ไฮไลท์ปลายฝน 7สุดยอดจุดชมวิวทะเลหมอก

ไฮไลท์ปลายฝน กับ 7 สุดยอดจุดชมวิวทะเลหมอก

 

เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบเต็มตัวแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงหนีไม่พ้นการชมวิว
ทะเลหมอกในที่ต่าง ๆ การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งการเดินป่า นอนเต๊นท์ ชมทุ่งดอกไม้
ตื่นมารับแสงยามรุ่งอรุณ หรือออกมาส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้
า ล้วนแล้วแต่เป็นภาพแห่ง
ความประทับใจ ในเราเก็บความรู้สึกเอาไว้ผ่านภาพถ่าย อยากจะแนะนำ 7 สุดยอดจุดชมวิวทะเล
หมอก
ที่คุณควรไปชมก่อนสายฝนจะจากไป …

 

1.ภูทับเบิก

 

01

แม้จะถูกมนุษย์รุกพื้นที่ไปพอสมควร แต่ ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความ
สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเพชรบูรณ์ ยังคงเป็นแหล่งชมทะเล
หมอกยอดนิยมไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยภูมิประเทศมีความงดงามอย่างมาก เต็มไปด้วยทะเลภูเขา
ป่าไม้และธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและ
กลุ่มเมฆ มองเห็นเป็นทะเลหมอกตัดกับยอดภูสีเขียว และยังเป็นเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่
ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
 อีกด้วย

 

2.ภูทอก

 

02

 

จุดชมวิวภูทอก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สถานที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสปุยของทะเล
หมอกได้อย่างใกล้ชิดแบบสุด ๆ ถ้าหากมองในระยะไกลเบื้องหน้าจะเห็นวิวทะเลหมอกขาวโพลน
ตัดกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ซึ่งนอกจากวิวของทะเลหมอกแล้วยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิว
360 องศา แบบพาโนราม่าของเมืองเชียงคานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก่งคุดคู้และลำน้ำโขง ด้วยภู
แห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบบริบูรณ์ด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์ ในช่วงเวลา
การชมทะเลหมอก คือในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาวแบบนี้แหละ

 

3.ขาพะเนินทุ่ง

 

03

 

เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล
ประมาณ 1,207 เมตร มีทะเลหมอกให้ชมแทบจะตลอดปี ซึ่งเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของผืน
ป่าและต้นไม้
 ที่พร้อมใจกันคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนกลายเป็นทะเลหมอก
หนาตา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันอย่างเต็มที่ในช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มควันแห่งความหนาวสีขาว
นวลปกคลุมทั่วหุบเขา เมื่อเริ่มจางลงบริเวณเบื้องล่างจะปรากฏภาพป่าดงดิบอันแสนชุกชุม มีเทือก
เขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตาอยู่ด้านหลังโดยจุดชมทะเลหมอกจะมีอยู่ 2แห่งคือ จุดชมวิว
กิโลเมตรที่30 และ 36

 

4.ดอยผาตั้ง

 

04

 

ดอยผาตั้ง มีความสูงประมาณ 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นยอดดอยในเทือกเขาหลวงพระ
บาง เป็นเส้นแบ่งเขตไทย-ลาว อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 30 กิโลเมตร ดอยผาตั้ง ถือเป็นจุดชม
วิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ชาวท้องถิ่นที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ คือ
ชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่
แอปเปิ้ล และชา เป็นหนึ่งสีสันแห่งวัฒนธรรมชนเผ่า

 

 

5.ดอยเมี่ยง

05

ดอยเมี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน สวรรค์เมืองหมอกป้ายแดง ที่ปักหมุดอยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร ใน
พื้นที่ป่าดิบชื้นและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพญาเสือ
โคร่ง
 ต้นมะค่า ความสุขโดยสัมผัส คือการไปยืน ณ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ
ทิวทัศน์ของเมือง
ปายได้อย่างสวยงาม แบบสุดสายตา 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาว
เย็นและมีลมพัดโชยสบายทุกฤดูกาล

 

6.ดอยแม่ระเมิง

 

06

 

ดอยแม่ระเมิง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่เมย ที่คุ้มค่าน่าไปและไม่ไกลเหมือนจุดชมทะเล
หมอกแห่งอื่น คือ ทะเลหมอกสวยในฝัน ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่มีผิดหวัง หากคุณไปตรงวันเวลา ถูก
ฤดูกาล ทุกเช้าก่อนรุ่งสางรอชมตะวันขึ้นกับทะเลหมอกมองได้ 180 องศา จุดชมวิวที่ดีที่สุดก็คือ
ม่อนกิ่วลม ก่อนกลับแวะไปชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง 200 ปี เป็นของแถม จะรู้ว่าทำไมผู้คนอยู่ลึก
กลางขุนเขาไม่เคยย้ายถิ่นฐานยาวนานถึง 200 ปี

7.เขาไข่นุ้ย

 

07

เขาไข่นุ้ย” หรือ “ภูไข่นุ้ย“ จังหวัดพังงา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 200 เมตร ความสูง
กำลังพอดีให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามในหน้าฝนและหนาวแบบไม่ต้องออกแรงมาก นับเป็น
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา ซึ่งเวลานี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเพราะมี
ทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ฤดูร้อน หากจะเดินทางมาชมทะหมอกแนะนำให้มาใน
ช่วงที่มีคลื่นลมทะเลสงบเท่านั้น นักท่องเที่ยวถึงจะได้เห็นปุยขาวของทะเลหมอกบนเขาไข่นุ้ย
แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://travel.mthai.com/blog/125091.html

ผจญภัยสุดมันส์กับ 5 ที่เที่ยววัดใจขาลุย

ผจญภัยสุดมันส์กับ 5 ที่เที่ยววัดใจขาลุย
กิจกรรมเอ็กซ์ตรีมสุดมันส์ วัดใจขาลุย ทั้งตื่นเต้น หวาดเสียว ไปกับกิจกรรมสะเทินน้ำ สะเทินบก
ไม่ว่าจะขับรถตะลุยป่า โหนสลิงจากยอดไม้สูง ปีนผา บันจี้จัมพ์ ฯลฯ ถ้าอยากรู้ว่าใครใจกล้าจริง
หรือแค่ราคาคุย งานนี้ต้องไปพิสูจน์กันซะแล้ว!

 

1.เอ็กซ์ เซ็นเตอร์ (Chiang Mai X-Centre) – เชียงใหม่

01

 

เหยียบให้มิด บิดให้สุด! แล้วไปตะลุยป่าแม่ริมกับรถบักกี้จิ๋วจอมโหด กันที่ เอ็กซ์ เซ็นเตอร์
(
Chiang Mai X-Centre) จ.เชียงใหม่ ซิ่งบักกี้ไปตามเส้นทางวิบากในเขตอำเภอแม่ริม ตลอดทาง
ยังมีธารน้ำให้ลุยฝ่าฟันเป็นระยะๆ แต่จุดที่ระทึกสุดๆคือตอนขาลงนี่แหละค่ะ ขอบอกว่ายิ่งขึ้นสูงเท่
าไหร่ตอนลงก็ยิ่งเสียวเท่านั้น ไปมันส์กันต่อกับกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โกคาร์ท
(
Go-Kart) บันจี้จัมพ์ เพ้นท์บอล ซอร์บบอล (เครื่องเล่นยอดนิยม) และอีกมากมาย…ใครกล้าเราขอท้าให้ลอง!

 

ที่ตั้ง: 263 หมู่ 1 ถ.แม่ริม-สะเมิง ต.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180
เวลาทำการ: 9.00 – 18.00 น. ทุกวัน

 

 

2.เอ็กซ์ตรีม แอดเวนเจอร์ ภูเก็ต (Xtrem Adventures Phuket) – ภูเก็ต

 

02

 

โหนสลิง ท้าทายความสูง สุดหวาดเสียว ที่ เอ็กซ์ตรีม แอดเวนเจอร์ ภูเก็ต (Xtrem Adventures Phuket)จ.ภูเก็ต กิจกรรมบนยอดไม้สุดมันส์แห่งใหม่ในภูเก็ต ที่มีฐานเครื่องเล่นมากที่สุดถึง 72 ฐาน บนพื้นที่กว่า 10 ไร่

03

ชวนให้ลองมาทดสอบความแข็งแรงและความกล้ากันดูกับกิจกรรมโหนรอกสลิง(Zip Wire) เดินทรงตัวบนสลิงสูง ปีนตาข่าย และปีนต้นไม้ใหญ่ที่สูงถึง 25 เมตร เพื่อขึ้นไปชมวิวทะเลอ่าวฉลองอันงดงาม พร้อมตะลุยฐานกิจกรรมต่างๆซึ่งแบ่งไปตามระดับความยาก กว่าจะผ่านด่านครบเล่นเอาเหงื่อแตกเหงื่อแตน ผจญภัยสมชื่อจริงๆ
04

ที่ตั้ง: 54/17 หมู่ 6 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83130
เวลาทำการ: 10.00 – 18.00 น. ทุกวัน
โทร: 07 6383 689 และ 08 1536 8909

 

3.เดอะฮอร์สชู พอยท์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ
(The Horseshoe Point Resort & Country Club) – พัทยา

 

05

 

เดอะ ฮอร์สชู พอยท์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรี คลับ ที่พัทยา จะมีกิจกรรมและกีฬาสันทนาการให้
เล่นสนุกตื่นเต้นเยอะขนาดนี้ ตั้งแต่ กีฬาเพ้นท์บอล แรลลี่เดินเท้าและแรลลี่จักรยาน กีฬาทางน้ำ
(
Pool Games) กิจกรรมสร้างแพ กิจกรรมเดินป่า กีฬาเทนนิส รักบี้ รวมไปถึง กีฬาขี่ม้า ซึ่งถือเป็น
ไฮไลท์ของที่นี่

06

ทางคลับยังมีโรงเรียนสอนขี่ม้าสำหรับผู้ขี่ทุกระดับตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพเลยทีเดียว…ได้
เล่นออกกำลังสนุกๆ แถมมีที่พักบรรยากาศดีวิวสวยแบบนี้ ลองมาสักครั้งรับรองจะติดใจ
07

ที่ตั้ง: 100 หมู่ 9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

 

4.ปีนผา ท้าความกล้า ที่อ่าวไร่เลย์ – กระบี่

 

08

 

ปีนผา ท้าความกล้า ที่อ่าวไร่เลย์ จ.กระบี่ พิชิตความกลัว แล้วขึ้นไปสัมผัสความงดงามของสายลม แสงแดด และทัศนียภาพที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน น้ำทะเลสีเขียวมรกต และท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โมเม้นท์นี้เองที่คุณจะลืมความเหนื่อยจนหมดสิ้น

09

ใครที่ชอบความท้าทายของกีฬาชนิดนี้ สามารถนำอุปกรณ์การปีนผามาเอง หรือจะหาเช่าอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงจัดหาคนแนะนำวิธีการปีนผาก็ได้เช่นเดียวกัน แอบแนะนำว่าเที่ยวกระบี่ทั้งที ต้องได้ลองกิจกรรมอื่นๆอย่าง ดำน้ำดูปะการัง หรือล่องเรือชมความงามของอ่าวที่อยู่ใกล้เคียงด้วย มันถึงจะคุ้ม!

010

ที่ตั้ง: อ่าวไร่เลย์ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
โทร: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ 0 7562 2163, 0 7561 2811- 2
และ 0 7562 2164

 

5.ทรี ท็อป แอดเวนเจอร์ พาร์ค (Tree Top Adventure Park) – เกาะช้าง

 

011

 

ห้อยโหนโจนทะยานแบบทาร์ซาน กันที่ ทรี ท็อป แอดเวนเจอร์ พาร์ค (Tree Top Adventure Park)
เกาะช้าง จ.ตราด มันส์สุดๆกับเครื่องเล่นหวาดเสียว และฐานกิจกรรมรวมกว่า 30 ฐาน บนพื้นที่ป่า
ไม้เขียวขจี ใครที่ยังไม่เคยเล่นหรือใจไม่กล้าพอแนะนำให้เริ่มต้นที่ฐานง่ายๆอย่าง ปีนป่ายบน
กำแพงเชือก ไต่สะพานไม้
 ในระดับความสูงที่ไม่มากนัก

012

แล้วเตรียมพร้อมทดสอบกำลังใจขั้นสูงสุดกับ การเหวี่ยงตัวห้อยโหนเหนือยอดไม้ บนความสูง
เทียบเท่าตึก 7 ชั้น!…ฉีกกรอบการเที่ยวแบบเดิมๆ แล้วออกไปมันส์กันเลย

013

ที่ตั้ง: 115 หมู่ 1 เกาะช้างใต้ กิ่งอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด 23170
เวลาทำการ: รอบเช้า 09.00 – 12.00 น. รอบบ่าย 14.00 – 17.00 น.
โทร: 08 4462 3003

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.hotelsthailand.com/travel-guide/scoop/top-attractions/extreme-adventure-activities.html

5อันดับที่เที่ยวหน้าหนาวนอนนับดาวเคล้าไอหมอก

5 อันดับที่เที่ยวหน้าหนาว นอนนับดาว เคล้าไอหมอก

 

ชวนเพื่อนๆ ที่อยากสัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบแนบชิดธรรมชาติ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้ชุ่ม
ปอด ได้โอบกอดคนรู้ใจแบ่งปันไออุ่นท่ามกลางทิวทัศน์ของทะเลหมอกที่สวยงาม และยังได้ชม
พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า นอนนับดาวยามค่ำคืนอีกต่างหาก จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

 

1.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง / เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน

01

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมทั้ง
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ห้วยน้ำดัง มีจุดเด่นอยู่ที่จุดชมวิว ได้แก่ ดอยกิ่ว
ลม ดอยช้าง และดอยสามหมื่น และยังมีทะเลหมอก ซึ่งได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นที่สุดเหมาะกับการชมทะเลหมอก
อย่างยิ่ง แถมปิดทริปด้วยการแวะแช่เท้าให้คลายหนาวในน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ โป่งเดือด รับรองว่าต้องติดอกติดใจ

02 03

ที่ตั้ง: หมู่ 5 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 50150
เวลาทำการ: 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
โทรศัพท์: 0 5326 3910 ตลอด 24 ชั่วโมง และ 0 5324 8491 ระหว่าง 08.00-17.00 น.
เว็บไซต์: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  www.dnp.go.th

2.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ / เชียงใหม่

04

ดอยอินทนนท์” “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” จะติดอันดับต้นๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ในหน้าหนาวของเชียงใหม่เพราะนอกจากจะเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังเป็น
แหล่งรวมของพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะนกประจำถิ่นและนกอพยพ อากาศ
ที่นี่จะหนาวเย็นที่สุดในเดือนธันวาคม-มกราคม อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึง 0-4 องศาเซลเซียส สิ่งที่
ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ น้ำค้างแข็ง หรือ แม่คะนิ้ง (ชาวเหนือเรียกว่า เหมยขาบ) ภายในบริเวณอุทยา
นฯยังมี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง อ่างกาหลวง โครงการหลวงดอยอินทนนท์ และเส้นทางศึกษา
ธรรมชาติอีกหลายจุด ก่อนเดินทางกลับจะแวะสักการะพระมหาธาตุ เพื่อเป็นศิริมงคล

06 05

ที่ตั้ง: 119 หมู่7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง เชียงใหม่ 50160
เวลาทำการ: 06.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
โทรศัพท์: 0 5328 6729 (บริการข้อมูลท่องเที่ยว), 0 5328 6728 (ศูนย์กู้ภัย)
เว็บไซต์: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช www.dnp.go.th

 

3.วนอุทยานภูชี้ฟ้า / เชียงราย
07

เป็นสถานที่ยอดฮิตในการถ่ายภาพ ด้วยลักษณะโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครของยอดเขาที่ยื่นแหลมชี้
ขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินเท้าขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
กันตั้งแต่รุ่งสาง ขอย้ำว่ารุ่งสางจริงๆค่ะ เพราะต้องตื่นเช้าและออกเดินเท้าประมาณตี 5 เพื่อไปยังจุด
ชมวิว ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมทะเลหมอกที่สุด คือ เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ และช่วง
เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะผลิดอกสีชมพูงามสะพรั่งคอยต้อนรับเพื่อนๆ อยู่ริมทางเดิน

08 09

 

ที่ตั้ง: ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 57310
เวลาทำการ: 04.30-18.30 น.
ค่าเข้าชม: สอบถามได้ที่ทำการวนอุทยานภูชี้ฟ้า
โทรศัพท์: 0 5391 8764 (ที่ทำการวนอุทยานภูชี้ฟ้า),
0 5379 5345 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อ.เทิง)
เว็บไซต์: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช www.dnp.go.th

 

4.ผาเก็บตะวัน (วังน้ำเขียว) / นครราชสีมา

010

ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลัก
แบ่งเขตจ.ปราจีนบุรีและจ.นครราชสีมาที่ใหญ่ที่สุด ในบรรยากาศหนาวๆ แบบกำลังดี ยิ่งถ้าเป็นช่วง
ต้นลานออกดอกบานสะพรั่ง ทิวทัศน์ของที่นี่จะสวยงามมากๆ ไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะค่ะ แต่ให้ชมวิว
อย่างเดียวคงยังไม่พอ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ สุดสร้างสรรค์ที่อยากให้เพื่อนๆ ได้ลอง นั่นก็คือ ปลูกป่า
มะค่าโมงด้วยหนังสติ๊ก หรือใครอยากโชว์วงสวิง ก็มีไม้กอล์ฟให้ยืมแล้วแต่ความถนัด  งานนี้รับรอง
ว่ากลับบ้านไปคงได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเป็นของฝากกันถ้วนหน้าค่ะ

011 012

ที่ตั้ง: ต.ไทย สามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 30370
ค่าเข้าชม: คนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
โทรศัพท์: 0 3721 9408, 0 2562 0760
เว็บไซต์: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช www.dnp.go.th

 

5.เขาช้างเผือก (สังขละบุรี) / กาญจนบุรี

013

เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จุดที่สามารถชม
ทิวทัศน์แบบตื่นตาตื่นใจ 360 องศา จุดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สันคมมีด ซึ่งเป็นสันเขาที่มีลักษณะ
คล้ายช้างหมอบ  แต่การจะขึ้นไปถึงบนนั้น ต้องค่อยๆ ไต่หน้าผาไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ฝ่าทั้งความ
หนาวและกระแสลมที่คอยพัดพาให้ใจหวิวลุ้นระทึกไปทุกย่าง เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทาย
จริงๆ ค่ะ แต่ในช่วงที่อากาศหนาวจัด จะมองเห็นวิวของยอดเขาสูงที่ทอดตัวยาวซ้อนกันเป็นทิว
แถว คลุ้งไปด้วยหมอกหนาสีขาว ทั้งมีแสงแดดอุ่นๆ ส่องผ่านก้อนเมฆลงมา

014 015

ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตู้ ปณ.18 อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180
เวลาทำการ: 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
โทรศัพท์: 08 1382 0359 (มีลูกหาบให้บริการ), 0 3453 2114
เว็บไซต์: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  www.dnp.go.th

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.hotelsthailand.com/travel-guide/scoop/top-attractions/top-5-winter-attractions.html