หมู่เกาะสิมิลัน ดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเล สวยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

image001

“หมู่เกาะสิมิลัน” ได้รับการกล่าวขานจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกถึงความงดงามไม่ว่าจะเป็นบนเกาะหรือโลกใต้ทะเลเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามแห่งทะเลอันดามัน โดยคำว่า “สิมิลัน” มาจากภาษายาวีหรือภาษามลายูแปลว่า “เก้า” ใช้เรียกหมู่เกาะที่เรียงตัวกันเป็นแนวทอดยาวบนผืนทะเลจำนวนเก้าเกาะ ซึ่งตัวสำนักงานของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะอยู่ที่ “เกาะสี่” มีทั้งบ้านพัก ร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร ห้องน้ำ และสถานที่กางเต็นท์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาค้างคืนที่นี่เพื่อรอชมความงดงามของธรรมชาติในยามเช้าเมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์เริ่มขับแสงสีทองขึ้นเหนือท้องฟ้า

image002

จุดชมปะการังน้ำตื้นที่ไม่ควรพลาดคือหน้าอ่าวของ “เกาะหก” และ “เกาะแปด” จะมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่มากมายหลายชนิด เช่น ปะการังเห็ด ปะการังช่องแผ่นม้วนตัวเป็นรูปจอกขนาดใหญ่ ปะการังเขากวางชั้นและปะการังชนิดอื่นๆ ที่สวยงามอีกมากมาย มีฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายไปมาให้เราได้ชมอย่างเพลินตา หากโชคดีอาจได้เห็นกุ้งมังกรที่หลบซ่อนตัวอยู่ตามปะการังอีกด้วย โดยเฉพาะที่ “เกาะแปด” เกาะที่ใหญ่ที่สุดและยังมีสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลันนั่นคือหินรูปทรงเหมือนใบเรือ ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสจนเห็นฝูงปลาและปะการัง รวมถึงมีจุดชมวิวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติดูนกชาปีไหนอีกด้วย

image003

หมู่เกาะสิมิลันมีจุดดำน้ำลึกที่สำคัญๆ ดังนี้กองหินคริสต์มาสพ็อยท์ ความลึก 15-30 เมตร จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่ไกลจากเกาะเก้า ที่นี่มีถ้ำใต้น้ำซึ่งมีดอกไม้ทะเลและปะการังสวยงามมาก สามารถพบปลาฉลามครีบขาว

ปลาฉลามสีเทา ปลากระเบนราหูู ปลาริ้บบิ้นสีฟ้า และกั้งตั๊กแตนสันฉลาม แนวหินที่โผล่ขึ้นมาบนทะเลใกล้กับ “เกาะปายัง”

น้ำลึก 15-35 เม

ตร กระแสน้ำค่อนข้างแรง ที่นี่มีฝูงปลาโอ ปลากะมง ปลากระเบนราหูแบะฉลามกบ

image004

กำแพงเมืองจีน แนวหินใหญ่เหมือนกำแพงเมืองจีนทอดยาวมาจากสันฉลาม จุดดำน้ำที่มีพื้นที่กว้าง สามารถพบกัลปังหารูปพัดและปลาทะเลลึกสีสันสวยงาม
หินหัวกะโหลก กำแพงผาหินที่ความลึก 15-35 เมตร พบปะการังอ่อนสีชมพูอยู่ตามแนวปะการังแข็ง ที่อยู่ของสัตว์น้ำขนาดเล็ก รวมทั้งกระเบนราหู

image005

กองหินตาชัย ยอดหินจมน้ำเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาน้อยใหญ่ สามารถพบทั้งฉลามวาฬและปลากระเบนราหู
สวนปลาไหล ทางด้านตะวันออกของเกาะห้า ที่นี่มีฝูงปลาไหลสีขาวเทาตัวเท่านิ้วก้อยจำนวนมากที่โผล่หัวขึ้นมาจากรูบนผืนทรายใต้ทะเล ปลาไหลพวกนี้ตกใจง่ายจึงไม่ควรเข้าไปใกล้ๆ

image006

image007

ที่มา

www.ท่องเที่ยวไทย.com

 

ริมจัน รีสอร์ท มอบส่วนลดทันที 500 บาท เฉพาะสมาชิก Trael Guru เท่านั้น

ริมจัน รีสอร์ท มอบส่วนลดทันที 500 บาท เฉพาะสมาชิก Trael Guru เท่านั้น

image001

image002

image003

ริมจัน รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนที่ให้บรรยากาศ และนิยามของความ เป็นส่วนตัวแบบล้านนาอย่างแท้จริง ที่นี่ท่านสามารถ
มองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของ นครล้านนา รวม ทั้งได้สัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของ เชียงราย โอบล้อมด้วย แม่น้ำจัน และสวนดอกไม้ ที่ร่มรื่น งดงาม และ มีระดับ

image004

image005

image006

image007

นอกเหนือจากบริการ ห้องพัก และ ห้องอาหาร ริมจัน รีสอร์ท” ยังมีในส่วนของ ห้องจัดเลี้ยง
ห้องประชุม สัมมนา สนุ๊กเกอร์คลับ  สระว่ายน้ำ นวดแผนโบราณ ไว้คอยบริการเพื่อเป็นอีกหนึ่ง
กิจกรรม สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในวันพิเศษ ของท่านอย่างแท้จริง

ริมจัน รีสอร์ท ได้เปิดบริการด้านการจัดงานการประชุม อบรม สัมมนา จัดงานเลี้ยง จัดงานมงคลสมรส งานเลี้ยงรุ่น งานเลี้ยงรับแขก งานเลี้ยงฉลอง ฯลฯ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการท่านอย่างครบครัน ภายใต้บรรยากาศที่แสนจะเป็นธรรมชาติ

สอบถามเพิ่มเติมโทร : 02 – 100 – 8009

 

หมู่บ้านช้าง ใหญ่ที่สุดในโลก จ.สุรินทร์

ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวสามารถ เดินชมวิถีความเป็นอยู่ ความผูกพัน ของคนในชุมชนและช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลาง แต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้น ระหว่างคนกับช้าง ณ บ้านตากลาง จ. สุรินทร์ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก
หมู่บ้านช้าง ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ จ.สุรินทร์

image001

ชาวบ้านตากลาง ดั้งเดิมเป็น ชาวส่วย (กูย) หรือ กวย ที่มีความชำนาญในการคล้องช้างป่า ฝึกหัดช้าง และเลี้ยงช้าง ส่วนมากต้องเดินทางไปคล้องช้างบริเวณชายแดนต่อเขตประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย ปัจจุบันสภาวะการเมืองระหว่างประเทศทำให้ชาวบ้านตากลาง ไม่สามารถไปคล้องช้าง เช่นแต่ก่อนได้ แต่ชาวบ้านตากลางยังคงเลี้ยงช้าง และฝึกช้างเพื่อไปร่วมแสดงในงานช้างของจังหวัดทุกปี

image002

ลักษณะการเลี้ยงช้างของชาวบ้านตากลาง เหมือนการเลี้ยงช้างไว้เป็นเพื่อน นอนร่วมชายคาเดียวกับตน ดังนั้นถ้านักท่องเที่ยวได้ไปที่บ้านตากลาง นอกจากจะได้เห็นสภาพโรงช้างดังกล่าวแล้ว ยังจะได้สัมผัสการดำรงชีวิตของ ชาวส่วย พร้อมทั้งจะได้พบปะพูดคุยกับหมอช้าง ที่มีประสบการณ์ในการคล้องช้างมาแล้วหลายครั้งได้ตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถเดินทางชมจุดบริเวณที่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลไหลมารวมกัน ซึ่งห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร มีทัศนียภาพที่งดงามน่าพักผ่อนหย่อนใจ และชวนให้ศึกษาในเชิงของธรรมชาติด้วย

image003

ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง จ.สุรินทร์ เป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างทั้งในบ้านกะโพ ตากลาง และจากหมูบ้านอื่น ๆ ในจังหวัดสุรินทร์มากกว่า 200 ตัว ซึ่งจัดให้เป็นวิถีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันของคนกับช้างโดยมีทั้งบ้าน เรือนของชาวบ้านหรือที่เรียกว่าควานช้าง และมีที่อยู่ของช้างอยู่ทั่วบริเวณเป็นวิถีชีวิตที่น่าทึ่งมากๆ  ไม่ว่าเราจะเดินไปบริเวณไหนเราก็จะพบเห็นช้างอยู่แทบทุกที่ ซึ่งช้างแต่ละตัวก็เป็นช้างแสนรู้น่ารัก ไม่ดุร้าย  และสามารถเข้ากับคนได้ง่าย ช้างบ้านตากลางเป็นช้างบ้านที่เชื่อง นอนร่วมชายคาเรือนเดียวกันกับคน  เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ช้างกับคนอยู่รวมกันได้อย่างมีความสุข

image004

โดย ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

image005

สนามแสดงช้างแสนรู้ จะมีการแสดงความสามารถอันเฉลียวฉลาดและน่ารักของช้างในศูนย์ฯ อาทิ ช้างเต้นรำ ช้างวาดรูป ช้างปาลูกโป่ง ช้างเตะฟุตบอล ฯลฯ โดยจะเปิดการแสดงทุกวัน วันละ ๒ รอบ คือ ๑๐.๓๐ น. และ ๑๔.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

image006

อาคารพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่แสดงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับช้าง อาทิ วิวัฒนาการของช้าง ช้างในยุคต่างๆ โครงกระดูกช้าง โรคที่เกี่ยวข้องกับช้าง เครื่องมือในการคล้องช้าง ภาพวิธีการจับช้างในรูปแบบต่างๆ ลักษณะสำคัญของช้าง อาหารและยาสมุนไพรช้าง วิถีความผูกพันระหว่างคนกับช้าง พิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับช้าง ขั้นตอนวิธีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับช้างที่เสียชีวิต วัฒนธรรมการแต่งกายของชาวกวยหรือกูย เป็นต้น

image007

ศาลปะกำ ที่เป็นเสมือนเทวาลัยสิงสถิตของวิญญาณบรรพบุรุษและผีปะกำ ตามความเชื่อของ ชาวกวย หรือ กูย นิยมปลูกสร้างไว้ในชุมชนคุ้มบ้าน นักท่องเที่ยวสามารถไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จาก ศาลปะกำ กันได้ ซึ่งเชื่อกันว่า ขอสิ่งได้ ได้สมปรารถนาดั่งที่ตั้งใจไว้

image008

วังทะลุ ห่างจากหมู่บ้านช้างเพียง 3 กิโลเมตร ที่นี่เป็นบริเวณที่แม่น้ำมูลไหล และลำน้ำชี มาบรรจบกัน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่จังหวัดอุบลราชธานี “วังทะลุ” เป็นสายน้ำที่แวดล้อมไปด้วยป่าที่กว้างใหญ่ไพศาล ก่อให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามซึ่งหาชมได้ยาก ยังมีความอุดมบูรณ์ทางธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งยังเป็นที่อาบน้ำของช้างในหมู่บ้านยามเย็น

image009

การแสดงช้างที่ ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง จ.สุรินทร์ มีทุกวัน วันละ 2 รอบ
รอบเช้า เวลา 10.00น.
รอบบ่าย เวลา 14.00น.

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ คนละ 50 บาท
เด็กโต คนละ 20 บาท
เด็กเล็ก คนละ 10 บาท
ชาวต่างชาติ คนละ 100 บาท

ที่มา http://travel.mthai.com