต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด แถมไม่ต้องรอนานอีกต่างหาก

03

04

เมนูขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดเด็ดขาดมีทั้ง Melon Kakigori น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า คากิโกริ นำมาปั่นรวมกับนมและเมลอนจนได้เนื้อละเอียด เพิ่มรสเค็มนิดๆ ด้วยพาร์มาแฮม อีกเมนูที่แนะนำกับ Watermelon Kakigori เมนูอาหารไทยโบราณอย่างแตงโมปลาแดง ครีเอทรูปแบบใหม่ด้วยน้ำแข็งไสปั่นรวมกับแตงโมและนม โรยหน้าด้วยปลาแห้ง ให้รสกรอบหวานออกเค็ม

05

06

ส่วนเมนูขายดีสุดๆ ของร้านต้องยกให้ Passion Fruit Cheesecake ชีสเค้กเนื้อนุ่มผสมเสาวรส ที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ซ้อนด้วยคุกกี้ครัสท์ แล้วมาปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ กับ Hot Latte กาแฟลาเต้จากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าคั่วระดับกลาง ให้รสเข้มขมนิดๆ ซึ่งเข้ากับเบเกอรี่ได้อย่างลงตัว

07

08

เพราะความอร่อยและมีเสน่ห์เฉพาะตัวนี้เอง ทำ ให้ที่นี่เป็นอีกร้านที่ถูกใจทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

เครดิต: นิตยสาร Weekend ฉบับเดือนสิงหาคม 2016
อ่านเพิ่มเติม: www.mbookstore.com
ขอบคุณข้อมูลจาก: http://food.mthai.com/food-recommend/114760.html