สัมผัสกาแล็คซี 10 ที่เที่ยวนอนชมดาว ส่องทางช้างเผือก

สัมผัสกาแล็คซี 10 ที่เที่ยวนอนชมดาว ส่องทางช้างเผือก

การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง ก็ย่อมสร้างความประทับใจแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าคุณจะพบเจอธรรมชาติแบบไหน พวกเขาก็พร้อมจะมอบความสุขให้คุณเสมอ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแสงยามเช้า ความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า คลื่นทะเลหมอก ความโรแมนติกของดวงจันทรา ผืนป่า ต้นหญ้า และหมู่ดอกไม้ แต่สิ่งหนึ่งที่ travel.mthai.com อยากจะนำเสนอ นั่นก็คือความอลังการของดวงดาราและทางช้างเผือกยามค่ำคืน ไปพบกับ 10 ที่เที่ยวนอนชมดาว ส่องทางช้างเผือกกันครับ ถ้าชอบ ก็ตามรอยไปเที่ยวกันได้เลย

สำหรับการจะชมดาวหรือทางช้างเผือกด้วยตาเปล่า จะมีให้เห็นในคืนเดือนมืดเท่านั้น แล้วแต่สภาพท้องฟ้า และต้องไม่มีแสงรบกวน และเดี๋ยวนี้ก็สะดวกมากขึ้นเพราะมีแอพลิเคชั่นแนะนำช่วงวันเวลาในการมองเห็นด้วยนะ โดยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ของช่างภาพสายท่องเที่ยว

1. ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่

เดินป่าฝ่าความสูงกับยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ในเมืองไทย

01

2. วัดป่าสว่างบุญ จ.สระบุรี

พระมหาเจดีย์ 500 ยอด กลางวันงดงามอร่ามตา กลางคืนพร่างพราวกับดวงดารา

02

3. สามพันโบก จ.อุบลราชธานี

มหัศจรรย์แก่งหิน ราวกับเดินสำรวจในโลกดึกดำบรรพ์

03

4. หาดขนอม จ.นครศรีธรรมราช

ชายหาดแดนใต้อันเงียบสงบ ฟังเสียงเกลียวคลื่น ยืนมองดวงดาว สุกสกาวเต็มฟ้า

05

5. ภูกระดึง จ.เลย

เส้นทางเดินป่าสุดคลาสสิก กินลม ชมวิว ชิลน้ำตก ค่ำคืนก็มายืนชมดาว

06

7. บึงบัว เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

สะพานไม้ทอดยาว พื้นล่างเป็นบึง เบื้องบนคือดวงดาว เคียงข้างด้วยขุนเขาอันยิ่งใหญ่

07

8. เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี

มาดูช้างเผือก จะพลาดเขาช้างเผือกได้อย่างไร เหมือนเกิดมาเป็นของคู่กัน

08

9. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จ.อุบลราชธานี

ยามค่ำคืน ชมต้นไม้เรืองแสง พร้อมหมู่ดาวมาเป็นพยาน กับวัดที่ฮอตที่สุดในเมืองอุบลฯ

09

10. เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

อลังการกับโคตรทะเลหมอกยามเช้า แถมยามค่ำคืนยังจะได้ฟินกับหมู่ดาวนับล้านดวง

10

ขอบคุณภาพถ่ายสุดงาม จาก …

คุณพชร เกรียงเกร็ด:  Little Potchara

คุณสุรเชษฐ์ เจียมตน:  สุรเชษฐ์ เจียมตน

เรื่องโดย: Travel MThai

 

 

 

 

 

 

 

 

 

5 คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิค สโลว์ไลฟ์ตามสไตล์คนเมือง!

5 คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิค สโลว์ไลฟ์ตามสไตล์คนเมือง!

ในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้มีคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นหลายที่เลยทีเดียว ซึ่งเน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ชิลๆ เน้นธรรมชาติมากกว่าโครงสร้างแบบตึกที่ดูแออัด ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชอบนั่งจิบกาแฟ สังสรรค์พบปะกัน วันนี้ Travel.mthai ขอแนะนำ 5 คอมมูนิตี้มอลล์สุดชิค สโลว์ไลฟ์ตามสไตล์คนเมือง! ที่กำลังมาแรงในตอนนี้มาฝากกันค่ะ

01

1. ฮาบิโตะ (Habito): สุขุมวิท 77

02

คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งบริเวณนั้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้เขียวขจี ทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมช้อปปิ้ง กินของอร่อยๆ ได้ นี่แหละสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี ตั้งอยู่ภายในโครงการ T77 ซอยสุขุมวิท 77 หรือ อ่อนนุช ซอย1 โดยที่นี่เขามีแนวคิดที่ว่า “Habito: The Heart of Good Living” มอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดเย็นแก่คนรุ่นใหม่

ภายใน ฮาบิโตะ (Habito) ประกอบด้วยร้านค้าจำนวน 32 ร้าน ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าและบริการต่างๆอย่างครบครัน

03

04

2. เดอะ คอมมอนส์ (The Commons): ทองหล่อ ซอย 17

05

คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 17 ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Wholesome living” ตอบโจทย์คนเมืองในปัจจุบันที่เน้นใส่ใจสุขภาพ ตัวอาคารตกแต่งสไตล์ลอฟต์ โครงสร้างแบบเปิดโล่ง ใช้ปูนเปลือย พร้อมผสมผสานกับธรรมชาติด้วยต้นไม้สีเขียว ทำให้คนที่มาจะได้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย

เดอะ คอมมอนส์ แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ Market, Village, Play Yard, Top Yard มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ ตกแต่งเก๋ๆ อยู่หลายร้าน รับรองว่ามาทีนี่คุณจะได้เพลินเพลินกับอาหารแสนอร่อยพร้อมกับนั่งชิลสโลว์ไลฟ์ได้แบบไม่สิ้นสุด

06

3. เดอะ สตรีท (The Street Ratchada)

07

เป็นตรีทมอลล์สุดชิคที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้เป็นอย่างดี เปิดแบบ 24 ชั่วโมง! ทั้งตั้งอยู่ในทำเลกลางใจเมืองอย่างถนนรัชดา ที่คึกคักและมีสีสันในยามค่ำคืน ออกแบบโครงสร้างที่ทันสมัย เท่ สุดๆ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารแบบจุใจ รวมถึง Supermarket ที่เปิด 24 ชั่วโมง แบบไม่ต้องกังวลว่าจะหิว!! ซึ่งที่นี่มีทั้งหมด 5 ชั้น มีร้านค้า, ร้านอาหาร, โซน IT Zone, ธนาคาร และบริการอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งมีกิจกรรมสนุกให้เล่นกันอีกด้วยกับ “Bounce” สปอร์ตเทนเม็นท์ใจกลางเมือง มีแทรมโพลีนจากประเทศออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตั้งอยู่ และจำลองหน้าผาให้ได้เล่นออกกำลังกันด้วย!

08

4. เดอะ เซ้นส์ ปิ่นเกล้า (The Sense Pinklao)

09

คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ย่านปิ่นเกล้า ออกแบบสไตล์ร่วมสมัย (contemporary) แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะคงความกลมกลืนกับธรรมชาติ ประกอบไปด้วย ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร, เบเกอรี่, ร้านค้า, ความงาม, เครื่องดื่ม, สุขภาพ

5. สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market): พระราม 4

10

สวนเพลิน มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่ ตั้งอยู่ตรงข้ามตึกมาลีนนท์ มีคอนเซปต์ “เพลินจิต เพลินใจ เพลินช้อป เพลินชิม” ออกแบบตกแต่งสไตล์ อินดัสเทรียล ลอฟท์ จำลองบรรยากาศสถานีรถไฟ เพราะด้านหลังในอดีตเคยเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกในประเทศไทย ที่เรียกว่า “สายปากน้ำ” นั่งเอง มีร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกมากกว่า 250 ร้านค้า มีจุดเด่นหลักที่ โซน Food & Beverage อีกทั้งมีงานกิจกรรม ที่ทางโครงการจะจัดงานอยู่เป็นประจำ

11

ขอบคุณข้อมูล: http://travel.mthai.com/blog/142231.html

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Older… แฮงค์เอาท์ก็ได้ จัดหนักก็ดี

Older… แฮงค์เอาท์ก็ได้ จัดหนักก็ดี

01

จากตึกเก่า ถูกปรับปรุงจนกลายเป็นร้านลุคดิบๆ หรูๆ สไตล์ยูโรเปียนคลาสสิคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนค้นหา เพิ่มความขรึมด้วยเฟอร์นิเจอร์หนัง แต่ยังดูอบอุ่น เสมือนนั่งอยู่บ้าน เคล้าคลอด้วยดนตรีเพราะๆ ทั้งเพลงไทยและเพลงสากล รวมถึงดนตรีสดแนวอินดี้ร็อคหรือเบเกอรี่ฟลูแบรนด์ทุกคืน บรรยากาศแบบนี้ขอยกให้ร้าน Older ว่าคือที่สุดแล้ว!!

02

03

04

ร้าน Older ใส่กิมมิกเก๋ๆ ด้วยการใช้ผนังแทนจอภาพยนตร์ตามมุมต่างๆ เหมาะกับการดินเนอร์และนั่งดริ๊งก์สุดๆ เพราะนอกจากจะมีเมนูอาหารสไตล์ฟิวชันและญี่ปุ่นรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ตั้งแต่กับแกล้มไปจนถึงหนักท้องให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีเครื่องดื่มเพียบ…

05

06

เริ่มกันด้วยเมนูกินเล่นอย่าง Raw Prawn Wagame Garlic Chilli กุ้งแช่น้ำปลาราดซีฟู้ดรสจัด เสิร์ฟคู่กับสาหร่ายญี่ปุ่นสามชนิด Caramall ปลาหมึกชุบแป้งทอดกับซอสหมึกดำเป็นอีกหนึ่งเมนูกินเล่น เผ็ดนิดๆ กินได้เพลินๆ ต่อด้วย Salmon Pistchio and Chili แซลมอนย่างกับพริกสด เนยและกระเทียม รับประทานคู่กับถั่วพิสตาชิโอและสลัด Pasta Tiger Prawn Tom Yam พาสต้ากุ้งลายเสือตัวใหญ่ผัดแห้งกับซอสต้มยำ แบบไทยๆ ท้อปด้วยโฟมผักชีและไข่แซลมอน อร่อยเลิศแทบไม่อยากวางช้อน Kurobuta Pork Serve with Thai Spicy Dressing หมูดำย่างจนได้เนื้อนุ่มละมุน เสิร์ฟพร้อมผักรวมย่าง และซอสจิ้มแจ่ว และที่พลาดไม่ได้ต้องเป็นเมนู Tuna-Tai-Mussel-Octopus Garlic & Chili ยำดิบรวมที่เต็มไปด้วยทูน่า หอยแมลงภู่ หมึกยักษ์ ท้อปด้วยไข่ปลาแซลมอน ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ด

07

08

ส่วนดริ๊งก์ ซิกเนเจอร์ก็ต้องเป็น Josephine ค็อกเทลหอมหวานซ่าแสนสดชื่น จากส่วนผสม Lamon Cello, Triple Sec, Elder Flower และท้อปด้วย Sparking บอกได้คำ เดียวว่าใครได้ลองต้องเลิฟมาก…

ที่ตั้ง: 212/5 ถนนพหลโยธิน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 (BTS สนามเป้า ทางออก 2)

เปิดทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น. โทร. 08-6383-3600

ขอบคุณรูปภาพจาก: www.bkkmenu.com

เครดิต: นิตยสาร Weekend ฉบับเดือนกันยายน 2016

อ่านเพิ่มเติม:  www.mbookstore.com และ http://food.mthai.com/food-recommend/116111.html