ชีสเค้กมะม่วง

ส่วนผสมทำส่วนของฐานชีสเค้ก

• แครกเกอร์บดละเอียด
• น้ำตาลทรายแดง 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เนยสดละลาย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 หยิบมือ

วิธีทำฐาน

1. นำแครกเกอร์ที่บดจนละเอียดมาใส่อ่างผสมเทเนยละลายน้ำตาลทรายและเกลือลงไป ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่พิมพ์ขนาดต่างๆ ที่เตียมไว้ เกลี่ยและกดให้แน่นและเสมือกัน และนำเข้าตู้เย็นพักไว้

ส่วนผสมของตัวชีสเค้ก

• ครีมชีส 300 กรัม
• ไข่ไก่ 3 ฟอง (อุณภูมิห้อง)
• น้ำตาลทราย 60 กรัม
• นมจืด ๓/๔ ถ้วยตวง
• เจลาติน ๗ กรัม
• วานิลลา ๑ ช้อนชา
• มะม่วงสุกหั่นเต๋า

วิธีทำครีมชีส

1. ตีครีมชีสด้วยความเร็วปานกลางจนเนียนและใส่น้ำตาลทรายตามลงไปตีจนน้ำตาลละลายจนหมด
2. ใส่ไข่ลงไปตีให้เข้ากัน กลิ่นวานิลา นมจืด เจลาติน(ที่ตุ๋นละลายจากน้ำอุ่นแล้ว) ตีช้าๆให้พอเข้ากัน เสร็จแล้วนำไปตั้งไฟคนให้ทุกอย่างละลายดีแล้วลงมาพักไว้สักพักนึงและวเนื้อเนื้อมะม่วงที่หั่นเตาคตุลกเคล้าเบาและนำไปใส่พิมพ์ที่กรุเครกเกอร์ นำเข้าตู้เย็นอีกครั้งให้ชีสเซ็ทตัว

ส่วนผสมของหน้าชีสเค้ก

• มะม่วงสุก บดละเอียดแล้วคั้นเอากากออก 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 10 กรัม
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
• ผงเจลลี่ 3 กรัม

วิธีทำ

1. คั้นมะม่วงสุกกรองเอากากออก เอาน้ำมะม่วงผสมกับน้ำตาลทรายและน้ำมะนาว ขนให้เข้ากัน เทผงเจลลี่ลงไปคนพอให้ละลายแต่ยังไม่ละลายจนหมดต้องนำขึ้นไปตั้งไฟคนไปเรื่อยๆจนไม่มีเม็ดเจลลี่หลงเหลืออยู่จากนั้นปิดไฟลงมาพักไว้ก่อน
2. เทใส่ชีสที่แช่จนแข็งตัวเมื่อสักครู่(ต้องแน่ใจว่าแข็งตัวแล้วจริง)ใสไปจนหมดแล้วนำไปแช่ตู้เย็นอีกสักครั้งนึ่ง ทุกอย่างเซ็ทตัวดีแล้วแค่นี้ก็ตัดเสิร์ฟได้เลย

เมื่อพูดถึงอาร์ท อิน พาราไดซ์ เราก็ต้องนึกถึงที่พัทยา ใช่มั้ยแต่วันนี้เราไม่ต้องไปไกลถึงพัทยาแล้ว ที่กรุงเทพเราก็มีนะ ที่ศูนย์การค้าเอสพานาด รัชดา ชั้น4 พิพิธภัณฑ์ภาพวาดสามมิติปกติเวลาเราไปดูงานพิพิทพันธ์ เราก็จะนึกถึง ภาพวาดเขียนใส่กรอบอยู่ตามฝาผนัง

แต่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภาพทั้งหลายที่เราเห็นสามารถเนรมิตให้เราเหมือนอยู่ในสถานที่แห่งนั้นยืนอยู่ในภาพแล้วถ่ายมาจะเหมือนเรายืนอยู่ปากเหวดูสมจริงมากจริงๆสำหรับพิพิธภันฑ์ภาพวาดสามมิติ Art in Paradise bangkok นี้ถือเป็นสาขาที่ 3 ของเมืองไทย สาขาแรกคือ พัทยา สาขาที่สอง คือ เชียงใหม่ผลงานการวาดจะเป็นคนเกาหลี เห็นว่าที่เกาหลีก็ได้รับความนิยมมากๆเช่นกันค่าเข้าชมสำหรับที่นี่ ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 120 บาท (สูงไม่เกิน 120 ซม)ต่ำกว่านี้ เข้าฟรีค่ะเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น.(ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ปิดขายบัตรเข้าชม เวลา 20.00 นว่าแล้วเราก็ไปดูรูปกันดีกว่าว่าที่ อาร์ตอินพาราไดส์ สาขา กรุงเทพเอสพละนาด รัชดาภิเษก นี้ จะมีรูปอะไรใหม่ๆให้ชมบ้าง

เครดิต: paiinaidii.com

ห้องอาหารไทย ไรซ์ แอนด์ ชิลลี่ ณ โรงแรม โหมด สาทร เชิญทุกท่านร่วมลิ้มรสอาหารไทยแบบเต็มอิ่ม เติมไม่อั้น ในราคาเพียง 1,200 บาทต่อท่าน ( ไม่รวมเครื่องดื่ม ) ทุกวันศุกร์เฉพาะมื้อเย็น ตั้งแต่เวลา 18:30 – 23:00 น. เท่านั้น  เชฟสุธน พลจำกัด ผู้เชี่ยวชาญเปี่ยมด้วยประสบการณ์ด้านอาหารมานานับ 10 ปี ชวนคุณสัมผัสเพลิดเพลินเริงอารมณ์ด้วยหลากหลายเมนูทั้งคาวและหวานจาก บุฟเฟ่อาหารไทยตามสั่ง ที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบเลิศรสเน้นรสชาติจัดจ้านแบบไทย พร้อมการตกแต่งแบบร่วมสมัยด้วยดีไซน์เก๋ที่มีเอกลักษณ์ชวนน่ารับประทาน เชิญพบกับเมนูไฮไลท์ที่มาแล้วต้องสั่ง อย่าง “ปลาเก๋าผัดกระเพรา” ที่มีการใช้เนื้อปลาเก๋าเกรดพิเศษ หมักด้วยสูตรเฉพาะของ ไรซ์ แอนด์ ชิลลี่ ก่อนจะนำไปทอดทั้งชิ้นด้วยขั้นตอนที่ปราณีต ทำให้ได้ปลาเก๋าที่มีรูปทรงสวยงามราดด้วยซอสกระเพราหอม เผ็ดร้อนถึงใจ หรือเมนูจานพิเศษที่ทำให้คุณลืมทุกความทรงจำ เกี่ยวกับเนื้อ เมื่อคุณสั่ง “เนื้อย่าง” ที่ใช้เนื้อไทย-เฟร้นท์อย่างดี ย่างในระดับที่ไม่สุกจนเกินไป มีความนุ่มกำลังดี เสิร์ฟคู่กับน้ำยำรสแซ่บ ที่มีการใช้องุ่นนอกเนื้อแน่นเพื่อให้ได้รสหวานกลมกล่อมมากขึ้น สุดท้ายจานนี้ห้ามพลาด “มัสมั่นน่องแกะ” ที่ใช้ขาแกะคุณภาพชั้นดีเกรดพรีเมียมที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย นำมาผ่านการตุ๋นกับสมุนไพรไทย ยาวนานกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อให้ได้เนื้อแกะที่นุ่มและไม่มีกลิ่นสาบ ก่อนจะนำมาผสมกับเครื่องแกง ที่ตั้งใจรังสรรค์ให้มีรสชาติเข้มข้น ครบรส เสิร์ฟเคียงคู่กับอาจาดตามสูตรตำหรับไทย จากขั้นตอนการทำที่พิถีพิถันทำให้อาหารจานนี้เป็นที่ขนานนามดังทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายความอร่อยรอคุณอยู่ที่ ไรซ์ แอน์ ชิลลี่ ห้องอาหารไทย ไรซ์ แอนด์ ชิลลี่ ชั้น 5 เปิดให้บริการทุกวันอังคาร – เสาร์ เวลากลางวัน 11:30 – 14:00 น. และเย็น 18:30 – 23:00 น. (ปิดทำการทุกวันอาทิตย์และจันทร์) ณ โรงแรมโหมด สาทร (สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ทางออกหมายเลข 3) **กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 0 2623 4555 ต่อ 1091 อีเมล์ sec.fb@modesathorn.com ติดตามได้ที่; www.modesathorn.com facebook:modesathornhotel

เครดิต : บอกเล่าเก้าสิบ food.mthai.com