ที่มา http://www.clipmass.com/movie/1184565604529838
The Red Sun (Thailand) ต๊อกปกกี่แชมป์เปี้ยนของ “เมย์ พิชญ์นาฎ”
สวัสดีค่ะมาพบกับตามรอยนักชิมและมาเฟียฟู้ดกันอีกเช่นเคย วันนี้พามาทานอาหารเกาหลีอย่างกับ
ไปเที่ยวเกาหลีอย่างไงอย่างงั้นเลยกับร้าน The Red Sun (Thailand) ต้องบอกเลยถ้ากินต๊อก
ปกกี่แบบต้นตำหรับเกาหลีที่หาทานได้ที่เมืองไทยมีที่นี่ที่เดียวเท่านั้นค่ะ
The Red Sun (Thailand) เป็นแฟรนไชส์จากประเทศเกาหลีที่มีมากกว่า 50 สาขา เป็นร้านที่
โด่งดังมากๆ ในเกาหลี The Red Sun (Thailand) แห่งนี้ที่นำทีมโดยคุณเมย์ พิชญ์นาฎ
ดาราสาวแสนสวย หนึ่งในหุ้นส่วน และผองเพื่อน ร่วมกันเปิดร้านนี้ขึ้นมา ใครที่รู้จักร้าน The Red
Sun ก็ย่อมรู้ดีว่าร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องต๊อกปกกี่ มีรางวัลการันตีเป็นถึงแชมป์เปี้ยนจากช่อง SBS
ของเกาหลีเลยทีเดียว
เมนูแนะนำ เริ่มต้นกันด้วยเมนูที่ต้องสั่ง ไม่สั่งไม่ได้แล้วกับ บูเด ต๊อกปกกี่ กับมอสซาเรลล่าชีส
มีให้เลือก 2 ไซส์ด้วยกัน หากมากันน้อยก็สั่งแค่ไซส์ S ก็พอค่ะ ในราคา 395 บาท เท่านั้น
แต่ถ้าหากมาเป็นแกงค์ให้สั่งไซส์ L สุดคุ้มในราคา 735 บาทเท่านั้น ความเผ็ดเลือกได้ 3 ระดับ
ระดับ 2 เหมาะกับคนไทยมากที่สุดค่ะ
มอสซาเรลล่าชีส บูเด ต๊อกปกกี่ (Budae Tokpokki With Mozzarella Cheese)
เมื่อพนักงานยกมาเสิร์ฟก็จะมีบริการคลุกเคล้าให้เข้ากันให้ด้วยค่ะ ทั้งนี้ยังสามารถสั่ง Topping
เพิ่มได้อีกด้วยทั้งหมด 26 อย่าง เลยทีเดียว มาเฟียฟู้ดไม่จุใจเลยสั่ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
ปลาหมึกสด ลูกชิ้นไข่ปลา ฟิชชีสสติ๊ก มาเพิ่มอีก
ต็อกปกกี่ที่อยากจะแนะนำอีกเมนูหนึ่ง คือ จาจัง ต๊อกปกกี่ ซอสจาจังสูตรพิเศษหนึ่งเดียวในไทย
ที่ส่งตรงจากเกาหลี มากับหมูสไลด์ชิ้นใหญ่
จาจัง ต๊อกปกกี่ (Jajung Tokpokki)
วิธีทาน ต๊อกปกกี่ ให้อร่อย มีอยู่ 4 ขั้นตอน
1.เมื่อหม้อมาเสิร์ฟให้เริ่มเปิดไฟแรงถึงระดับ 8
2.เติม Topping ที่สั่งมาเพิ่ม เพื่อรสชาติเฉพาะตัว
3.รอให้น้ำเดือดจนให้น้ำข้น 4-6 นาที ยังบอกอีกด้วยว่ายิ่งเคี่ยว ยิ่งข้น ยิ่งอร่อย
4.ลดไฟมาที่ระดับ 2 ซึ่งร้อนกำลังดีแล้วลงมือทานได้เลย
ยังมีอีกเมนูหนึ่งที่เป็นแชมเปี้ยนเหมือนกันกับข้าวผัดเรดซัน ที่ทางร้านเรียกว่าคู่หูแชมเปี้ยนตามมาติดๆ
ข้าวผัดเรดซัน 3 หน้า (Trio Pokapoka Rice)

ถ้าจะทานให้อร่อยต้องขูดจนถึงก้นกระทะเลยค่ะ จะมีความกรอบและหอมซ่อนอยู่ ข้าวผัดเรดซัน
มี 2 ไซส์เหมือนกันค่ะ ไซส์ S และ L ไซส์ S ราคาอยู่ที่ 195 บาท ไซส์ L ราคา 365 บาท
ต๊อกคาโบนาร่า (Tok Carbonara) 180 บาท อยากลิ้มรสของต๊อกแบบเต็มๆ
ต๊อกมีความนุ่มหนึบๆ ผสมกับซอสคาโบนาร่า
โจลเมียนหมู Redsun (Daejikoki Jolmyun) 145 บาท หมูสไลด์ออแกนิคที่คลุกเคล้ากับ
ซอสสูตรเข้มข้นของเรดซันเท่านั้น ทำให้โจลเมียนหมูจานนี้อร่อยไม่เหมือนใคร
กิมจิชิคเก้นเชคกี้ (Kimchi Chicken Shaky) 130 บาท ไก่เนื้อแน่นปรุงรสกิมจิสูตรลับ
เฉพาะของเรดซัน เป้นเมนูทานเล่นก็ได้ ทานจริงจังก็ดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://food.mthai.com/mafia-food/96233.html
สุกี้ยากี้สไตล์แต้จิ๋วที่ได้รับการยอมรับมายาวนานกว่า 50 ปีอย่าง สุกี้ยากี้ นัมเบอร์วัน ได้ถูกนำมาปัดฝุ่นเอาใจคนยุคใหม่ ให้ได้สัมผัสรสชาติคลาสสิคตามแบบฉบับแต้จิ๋วที่หากินยาก และยังขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อหมูหมักนุ้มนุ่ม ในน้ำซุปหอมกรุ่น ผสานกับน้ำจิ้มสูตรลับเฉพาะ

สุกี้ยากี้ นัมเบอร์วัน สูตรแต้จิ๋ว ต้นตำรับยาวนานกว่า 50 ปี
ปัจจุบันสุกี้ยากี้ นัมเบอร์วัน มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สาขาที่ตามรอยนักชิมมาวันนี้ ก็คือสาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ชั้น 6 The Foodies Zone และยังมีที่สาขาเดอะไนน์ พระรามเก้า East Village Zone กับสาขาอาคารกลาสเฮ้าส์ รัชดา ชั้น 2 เหนือ Max Value อีกด้วย
เมื่อเข้ามาในร้าน สุกี้ยากี้ นัมเบอร์วัน สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสไตล์จีนร่วมสมัย ที่ผสมผสานศิลปะแบบจีน มีสลักลวดลาบบนเนื้อไม้ที่ประดับตกแต่งภายในร้าน ให้บรรยากาศอบอุ่น พร้อมตกแต่งรูปภาพในวันวานของร้านสุกี้ยากี้ นัมเบอร์วัน ทำให้ลูกค้าได้หวนคิดถึงความอร่อยที่เคยลิ้มลองในอดีต และเติมเต็มบรรยากาศการทานอาหารแบบครอบครัวได้อย่างดี
ความพิเศษของซอสหมักหมูสูตรต้นตำรับ ทางร้านคัดสรรส่วนผสมชั้นดีนานาชนิด นำมาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้เนื้อสัตว์ที่นำมาหมักมีความอร่อยลงตัว
ตามมาด้วยทีเด็ดของน้ำจิ้มที่พลาดไม่ได้ ถือเป็นสูตรลับที่คงความอร่อยสืบทอดกันมา โดยมีส่วนผสมหลักอย่างเต้าหู้ยี้ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน โรยหน้าเพิ่มความมันด้วยถั่วลิสงคั่ว เป็นแบบฉบับแท้ของสุกี้แบบแต้จิ๋วโบราณ
มาถึงเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่อยากแนะนำ ก็คือ
ชุดหมูหมักนัมเบอร์วัน :ใช้เนื้อหมูสันนอก แร่เอาเอ็นและไขมันออกจนหมด เหลือแต่เนื้อนุ่มๆ นำไปหมักที่อุณหภูมิที่พอเหมาะ
ชุดเนื้อหมักนัมเบอร์วัน : ที่เลือกใช้เฉพาะเนื้อลูกมะพร้าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อสะโพกวัวที่มีไขมันน้อยมาสไลด์ หมักกับน้ำหมักสูตรลับจนได้เนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมไข่
ชุดทะเลหมักนัมเบอร์วัน : ประกอบไปด้วยเนื้อปลา ปลาหมึกกรอบ ปลาหมึกสด กุ้งสด หมักกับน้ำหมักเสิร์ฟพร้อมไข่
ลูกชิ้นสูตรเฉพาะของร้าน นำกุ้งตัวโต เนื้อหมูบด พร้อมเครื่องปรุงนานาชนิด มาคลุกเคล้าให้เข้าเนื้อ พร้อมหมักเพื่อเพิ่มรสชาติและความเหนียวเด้ง
ลูกชิ้นปลาชีส : ความอร่อยอยู่ตรงที่ ลูกชิ้นสอดไส้ชีสด้านใน เมื่อนำลงมาต้มในหม้อ รอให้สุกกำลังพอดี และกัดเข้าปากคำแรก คุณจะสัมผัสได้ถึงชีสหอมๆ ร้อนๆ ที่ไหลออกมา
เนื้อผัดน้ำมันหอย : ใช้เนื้อหมักในตำนานของสุกี้ นัมเบอร์วัน มาผัดกับผักสดนานาชนิด ปรุงรสด้วยซอสน้ำมันหอยสูตรพิเศษ ถ้าได้ทานแล้วจะลืมไม่ลง
ข้าวอบหม้อดิน : ใช้ข้าวหอมมะลิมาบุญครอง เม็ดโต เหนียวนุ่ม นำมาผัดกับเนื้อไก่หมักนัมเบอร์วัน กุ้งสด และเม็ดแปะก๊วย พร้อมส่วนผสมต่างๆ นำลงไปอบในหม้อดินพร้อมเสิร์ฟ
ปอเปี๊ยกุ้งทอด : นำกุ้งสับมาหมักกับเครื่องเทศ อย่าง ผักชี กระเทียม และพริกไทย ก่อนนำมาห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะ และทอดกรอบ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย
และเพื่อความครบสูตรในการมาทานอาหารร้านสุกี้ ต้องสั่งเมนูติ่มซำ ที่มีให้เลือกทานหลากหลาย รับรองอร่อยไม่แพ้ที่อื่นแน่อน