รับส่วนลด 500 บาท! ชะอำ เมธาวลัย (Cha-Am Methavalai Hotel) จ.เพชรบุรี

ชะอำ เมธาวลัย (Cha-Am Methavalai Hotel) .เพชรบุรี

มอบส่วนลดทันที 500 บาท เมื่อจองโรงแรมนี้

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

ชะอำ เมธาวลัย (Cha-Am Methavalai Hotel) จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ริมหาดชะอำ ให้บริการห้องพัก 3 สไตล์ อาคารที่พักหลังใหญ่ได้รับการออกแบบให้ลาดเอียงมีลักษณะเหมือนปีรามิด มีระเบียงลอยฟ้าขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณได้ชมวิวทิวทัศน์ในมุมมองแบบพาโนรามา ส่วนห้องพักแบบบีช วิง (Beach Villa Wing) สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเล นอนอาบแดดได้อย่างเพลิดเพลินใจ และยังมีสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก ห้องพักทุกห้องเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานสากล และคุณยังได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นวดแผนไทย ฟิตเนส ขี่ม้า บานาน่าโบ๊ท ฯลฯ ชะอำ เมธาวลัย จึงเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนของครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณ

ข้อมูลห้องพัก
ห้องพักประเภท ดีลักซ์ มี 3 แบบ คือ Main Wing / Beach Villa / Thai Pavilion
• ห้องพักประเภท ดีลักซ์ แฟมิลี่ (1 เตียงคู่ + 1 เตียงเดี่ยว) สำหรับเข้าพัก 3 ท่าน
• ห้องพักประเภท จูเนียร์ สวีท เป็น ห้องพัก 1 ห้องนอน + 1 ห้องนั่งเล่น
• ห้องพักประเภท เมธาวลัย สวีท เป็นห้องพัก 2 ห้องนอน + 1 ห้องนั่งเล่น
• ห้องพักประเภท ไทยพาวิเลี่ยน เป็นห้องพักแบบ 4 ห้องนอน พักได้สูงสุด 8 คน

สถานที่ตั้ง
โรงแรม ชะอำ เมธาวลัย ตั้งอยู่บนชายหาดชะอำ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟ รถโดยสารประจำทาง หรือเครื่องบินได้เช่นกัน

ห้องพักแบบ Deluxe Family

ห้องพักแบบ Deluxe

ห้องพักแบบ Superior

ห้องพักแบบ Junior Suite

ห้องพักแบบ Methavalai Suite

ห้องพักแบบ Thai Pavilion

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

เงื่อนไข:

-ห้องพักทุกประเภท 2 วัน 1 คืน จำนวน 1 ห้อง

-รับส่วนลด 500 บาท เมื่อมียอดชำระค่าห้องพักตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก Travel Guru เท่านั้น

-ราคาดังกล่าวรวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

-Check in 14.00 hrs and Check out 12.00 noon

-ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง (Long Weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ

-กรุณาสำรองห้องพักอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนเข้าพัก

-กรุณาสำรองห้องพักได้ที่ 02-100-7008 เท่านั้น

-ไม่สามาถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆหรือแลกเป็นเงินสดได้

-กรณีเลื่อนวันหรือยกเลิกการเดินทางต้องแจ้งก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำการ และ สามารถเลื่อนได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น

-หากของรางวัลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทจะหาของรางวัลที่มูลค่ามากกว่าหรือเทียบเท่ามาชดเชยให้

ระยะเวลา: วันนี้ – 31 ต.ค. 61

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.hotelsthailand.com/thailand/cha-am/cha-am-methavalai-hotel.html

7 ที่เที่ยวสระบุรี ใกล้กรุงเทพแค่นี้ ไม่ต้องรอวันหยุดก็ไปได้

7 ที่เที่ยวสระบุรี ใกล้กรุงเทพแค่นี้
ไม่ต้องรอวันหยุดก็ไปได้

สระบุรี ไม่ควรเป็นแค่เมืองแวะพักซื้อกะหรี่พัฟ แล้วก็โบกมือบ๊ายบาย เพื่อไปเที่ยวต่อโคราช หรือจังหวัดอื่นทางภาคอีสาน แต่ควรเป็นเมืองหยุดพักเที่ยว เพราะนอกทุ่งดอกทานตะวันที่โด่งดัง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย รวมถึงสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาด้วย  มาดูกันเลยว่าจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่เนี๊ยะ เดินทางก็ง่าย ใกล้นิดเดียว จะมีที่ไหนน่าสนใจให้ได้ไปชิลล์กันบ้าง กับ 7 ที่เที่ยวสระบุรี ไม่ต้องรอวันหยุดก็ไปได้

1. สวนบิ๊กเต้ มวกเหล็ก

สวนบิ๊กเต้ จัดว่าเป็นแหล่งปลูกดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุดของอ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ปลูกบนพื้นที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ โดยมีดอกเบญจมาศมากกว่า 30 สายพันธุ์เลยทีเดียว เช่น อัปปาเหลืองฮาฟสไปเดอร์, ปิงปองมัมชมพูฮาวาย และอีกมากมายหลายสีสัน ขาว ม่วง เหลือง ชมพู เบ่งบานให้ชมตลอดปี มาเที่ยวถ่ายรูปกันได้ทุกวัน

ค่าเข้า : 20 บาทต่อคน

***********************************************************

2. ฟาร์มโคนม ไทย เดนมาร์ค

ขอบคุณภาพจาก : ฟาร์มโคนม ไทยเดนมาร์ค อสค

นั่งรถชมวิวทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ และเปิดประสบการณ์ใหม่ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของ ฟาร์มโคนมไทยเดนมาร์ค ตั้งแต่กระบวนการผลิตนมวัวแดง การสาธิตการรีดนมวัว หรือลองรีดนมวัวด้วยตัวเองก็ทำได้ เพลิดเพลินกับสัตว์น้อยน่ารัก นกกระจอกเทศ อูฐ กวาง พร้อมเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของกิจการโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙

ค่าเข้า : 120 บาท/คน

***********************************************************

3. ไร่องุ่นคุณมาลี

ขอบคุณรูปภาพจาก : pinterest

ไร่องุ่นคุณมาลี สวรรค์น้อยๆ ของชอบทานองุ่น ตั้งโดดเด่นอยู่กลางหุบเขาถึง 60 ไร่ นอกจากมีองุ่นรสชาติหวานกรอบ แถมปลอดสารพิษ ให้ชิมกันสดๆ จากต้นแล้ว ยังมีน้ำองุ่นรสชาติเข้มข้น และไวน์องุ่นรสเลิศ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากองุ่นหลากชนิด อย่างแยมองุ่น หรือ ท๊อฟฟี่องุ่น ให้เลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วย

***********************************************************

4. น้ำตกเจ็ดคต

ขอบคุณภาพจาก : info.dla

น้ำตกเจ็ดคต ตั้งอยู่ในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เจ็ดคตโป่งก้อนเสา มีต้นกำเนิดจากลำห้วยเจ็ดคต  สายน้ำตกไหลลงมาจากผาหินเป็นทางยาว สูงประมาณ 10 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ประกอบด้วย น้ำตก 4 แห่ง คือ น้ำตกเจ็ดคตเหนือ น้ำตกเจ็ดคตกลาง น้ำตกเจ็ดคตใต้ และน้ำตกเจ็ดคตใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ หรือใครติดใจบรรยากาศ ก็มีลานกางเต็นท์ ให้นอนริมอ่างเก็บน้ำด้วย

***********************************************************

5. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าโปร่ง มีต้นน้ำมาจากผืนป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบไปด้วยน้ำตกชั้นเตี้ยๆ จำนวน 7 ชั้น สายน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาผ่านชั้นหิน ลักษณะคล้ายแก่งกว้างๆ ที่มีแอ่งน้ำตื้นๆ รองรับหลายจุด สามารถลงเล่นน้ำ หรือปูเสื่อนั่งพักผ่อนกันตามสบาย

***********************************************************

6. วัดพระพุทธบาท

ขอบคุณรูปภาพจาก : ที่กินที่เที่ยว

พระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.2167 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ปูชนียสถานที่สำคัญ คือ รอยพระพุทธบาท ที่ประทับไว้ในแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี เป็นที่เคารพ นับถือบูชาของพุทธศาสนิกชนทุกคน

ขอบคุณรูปภาพจาก wikimedia

***********************************************************

7. ทุ่งทานตะวัน

ขอบคุณภาพจาก : TAT_Tiewpakklang

ทุ่งทานตะวัน ตั้งอยู่ที่บริเวณเขตติดต่อระหว่างจังหวัดลพบุรี และสระบุรี ตามเส้นทางสายพัฒนานิคมวังม่วง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี ริมฝั่งถนนจะสะพรั่งไปด้วยสีเหลืองของดอกทานตะวัน ซึ่งนอกจากการขับรถเที่ยวชมแล้ว ยังสามารถนั่งไฟสาย กรุงเทพฯหนองคาย เมื่อเข้าพื้นที่ตำบลท่าคล้อ หินซ้อน ของอำเภอแก่งคอย จะเห็นทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามตลอดแนวสองข้างทางรถไฟ

ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุดยาว ก็เที่ยวได้สบายๆ จะจัดโปรแกรมแบบ one day trip หรือ แวะพักค้างสักคืนก็ได้ แถมไม่ต้องเหนื่อยรถติดช่วงเทศกาลอีกต่างหาก รู้งี้แล้ว รีบโทรชวนเพื่อนไปเที่ยวเสาร์อาทิตย์นี้กันเลยค่า

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Traveloka

7 จุดชมวิว ทะเลหมอก ภาคใต้ เที่ยวได้ตลอดปี

7 จุดชมวิว ทะเลหมอก ภาคใต้
เที่ยวได้ตลอดปี

วันนี้ travel mthai จะพาทุกคนล่องใต้ แต่ทริปนี้ไม่มีน้ำทะเลสีครามใส ไม่มีหาดทรายขาว เพราะเราจะพาไปเที่ยว ทะเลหมอก ภาคใต้ ใช่แล้ว ฟังไม่ผิด ที่ภาคใต้บ้านเรานี่แหละค่ะ สวยไม่แพ้ภาคเหนือเลย ทะเลหมอกหนาลอยฟุ้ง อากาศดี๊ดี มีให้เห็นตลอดปี อย่างนี้ต้องรีบไป กับ 7 จุดชมวิวสุดอลังการ จะงามงด ชวนฟิน ดีต่อใจขนาดไหน มาดูกัน!!

1. เขาไข่นุ้ย จ.พังงา

เขาไข่นุ้ย หรือ ภูเขาไข่นุ้ย มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่แพ้ดอยหรือภูทางตอนบนของประเทศ นั่นคือวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทะเลอันดามันในมุมสูง วิวทิวเขาเรียงราย ทะเลหมอกที่มีให้ชมทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ฤดูร้อน แถมอากาศเย็นสบายคล้ายภาคเหนือ ถ้านอนกางเต๊นท์สักคืน จะฟินมาก

*******************************************************************

2. จุดชมวิวยอดเขาศูนย์ จ.นครศรีธรรมราช

Credit : news.mthai.com

ขอแนะนำ ทะเลหมอกแดนใต้ “ยอดเขาศูนย์” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ  510 เมตร วิวด้านบนมองเห็นทะเลหมอกได้รอบทิศ 360 องศา กับแสงสีทองของดวงอาทิตย์ยามเช้า ฟินวนไปมันช่างดีต่อใจจริงๆ นอกจากนี้บนยอดเขายังเป็นที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคม

*******************************************************************

3. ควนนกเต้น จ.พัทลุง

ขอบคุณรูปภาพจาก : จุดชมวิวควนนกเต้น พัทลุง

จุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ของพัทลุง ในอำเภอกงหรา เส้นทางเข้าอาจลำบากนิดหน่อย ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไป แต่รับรอง ทัศนยภาพเบื้องหน้าจะทำให้ทุกคนหายเหนื่อย แนะนำให้กางเต้นท์เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ ตืนเช้ามานั่งจิบกาเเฟเบาๆ ดูสายหมอกตอนเช้า ดูเเสงเเรกของวันใหม่ หลังจากเสพวิวจนจุใจแล้ว ยังลงไปเล่นน้ำตกด้านล่างจุดชมวิวได้อีก ช่น น้ำตกมโนห์รา น้ำตกปากราง น้ำตกไพรวัลย์ ฯลฯ

*******************************************************************

4. ฮาลาบาลา จ.นราธิวาส

ขอบคุณรูปภาพจาก TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง

ใช่ว่า นาราธิวาส จะน่ากลัวไปเสียหมด เพราะหากได้มาสัมผัสธรรมชาติสวยๆ ของผืนป่าปลายด้ามขวานอย่าง ฮาลาบาลา แล้ว จะต้องตกหลุมรักจนอยากลับมาซ้ำอีกรอบแน่นอน

ฮาลาบาลา” หรือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา” ผืนป่าใหญ่รวม 2 จังหวัดคือ ป่าฮาลา จังหวัดยะลา และ ป่าบาลา อยู่ในอำเภอแว้งและอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน อยู่ติดชายแดนไทยมาเลเซีย

ไฮไลท์คือการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ส่องสัตว์ โดยเฉพาะนกเงือกที่มีมากที่สุด แวะนั่งพักที่น้ำตกสิรินธร ชมพระอาทิตย์ขึ้นเคล้าทะเลหมอกบนจุดชมวิวภูศาลา ล่องแก่งในแม่น้ำสายบุรี ตื่นตาตื่นใจกับการร่อนแร่ทองคำแบบพื้นบ้าน ลอดอุโมงค์ที่ในอดีตเคยเป็นเส้นทางลำเลียงเหมืองแร่ทองคำ ปัจุจบันรอบๆ เต็มไปด้วยผืนป่าและลำธารไหลผ่าน

*******************************************************************

5. เขาจังโหลน กรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช

ขอบคุณรูปภาพจาก TAT Nakhon Si Thammarat

นอกจาก กรุงชิง จะมีน้ำตกที่สวยงามมากๆ แล้ว ยังมีทะเลหมอกที่รอเผยโฉมให้ทุกคนเห็นบนยอดเขาจังโหลน  จัดว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ Unseen แห่งหนึ่งของเมืองคอน ดื่มด่ำบรรยากาศพร้อมชมตะวันยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ จิบกาแฟอุ่นๆ กลางสายหมอก ดีขนาดนี้ถ้าจะไม่มาก็ใจแข็งเกินไปแล้ว สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิว ต้องอาศัยรถนำเที่ยวของชาวบ้าน เพราะมีความชำนาญทางมากกว่า

*******************************************************************

6. อัยเยอร์เวง จ.ยะลา

เดิมทีเรียกว่า ยอดเขาไมโครเวฟ ที่ตั้งสถานีถ่ายทอดสัญญาณการสื่อสาร มีระดับความสูงประมาณ 612 เมตร จากระดับน้ำทะเล ปัจจุบันเรียกขานกันว่า ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ที่สำคัญคือไม่ว่าฤดูกาลไหนก็มีทะเลหมอกให้ชม (แต่จะเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สามารถมองไปได้ไกลถึง ยอดเขากุนุงซิลิปัต บริเวณด้านล่าง มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม น้ำชา กาแฟ ส่วนใครอยากนอนค้างคืน ชาวบ้านเขาก็มีเต๊นท์บริการ ภายในพื้นที่สวนยางของชาวบ้านค่ะ

*******************************************************************

7. เขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก
.สุราษฎร์ธานี

ปิดท้ายที่ เขื่อนรัชชประภา ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก บอกเลยใครสายชิลล์ ชอบความสงบ อยู่กับธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้คุณประทับใจแน่นอน ทั้งวิวทิวเขา ทะเลสาบกว้างใหญ่ ยามเช้ามีหมอกลอยคลอเคลียเหนือยอดเขาหินปูน นอกจากนี้ ยังมีแพพักให้นอนหลับไปพร้อมอากาศเย็นสบาย พ่วงด้วยกิจกรรมเล่นน้ำ พายเรือคายัค ตะลุยถ้ำ เดินป่า และชมบัวผุด ซึ่งจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนมีนาคม

ขอบคุณข้อมูลจาก : อนุสาร อ...TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง