4 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง

image001

  1. ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งยอดฮิตของภาคเหนือ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และดอยปุย ที่นี่มีที่พักคอยให้บริการ แต่ควรสอบถามล่วงหน้าก่อน ที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944053 หรือ 053-222014

image002

  1. ขุนแม่ยะ จ.แม่ฮ่องสอน

ขุนแม่ยะ หรือเป็นที่รู้จักในนาม “หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ อยู่ในเส้นทางหลวง 1095 แม่มาลัย-ปาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 053-248491, 053-819349 หรือ ททท. เชียงใหม่ โทร. 053-2761640

image003

  1. สถานีเกษตรหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่

เป็นโครงการหลวงที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ การเดินทางให้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรที่ 31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง จากนั้นเลี้ยวขวาไป 18 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานีเกษตรหลวงขุนวาง ชมดอกซากุระให้เต็มอิ่ม หากต้องการที่พัก ที่นี่ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ที่ ติดต่อได้ที่ 053 114 133 , 081 960 2033

image004

  1. สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.นาน้อย จ.น่าน เลยจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ประมาณ 2 กิโลเมตรภายในถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ชมพูสะพรั่งเต็มไปหมด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทร. 081-6023199, 088-8055928, 090-0501049

image005

 

ที่มา http://travel.mthai.com/

ชวนเที่ยว กาฬสินธุ์ กับ 3 ถิ่นสุดยอดแดนอีสาน

image001

ที่รอยต่อระหว่าง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กับ อำเภอหนองกุงศรี และอำเภอยางตลาด มีเขื้อนกั้นลำน้ำแห่งหนึ่ง ที่แสนจะสวยคลาสิค เพราะเป็นลักษณะของเขื่อนดิน รูปทรงธรรมชาติ สวยงาม สูงขึ้นมาจากท้องน้ำ ราวๆ 30 เมตร เขื่อนที่ว่านั่นก็คือ เขื่อนลำปาว

การเดินทางไป ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 209 ทางหลวงสายกาฬสินธุ์-มหาสารคาม ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 แยกขวามือเข้าเขื่อนลำปาวตามถนนลาดยาง 26 กิโลเมตรสันเขื่อนยาว 7.8 เมตร กว้าง 8 เมตร

image002

เขื่อนนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2511 เพื่อปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยาง และเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้แก่ หาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน

ใครจะเชื่อว่าอีสานก็มีชายหาด แม้จะไม่ใช่ทะเล แต่ก็เป็นหาดที่นี่เป็นแหล่งตากอากาศของชาวบ้านกาฬสินธุ์ได้ อารมณ์ก็เหมือนได้ไปเที่ยวชายทะเล หลายคนเวลามาก็จะมานั่งหามุมร่ม ๆ ปูเสื่อสั่งอาหารมาทานกันก็ได้ เสื่อบริการฟรี ถ้าสั่งอาหารกับเจ้าไหน เขาจะตามเอาเสื่อมาปูให้

image003

หาดดอกเกด อยู่บริเวณทะเลสาบตรงหัวเขื่อนติดกับ สนง.โครงการเขื่อน เป็นชายหาดกรวด ไม่ลึกชัน น้ำใสสะอาดในฤดูแล้งหาดจะกว้างใหญ่ขึ้น บรรยากาศที่นี่ดูไปก็คล้ายบางแสนก่อนที่จะปรับปรุงล่าสุด ที่นี่ในวันหยุดมีผู้คนไปพักผ่อนเล่นน้ำกันมาก มีทั้งร้านอาหารและเครื่องเล่นทางน้ำหลากชนิดบริการ และมีศาลาพักร้อนเถียงนาน้อย ซุ้มดอกเห็ด แวดล้อมไปด้วยสวนหย่อม ปลูกไม้ดอกไม้ ประดับสวยงาม ร่มรื่นดี

เหตุที่ได้ชื่อ “หาดดอกเกด ก็เพราะมีต้น การะเกด ซึ่งเป็นไม้ พื้นเมืองปลูกปะปนอยู่กับต้นไม้อื่นเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อเวลาออกดอกจะส่งกลิ่นหอมอบอวลชวนชื่นใจยิ่งนัก

ใครจะไปหาดดอกเกด ก็ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 209 (กาฬสินธุ์-มหาสารคาม) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 10 เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถใช้ได้ คือ เส้นทางสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ แยกเลี้ยวซ้ายผ่านอุทยานสัตว์ป่าลำปาว โดยใช้ถนนบนสันเขื่อน หรือถนนแนวหลังสันเขื่อนได้อีกเส้นทางหนึ่ง

image004

เที่ยวกันจนเกือบเย็นย่ำ ไม่รอดูพระอาทิตย์ลับของฟ้านั้นก็กะไรอยู่ แล้วที่กาฬสินธุ์นี่ ก็มีเป็นผืนดินที่ยื่นเข้าไปในบริเวณอ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สุดแสนจะโรแมนติคไม่แพ้แหลมพรหมเทพเลยทีเดียว

ชาวบ้านเรียกที่ตรงนี้ว่า แหลมโนนวิเศษ พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่สวยงาม มีลักษณะเป็นผืนดินยื่นเข้าไปในเขื่อนลำปาวน้ำก็ล้อมเข้ามาแล้วท่วมไม่ถึงเนินดินที่สูงขึ้นซึ่งมีลักษณะเป็นแหลม คำว่าโนน(ภาษาถิ่น)มาจากคำว่าเนิน เป็นลักษณะของดินที่สูง จึงเรียกแหลมโนนวิเศษ ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นแหลมโนนวิเศษเนื่องจากการกร่อนเสียงของภาษาจาก “พิเศษ” เป็น “วิเศษ” โดยมีความหมายใกล้เคียงกัน และวิเศษมีความหมายที่ดี ชาวบ้านจึงเรียก แหลมโนนวิเศษ มาจนถึงปัจจุบันนี้

image005

ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามเหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหมาะที่จะพาสมาชิกในครอบครัวมาเที่ยวและมาปิกนิก ทุกช่วงเย็นในฤดูร้อนและฤดูหนาวจะมีผู้มาเที่ยวตากอากาศพักผ่อน เล่นน้ำ บ้างก็เล่นกีฬาทางน้ำ ตกปลา หาหอยน้ำจืดเพื่อมาบริโภค นับว่าเป็นทรัพยากรทางน้ำที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำจืดนานาพันธ์

เมื่อมองมาทางทิศตะวันออกจากแหลมโนนวิเศษสามารถมองเห็นภูกุ้มข้าวและภูสิงห์ ถือเป็นที่ปิดท้ายความประทับใจของการมากาฬสินธุ์ครั้งนี้เลย

ที่มา

http://travel.mthai.com/

 

 

เผยความลับ เฟรนซ์ฟรายส์แมคโดนัลด์ ที่คุณไม่เคยรู้

เป็นที่รู้กันดีว่าเฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัล อร่อยจนครองใจผู้คนทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดทำการสาขาแรกในปี 1948 หลายๆ แบรนด์หรือหลายๆ ร้าน นั่นมีเมนูเฟรนซ์ฟรายส์เช่นเดียวกันแต่ทำยังไงก็ไม่เหมือน เฟรนซ์ฟรายส์แมคโดนัลด์ และหลายคนก็คิดไปต่างๆ นานาว่า เฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์นั่นไม่ได้ทำจากมันฝรั่ง

image001

จนกระทั่ง นายแกรนด์ อิมาฮาร่า จากรายการ MythBusters ท้าพิสูจน์กระบวนการผลิตในโรงงานผลิตมันฝรั่งทอดขแงแมคโดนัลด์ ในรัฐไอดาโฮ เพื่อพิสูจน์ในแน่ชัดไปเลยว่าแท้จริงแล้วเฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์นั่นทำมาจากมันฝรั่งจริงหรือไม่

image002

นายแกรนด์ อิมาฮาร่า ดูการผลิตทุกขั้นตอน แล้วยืนยันว่าเฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์ทำจากมันฝรั่งแท้ๆ โดยคัดเลือดมันฝรั่งคุณภาพดี ยังมีส่วนผสมอีก 13 ชนิด

image003

Advertisement

ส่วนประกอบทั้งหมดของเฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์

  • มันฝรั่ง
  • น้ำมันคาโนลา
  • น้ำมันถั่วเหลือง
  • น้ำมันถั่วเหลืองไฮโดรจีเนต
  • กลิ่นเนื้อธรรมชาติ
  • ธัญพืชไฮโดรไลซิส
  • กรดซิตริก
  • ไดเมทิลพอลิไซโลเซน
  • น้ำตาลเด็กซ์โตรส
  • โซเดียมท แอซิค ไพไรฟอสเฟต
  • เกลือ
  • เทอร์ไทอารี บัวทิล ไฮโดรควิโนน
  • น้ำมันข้าวโพด

ส่วนบางอย่างเราอาจจะไม่รู้จักหรือเคยได้ยินแน่นอน แต่วัตถุดิบเหล่านี้มีการยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแน่นอน (แต่อย่างว่าการทานของทอดเป็นประจำอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้) นำไปทอดโดยโรงงาน และเติมเกลือเล็กน้อยก่อนนำไปแช่แข็ง และนำส่งไปยังสาขาต่างๆ จากนั้นนำมาทอดอีกครั้งหนึ่งแล้วนำไปส่งต่อถึงมือผู้บริโภค

image004

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแมคโดนัลด์สหราชอาณาจักรระบุว่า “ส่วนผสมข้างต้นเป็นสูตรที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่สูตรสำหรับสหราชอาณาจักร”

เฟรนซ์ฟรายส์ของสหราชอาณาจักรนั้นใช้ส่วนผสมแค่ มันฝรั่ง น้ำมันดอกทานตะวัน มันมันผักกาดก้านขาว น้ำตาลเด็กซ์โตรส และ เกลือ เท่านั้น โดยจะใส่เกลือตอนลูกค้าสั่ง และลูกค้าจะสั่งโดยไม่ใส่เกลือก็ได้

image005

นั่นก็เป็นที่มาและไขข้อข้องใจว่าทำไมเฟรนว์ฟรายส์ที่เราทำเองและซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นณรสชาติไม่เหมือนของแมคโดนัลด์ ร้านแบรนด์ดังแต่ละแบรนด์ต้องหาสูตรพิเศษเฉพาะตัวที่แบรนด์อื่นไม่สามารถทำให้เหมือนได้ เพื่อเป็นจุดขายของแต่ละแบรนด์นั้นให้แต่งต่างกันไป สุดท้ายแล้วเฟรนซ์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์ที่เราหลอกเลียนแบบไม่ได้ที่แท้ทำมาจากมันฝรั่งแท้ๆ นั่นแหละค่ะ เพียงการผลิตใส่วัตถุดิบปรุงแต่งให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้นนั้นเอง

ที่มา Metro.co.uk
เรียบเรียง โดย food.mthai.com